แท็ก
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ร่างพระราชบัญญัติ
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคนขอทาน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรให้กำหนดโทษผู้กระทำความผิดตามร่างมาตรา 22,23, และ 24 ให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพการกระทำความผิดในปัจจุบันไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติคนขอทาน พ.ศ. .... เป็นการใช้บังคับแทนพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช 2484 เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้ด้อยโอกาสและจัดสวัสดิการที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ให้มี คุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ยกเลิกพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช 2584
2. กำหนดความหมายของคนขอทานตามร่างพระราชบัญญัตินี้ไม่รวมถึงวณิพก และให้มีคณะกรรมการสงเคราะห์คนขอทาน ประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการระดับกรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นผู้กำหนดนโยบาย วางระเบียบ
หลักเกณฑ์ในการดำเนินการสงเคราะห์คนขอทาน
3. กำหนดให้มีคณะกรรมการประจำสถานสงเคราะห์ ซึ่งอย่างน้อยคนหนึ่งต้องเป็นนักสังคมสงเคราะห์หรือนักจิตวิทยา โดยให้มีการดำเนินการดังนี้
3.1 กรณีคนขอทานเป็นคนต่างด้าวให้นำตัวส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
3.2 ให้สถานสงเคราะห์ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติ สติปัญญา การศึกษา สุขภาพ สภาวะแห่งจิต ที่อยู่อาศัย และบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และหากคนขอทานป่วยเป็นโรคติดต่ออันตรายก็ให้ส่งไปรักษาพยาบาล
3.3 การขอทานครั้งแรกโดยความจำเป็นเพื่อการดำรงชีพให้คณะกรรมการประจำสถานสงเคราะห์ว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้ขอทาน หากมีการกระทำขอทานอีก ให้เสนอความเห็นต่ออธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อให้รับตัวผู้นั้นไว้ในสถานสงเคราะห์ หรือส่งตัวไปสำนักงานจัดหางานของกรมการจัดหางาน
3.4 คนขอทานเป็นคนวิกลจริต จิตฟั่นเฟือน ให้คณะกรรมการประจำสถานสงเคราะห์ส่งตัวไปยังสถานพยาบาลของกรมสุขภาพจิต ซึ่งเมื่อทุเลาหรือหายจากโรคให้ช่วยเหลือตามกรณี สำหรับคนขอทานที่เป็นคนชรา คนพิการ ทุพพลภาพหรือป่วยด้วยโรคอื่นไม่ใช่โรคอันตราย ให้ดำเนินการช่วยเหลือตามควรแก่กรณีด้วย
3.5 ให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการมีอำนาจออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือ คำสั่งเกี่ยวกับการสงเคราะห์และการพ้นออกจากสถานสงเคราะห์ ตลอดจนกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ช่วยเหลือผู้พ้นจากสถานสงเคราะห์
4. กรณีผู้ใช้ให้บุคคลอื่นกระทำการขอทานซึ่งมิได้บัญญัติเป็นความผิดไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช 2484 จึงกำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้ให้ผู้ใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้าง วาน ขนส่ง หรือยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีอื่นใดให้ผู้อื่นขอทาน หรือโดยใช้ผู้อื่นเพื่อประโยชน์ในการขอทานของตนเองต้องระวางโทษทางอาญาและหากเป็นการกระทำต่อบุคคลอายุต่ำกว่าสิบแปดปี ผู้สูงอายุ ผู้เจ็บป่วย ผู้พิการหรือทุพพลภาพ หญิงมีครรภ์ กระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทำโดยนำผู้อื่นภายนอกราชอาณาจักรให้มาขอทานในราชอาณาจักร กระทำโดยเป็นผู้ปกครองดูแลของคนขอทาน กระทำโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ กระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลหรือให้คำปรึกษา กระทำโดยใช้กำลังบังคับต่อคนขอทาน กระทำต่อบุคคลในครอบครัวของคนขอทาน กระทำโดยเป็นนายหน้าหรือแสวงหาประโยชน์จากคนขอทานหรือทำร้ายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสต้องระวางโทษทางอาญาหนักขึ้น ตลอดจนกำหนดการช่วยเหลือให้คนขอทานหลบหนีระหว่างถูกส่งตัวเข้าสถานสงเคราะห์หรือออกจากสถานสงเคราะห์ต้องระวางโทษอาญาด้วย
5. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุนษย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช 2484 เป็นกฎหมายไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบันที่การขอทานมีลักษณะของการหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายของบุคคลนั้น และจากบุคคลบางกลุ่มที่อาศัยความอ่อนด้อยร่างกาย สติปัญญา ความสามารถ หรือสภาพจิตใจของบุคคลเหล่านี้ขอทาน หรือประโยชน์ในการขอทานอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งเป็นการจัดระเบียบสังคมให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งจะส่งผลต่อภาพพจน์โดยรวมของประเทศ ฉะนั้นสมควรปรับปรุงพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยยกร่างขึ้นใหม่ทั้งฉบับ เพื่อเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้ด้อยโอกาส สงเคราะห์คนชรา ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งตนเองได้ รวมทั้งกำหนดคำนิยามศัพท์และแนวทางปฏิบัติงานให้สามารถนำบทบัญญัติตามกฎหมายมาบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2549--จบ--
ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติคนขอทาน พ.ศ. .... เป็นการใช้บังคับแทนพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช 2484 เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้ด้อยโอกาสและจัดสวัสดิการที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ให้มี คุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ยกเลิกพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช 2584
2. กำหนดความหมายของคนขอทานตามร่างพระราชบัญญัตินี้ไม่รวมถึงวณิพก และให้มีคณะกรรมการสงเคราะห์คนขอทาน ประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการระดับกรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นผู้กำหนดนโยบาย วางระเบียบ
หลักเกณฑ์ในการดำเนินการสงเคราะห์คนขอทาน
3. กำหนดให้มีคณะกรรมการประจำสถานสงเคราะห์ ซึ่งอย่างน้อยคนหนึ่งต้องเป็นนักสังคมสงเคราะห์หรือนักจิตวิทยา โดยให้มีการดำเนินการดังนี้
3.1 กรณีคนขอทานเป็นคนต่างด้าวให้นำตัวส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
3.2 ให้สถานสงเคราะห์ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติ สติปัญญา การศึกษา สุขภาพ สภาวะแห่งจิต ที่อยู่อาศัย และบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และหากคนขอทานป่วยเป็นโรคติดต่ออันตรายก็ให้ส่งไปรักษาพยาบาล
3.3 การขอทานครั้งแรกโดยความจำเป็นเพื่อการดำรงชีพให้คณะกรรมการประจำสถานสงเคราะห์ว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้ขอทาน หากมีการกระทำขอทานอีก ให้เสนอความเห็นต่ออธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อให้รับตัวผู้นั้นไว้ในสถานสงเคราะห์ หรือส่งตัวไปสำนักงานจัดหางานของกรมการจัดหางาน
3.4 คนขอทานเป็นคนวิกลจริต จิตฟั่นเฟือน ให้คณะกรรมการประจำสถานสงเคราะห์ส่งตัวไปยังสถานพยาบาลของกรมสุขภาพจิต ซึ่งเมื่อทุเลาหรือหายจากโรคให้ช่วยเหลือตามกรณี สำหรับคนขอทานที่เป็นคนชรา คนพิการ ทุพพลภาพหรือป่วยด้วยโรคอื่นไม่ใช่โรคอันตราย ให้ดำเนินการช่วยเหลือตามควรแก่กรณีด้วย
3.5 ให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการมีอำนาจออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือ คำสั่งเกี่ยวกับการสงเคราะห์และการพ้นออกจากสถานสงเคราะห์ ตลอดจนกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ช่วยเหลือผู้พ้นจากสถานสงเคราะห์
4. กรณีผู้ใช้ให้บุคคลอื่นกระทำการขอทานซึ่งมิได้บัญญัติเป็นความผิดไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช 2484 จึงกำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้ให้ผู้ใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้าง วาน ขนส่ง หรือยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีอื่นใดให้ผู้อื่นขอทาน หรือโดยใช้ผู้อื่นเพื่อประโยชน์ในการขอทานของตนเองต้องระวางโทษทางอาญาและหากเป็นการกระทำต่อบุคคลอายุต่ำกว่าสิบแปดปี ผู้สูงอายุ ผู้เจ็บป่วย ผู้พิการหรือทุพพลภาพ หญิงมีครรภ์ กระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทำโดยนำผู้อื่นภายนอกราชอาณาจักรให้มาขอทานในราชอาณาจักร กระทำโดยเป็นผู้ปกครองดูแลของคนขอทาน กระทำโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ กระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลหรือให้คำปรึกษา กระทำโดยใช้กำลังบังคับต่อคนขอทาน กระทำต่อบุคคลในครอบครัวของคนขอทาน กระทำโดยเป็นนายหน้าหรือแสวงหาประโยชน์จากคนขอทานหรือทำร้ายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสต้องระวางโทษทางอาญาหนักขึ้น ตลอดจนกำหนดการช่วยเหลือให้คนขอทานหลบหนีระหว่างถูกส่งตัวเข้าสถานสงเคราะห์หรือออกจากสถานสงเคราะห์ต้องระวางโทษอาญาด้วย
5. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุนษย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พุทธศักราช 2484 เป็นกฎหมายไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบันที่การขอทานมีลักษณะของการหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายของบุคคลนั้น และจากบุคคลบางกลุ่มที่อาศัยความอ่อนด้อยร่างกาย สติปัญญา ความสามารถ หรือสภาพจิตใจของบุคคลเหล่านี้ขอทาน หรือประโยชน์ในการขอทานอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งเป็นการจัดระเบียบสังคมให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งจะส่งผลต่อภาพพจน์โดยรวมของประเทศ ฉะนั้นสมควรปรับปรุงพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยยกร่างขึ้นใหม่ทั้งฉบับ เพื่อเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้ด้อยโอกาส สงเคราะห์คนชรา ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งตนเองได้ รวมทั้งกำหนดคำนิยามศัพท์และแนวทางปฏิบัติงานให้สามารถนำบทบัญญัติตามกฎหมายมาบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2549--จบ--