ผลการหารือการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 21, 2009 15:42 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ผลการหารือการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิด

ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามผลการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบในหลักการการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ตามผลการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้

1.1 ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยเป็นเวลา 3 เดือน โดยให้มีผลในทางปฏิบัติ 3 วัน หลังวันที่มีประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียม และมอบหมายให้สำนักงบประมาณพิจารณารายละเอียดงบประมาณที่ต้องจ่ายชดเชยให้กรมการกงสุลและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 800 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังพิจารณาผ่อนผันเรื่องรายได้นำส่งรัฐ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงบประมาณ

1.2 ยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจโรงแรม โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาออกกฎกระทรวง เพื่อขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจโรงแรมในปี 2553

1.3 ลดหย่อนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยให้การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปรับลดอัตราค่าประกันการใช้ไฟฟ้าเหลือ 1.25 เท่าของเดือน สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีประวัติการชำระดี โดยคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน

1.4 ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการขึ้นลงของอากาศยานและที่เก็บอากาศยาน (Landing & Parking Fee) โดยให้กรมการขนส่งทางอากาศ และบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และกระทรวงการคลัง ดำเนินการ ดังนี้

(1) ให้กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) ลดค่าธรรมเนียม Landing & Parking Fee ของทุกท่าอากาศยานในความดูแลของ ขอ. ลงร้อยละ 50 ทั้งเที่ยวบินแบบประจำ(Scheduled Flight) และเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ (Chartered Flight) มีผลถึงเดือน ก.ย. 2552

(2) ให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ลดค่าธรรมเนียม Landing & Parking Fee สำหรับเที่ยวบินแบบประจำของท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. ทุกแห่ง ร้อยละ 20 มีผลถึงเดือนกันยายน 2552 และสำหรับเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ และดอนเมือง ให้ลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวลงร้อยละ 50 มีผลถึงเดือน ตุลาคม 2553 ตามมาตรการที่ ทอท. ดำเนินการอยู่แล้ว ทั้งนี้ ขอ. และ ทอท. จะต้องดำเนินการเสนอขอความเห็นชอบตามขั้นตอนของกระทรวงและคณะกรรมการ ทอท.

(3) ให้กระทรวงการคลัง (สคร.) พิจารณาผ่อนปรนเป้าหมายด้านรายได้ของ ทอท. ที่ได้กำหนดเป็นตัวชี้วัดระดับความสำเร็จ (KPI) ของ ทอท.

1.5 ลดหย่อนค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานแห่งชาติ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลดค่าธรรมเนียมเข้าชมร้อยละ 50 สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศและคนไทยในพื้นที่อุทยานทั่วประเทศ เป็นเวลา 3 เดือน

2. ให้หน่วยงานที่ต้องยกเว้นหรือลดหย่อนค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และหน่วยงานที่ต้องแก้ไขหรือออกประกาศกฎกระทรวง รับไปเร่งรัดดำเนินการตามกฎระเบียบและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และรายงานความคืบหน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ โดยให้มีผลเริ่มต้นโดยเร็วที่สุด

3. เห็นชอบหลักการกรอบวงเงินชดเชยงบประมาณให้กับหน่วยงานที่ต้องสูญเสียรายได้อันเนื่องจากการยกเว้นหรือลดหย่อนค่าธรรมเนียมตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวดังกล่าว จำนวน 1,597 ล้านบาท (กรมการกงสุล 800 ล้านบาท กรมการปกครอง 40 ล้านบาท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด 507 ล้านบาท และกรมอุทยานฯ 250 ล้านบาท) และมอบหมายให้สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง พิจารณารายละเอียดของกรอบวงเงินชดเชยและการผ่อนผันเงินรายได้นำส่งรัฐ เสนอคระรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

4. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ติดตามความคืบหน้าและประเมินผลมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวที่มีต่อการลดราคาของแพ็คเกจทัวร์ ราคาค่าห้องพัก และผลต่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นประจำทุกเดือน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 มกราคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ