สรุปสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ และภัยหนาว (ข้อมูล ณ วันที่ 5 มกราคม 2552)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 7, 2009 14:15 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถานการณ์อุทกภัยและภัยหนาว ที่เกิดขึ้น และผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน ดังนี้

1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้และการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 5 มกราคม 2552)

ในห้วงระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2551 จนถึงปัจจุบัน มีฝนตกหนักมากต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่า ไหลหลากใน 3 จังหวัด 18 อำเภอ 78 ตำบล 399 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดพัทลุง ยะลา และจังหวัดนราธิวาส ดังนี้

1.1 จังหวัดพัทลุง 5 อำเภอ 18 ตำบล 123 หมู่บ้าน ดังนี้

1) อำเภอเขาชัยสน 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.เขาชัยสน (ม.1,2,8,9) ต.โคกม่วง (ม.1,2,8,10) และ ต.จอง ถนน (ม.2,4,7) ราษฎรเดือดร้อน 1,150 ครัวเรือน 3,500 คน

2) อำเภอกงหรา 2 ตำบล 11 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.คลองเฉลิม (ม.2,3,5,7) และ ต.ชะรัด(ม.1,2,3,4,5,8,9) ราษฎร เดือดร้อน 350 ครัวเรือน 1,590 คน

3) อำเภอศรีนครินทร์ 4 ตำบล 43 หมู่บ้าน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ

4) อำเภอตะโหมด 3 ตำบล 33 หมู่บ้าน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ

5) อำเภอเมือง 6 ตำบล 25 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ปรางหมู่ (ม.1-5,8) ต.โคกชะงาย (ม.1,2,4,8,9) ต.เขาเจียก (ม.3,10,11) ต.นาโหนด (ม.2,3,8) ต.ท่ามิหรำ (ม.3,6,8) และ ต.ชัยบุรี (ม.6-10) ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ

การให้ความช่วยเหลือ

จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือใน เบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือราษฎรตลอด 24 ชั่วโมง

1.2 จังหวัดยะลา 3 อำภอ 20 ตำบล 61 หมู่บ้าน ดังนี้

1) อำเภอกรงปินัง 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ปุโรง (ม. 4) ต.กรงปินัง (ม.1-5) ต.สะเอะ (ม.1,6) และ ต. ห้วยกระทิง (ม.1,3,4) ราษฎรเดือดร้อน 204 ครัวเรือน 728 คน

2) อำเภอยะหา 4 ตำบล 13 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ยะหา (ม.1) ต.ปะแต (ม.1,2,6,7) ต.บะโร๊ะ (ม.1,5) และ ต.ละแอ (ม.1-6) ราษฎรเดือดร้อน 342 ครัวเรือน 1,340 คน

3) อำเภอรามัน 12 ตำบล 39 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.กายูบอเกาะ (ม.2,6) ต.จะกว๊ะ (ม.1,3,4,5) ต.ตะโละหะลอ (ม.3-5) ต.เกาะรอ (ม.1-7) ต.อาช่อง (ม.1) ต.ท่าธง (ม.1,3) ต.วังพญา (ม.2,6) ต.เนินงาม (ม.1-7) ต.บาโงย (ม.1-4) ต. โกตาบารู (ม.4) ต.ยะต๊ะ (ม.1-5) และ ต.กาลอ (ม.3) ราษฎรเดือดร้อน 89 ครัวเรือน 410 คน

การให้ความช่วยเหลือ

จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือใน เบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือราษฎรตลอด 24 ชั่วโมง

1.3 จังหวัดนราธิวาส 10 อำเภอ 40 ตำบล 215 หมู่บ้าน

ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 23,958 คน 8,244 ครัวเรือน อพยพราษฎรไปพื้นที่ปลอดภัยแล้ว จำนวน 563 คน 168 ครัว เรือน ถนนเสียหาย จำนวน 58 สาย ท่อระบายน้ำ 6 จุด เส้นทางรถไฟระหว่างตันหยังมัส-มะรือโบตก ชำรุดระยะทาง 80 เมตร

2. สรุปสถานการณ์ภัยหนาวและการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 5 มกราคม 2552)

2.1 พื้นที่ประสบภัยหนาวที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส และได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน 36 จังหวัด สรุปได้ดังนี้

ที่           ภาค                        พื้นที่ประกาศภัยพิบัติ                                 รวม
1          เหนือ          จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน                 15 จังหวัด

ลำปาง แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ตาก อุทัยธานี

กำแพงเพชร พิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก

2       ตะวันออก          จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม สกลนคร                        17 จังหวัด
       เฉียงเหนือ          มุกดาหาร เลย ร้อยเอ็ด หนองคาย หนองบัวลำภู

บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุดรธานี มหาสารคาม

สุรินทร์ ชัยภูมิ และจังหวัดนครราชสีมา

3          กลาง          จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สระบุรี และจังหวัดลพบุรี                      3 จังหวัด
4          ตะวันออก       จังหวัดจันทบุรี                                               1 จังหวัด
รวม                                                                              36 จังหวัด

2.2 จังหวัดที่ประสบภัยหนาวในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะ กิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวระดับจังหวัดปี 2551-2552 ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และมี 42 จังหวัด รายงานว่าได้มอบผ้า ห่มกันหนาวให้แก่ประชาชนที่ขาดแคลนใน 474 อำเภอ 3,073 ตำบล 32,808 หมู่บ้าน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สมาคม มูลนิธิ ไปแล้วรวม 552,422 ชิ้น (ผ้าห่มนวม 472,559 ผืน เสื้อกัน หนาว 70,134 ตัว หมวกไหมพรม 3,317 ชิ้น อื่น ๆ 6,412 ชิ้น)

ที่          ภาค          จังหวัดที่แจกจ่ายเครื่องกันหนาว                  จำนวนราษฎรเดือดร้อน        จำนวนเครื่องกันหนาว
                                                                     จากภัยหนาว             ที่แจกจ่ายแล้ว (ชิ้น)

คน ครัวเรือน

1          เหนือ         จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่         1,420,791     487,423               283,196

น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์

อุตรดิตถ์ ตาก อุทัยธานี กำแพงเพชร พิจิตร

และจังหวัดพิษณุโลก

2          ตะวันออก      จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม สกลนคร       2,972,436      951,842              256,048

เฉียงเหนือ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร เลย ร้อยเอ็ด

หนองคาย หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ

อำนาจเจริญ อุดรธานี อุบลราชธานี สุรินทร์

ชัยภูมิ และจังหวัดนครราชสีมา

3          กลาง         จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี     173,661       72,398              13,178

สระบุรี และจังหวัดลพบุรี

4          ตะวันออก      จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดสระแก้ว                  57,275       21,472    อยู่ระหว่างดำเนินการ
           รวม          42 จังหวัด 474 อำเภอ 3,073                4,624,163    1,533,135             552,422

ตำบล 32,808 หมู่บ้าน

3. การให้ความช่วยเหลือ

3.1 การให้ความช่วยเหลือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

1) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้โอนเงินงบประมาณไปตั้งจ่ายที่คลังจังหวัดเพื่อจัดซื้อเครื่องกันหนาวให้ทันการแจก จ่ายในฤดูหนาวตามความเหมาะสมและจำเป็น รวมจำนวน 47 จังหวัด ๆ ละ 200,000 บาท เป็นเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 9,400,000 บาท นอก จากนี้ยังได้เตรียมงบประมาณ 52,927,500 บาท ใช้จัดหาเครื่องกันหนาวสนับสนุนให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตต่าง ๆ ที่รับผิดชอบ จังหวัดที่ประสบ ภัยหนาว และสำรองไว้ในคลังส่วนกลางเพื่อเตรียมการสนับสนุนให้กับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพิ่มเติม หากมี ความจำเป็นภายหลัง

2) จังหวัดมีเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุก เฉิน พ.ศ. 2551 ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับจัดซื้อผ้าห่มและเครื่องกันหนาวที่จำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย เมื่อ อุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกัน 3 วัน ในวงเงินจังหวัดหนึ่งไม่เกินงบประมาณปีละ 1,000,000 บาท (ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2551) แต่ ทั้งนี้ หากเงินฉุกเฉินดังกล่าวไม่เพียงพอ จังหวัดสามารถแจ้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอยกเว้นหลักเกณฑ์ ข้อ 5.1.18 สามารถใช้จ่ายเงิน ทดรองราชการได้อีกตามความเหมาะสมและจำเป็นในวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท

3) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนผ้าห่มกันหนาว จำนวน 200,000 ผืน มูลค่ากว่า 30 ล้าน บาท แจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ 15 จังหวัด

4. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 4-10 มกราคม 2552

4.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่าบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีน ใต้ ประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย และมีลมแรง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 5-7 มกราคม 2552 บริเวณความกดอากาศสูง ที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศา โดยจะมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงหนาวเย็นต่อไป อีก ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-10 มกราคม 2552 บริเวณความกดอากาศสูง กำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาว เย็นลงโดยทั่วไปและมีลมแรง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

4.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ให้จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เตรียมการป้องกันและแก้ไข ปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง อันเกิดจากสภาวะ ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยและชาวเรือ และให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 มกราคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ