คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 4) ในเรื่องการอำนวยการแก้ไขปัญหา การค้นหาและ
เก็บกู้ศพ จำนวนผู้เสียชีวิต ตลอดจนการฟื้นฟูบูรณะสิ่งปรักหักพังและแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม
2547-วันที่ 24 มกราคม 2548 สรุปได้ดังนี้
1. พื้นที่ประสบภัยและความเสียหาย (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มกราคม 2548)
1.1 พื้นที่ประสบภัยพิบัติ บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันของจังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตก
6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 82 ตำบล
329 หมู่บ้าน โดยจังหวัดพังงาประสบภัยรุนแรงที่สุด
1.2 ราษฎรได้รับความเดือดร้อน มีจำนวน 54,672 คน 12,072 ครอบครัว
1.3 จำนวนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย (ข้อมูลถึงวันที่ 23 มกราคม 2548)
— จำนวนผู้เสียชีวิต รวม 5,374 คน (แยกเป็นคนไทย 1,792 คน
คนต่างประเทศ 1,787 คน ไม่สามารถระบุได้ ว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศ 1,795 คน)
— บาดเจ็บ รวม 8,457 คน (แยกเป็นคนไทย 6,065 คน คนต่างประเทศ
2,392 คน)
— รับแจ้งสูญหาย รวม 3,132 คน ( แยกเป็นคนไทย 2,122 คน
คนต่างประเทศ 1,010 คน) (ได้ผ่านการตรวจสอบ (Recheck) ครั้งที่ 17 ณ วันที่ 23 มกราคม 2548
โดยตัดรายชื่อแจ้งซ้ำ/กลับภูมิลำเนาเดิม/บาดเจ็บ/เสียชีวิต/พบตัวแล้ว)
1.4 ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
— บ้านเรือนราษฎรเสียหาย รวม 6,812 หลัง แยกเป็นเสียหายทั้งหลัง
3,631 หลัง เสียหายบางส่วน 3,181 หลัง
— พื้นที่การเกษตร 2,389 ไร่ บ่อปลา/นากุ้ง เสียหาย 1,224 แห่ง
โค/กระบือ 651 ตัว แพะ/แกะ 744 ตัว สัตว์ปีก 4,044 ตัว สุกร 1,944 ตัว
— ด้านเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ ได้แก่ เรือประมงขนาดใหญ่
1,222 ลำ เรือประมงขนาดเล็ก 3,426 ลำ เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ 241 ลำ ขนาดเล็ก 313 ลำ
อวน 1,871 หลัง กระชังปลาและหอย 27,828 หลุม โป๊ะ 421 โป๊ะ ลอบ 13,690 ใบ
— มูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของราษฎรทั้ง 6 จังหวัด
ประเมินในขั้นต้นประมาณ 17,508.67 ล้านบาท (ไม่รวมบ้าน/ที่อยู่อาศัย)
1.5 ความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์
ผลการสำรวจความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์เบื้องต้น พบว่าจังหวัดพังงา
และภูเก็ต มีมูลค่าความเสียหายใกล้เคียงกัน โดยท่าเทียบเรือและระบบไฟฟ้ามีความเสียหายเป็นมูลค่ามากที่สุด
แยกเป็น ท่าเทียบเรือ 85 แห่ง สะพาน คสล. 20 แห่ง สะพานไม้ 17 แห่ง ท่อเหลี่ยม (คสล.) 3 แห่ง
ถนน 63 แห่ง ทำนบ/เหมือง/ฝาย 2 แห่ง พนังกั้นน้ำ/เขื่อน 15 แห่ง ระบบไฟฟ้า 65 แห่ง ระบบประปา
22 แห่ง โทรศัพท์ 16 แห่ง อื่นๆ 23 แห่ง มูลค่าความเสียหายสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ประเมินในขั้นต้น
ประมาณ 1,102.06 ล้านบาท
1.6 ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม การสำรวจความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม เป็น
การประเมินเบื้องต้นที่สามารถสังเกตได้ ดังนี้ แนวปะการัง เสียหายเล็กน้อยประมาณ 3,146 ไร่ เสียหาย
มากประมาณ 550 ไร่ ชายหาด ส่วนใหญ่เสียหายมาก พื้นที่ประมาณ 6,200 ไร่ ป่าชายเลน เสียหายมาก
ประมาณ 555 ไร่ เสียหายเล็กน้อย 1,860 ไร่ ป่าไม้ เสียหายประมาณ 500 ไร่ แหล่งน้ำจืด
บ่อน้ำตื้น เสียหาย 126 บ่อ บ่อบาดาล 149 บ่อ แหล่งน้ำผิวดิน 122 แห่ง ระบบประปา 50 ระบบ
— พื้นที่ทิ้งขยะ/ระบบบำบัดน้ำเสีย 2 แห่ง
— สภาพพื้นที่เสื่อมโทรม (ดินเค็ม) ประมาณ 457.5 ไร่ (อยู่ระหว่างการสำรวจ)
2. การตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลผู้เสียชีวิต
2.1 เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) เป็นจำนวนมากถึง
5,374 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มกราคม 2548) ขณะนี้มีจำนวนที่สามารถยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคลหรือญาติยืนยันแล้ว
จำนวน 1,609 ศพ (ไทย 1,398 ศพ ต่างชาติ 211 ศพ)ญาติรับศพไปแล้ว คนไทย 1,194 คน คนต่างชาติ
208 คน) และ จำนวนศพที่ยังยืนยันไม่ได้ (Unidentified) จำนวน 3,657 ศพ (ไทย 1 ศพ ต่างชาติ
1,561 ศพ ระบุไม่ได้ 2,095 ศพ)
* สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตของจังหวัดพังงา อยู่ระหว่างการตรวจสอบยืนยันตัวเลขให้
ถูกต้อง
2.2 การพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami)
2.2.1 จากการประชุมร่วมกันระหว่างคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ใน
คณะกรรมการศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) โดยมีรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2548 ณ ห้องประชุมอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
และได้มีการสรุปวิธีการในการชันสูตรและจัดการเกี่ยวกับศพทั้งระบบ ให้ทุกฝ่ายรับทราบเพื่อปฏิบัติต่อไปแล้ว นั้น
2.2.2 จังหวัดพังงา ได้แจ้งให้ศูนย์พิสูจน์บุคคลฯ วัดย่านยาว
ดำเนินการตามข้อสรุปจากที่ประชุมดังกล่าวแล้ว ดังนี้
1) คัดแยกเฉพาะศพคนต่างประเทศ ทั้งที่สามารถระบุตัวบุคคล
ได้ และไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เพื่อเตรียมการให้จังหวัดพังงา จัดส่งไปยังสุสานไม้ขาวต่อไป
2) สำหรับศพคนไทย หรือศพซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นคนชาติใด
ยังคงให้เก็บไว้ที่วัดย่านยาวตามเดิม
3) หากพร้อมที่จะให้เคลื่อนย้ายศพเมื่อใด ให้แจ้งผู้ว่าราชการ
จังหวัดพังงาทราบ
2.2.3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธาน
คณะกรรมการศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) จะประชุมคณะกรรมการ
อำนวยการฯ และคณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน
ในวันที่ 25 มกราคม 2548 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
3. การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
3.1 การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (จนถึงวันที่ 23 มกราคม 2548) ได้จ่ายเงิน
ช่วยเหลือไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 216,149,666 บาท แยกเป็น
— เงินตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ เป็นเงิน 113,211,166 บาท (ค่าจัดการ
ศพ 1,682 ราย บาดเจ็บ 2,325 ราย ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ ค่าเครื่องครัว เครื่องนอน
ฯลฯ)
— เงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเงิน
96,786,000 บาท (ค่าจัดการศพ 1,770 ราย บาดเจ็บ 6,016 ราย ว่างงาน 22,782 ราย)
— เงินช่วยเหลือของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเงิน 6,152,500 บาท
(ค่าขนย้ายครอบครัว/สงเคราะห์ครอบครัว 4,054 ราย)
3.2 การจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบภัย
1) จัดบ้านพักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย
รุนแรง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ดังนี้ จังหวัดพังงา ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า ท้ายเหมือง
และคุระบุรี รวม 1,459 หลัง 660 เต้นท์ รองรับผู้ประสบภัย 2,488 ครอบครัว (สำหรับผู้ประสบภัยที่
พักอาศัยเต็นท์บางส่วนอยู่ระหว่างรอย้ายเข้าบ้านพักชั่วคราว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) จังหวัดกระบี่
ที่อำเภอเกาะลันตา เรือนแถว 40 หลัง อำเภอเมือง 60 หลัง จังหวัดระนอง ที่กิ่งอำเภอสุขสำราญ
42 หลัง สำหรับ จ.ภูเก็ต พักอาศัยบ้านญาติ ส่วน จ.สตูล และตรัง ไม่มีปัญหา
2) การก่อสร้างบ้านพักถาวร (หลังละ 100,000 บาท) ในพื้นที่
ประสบภัย 6 จังหวัด ข้อมูลสำรวจจำนวนความต้องการ (ณ วันที่ 24 มกราคม 2548) มียอดรวมทั้งสิ้น
2,800 หลัง และมีความก้าวหน้าในการก่อสร้าง ดังนี้
ที่ จังหวัด ความต้องการ ความก้าวหน้า หมายเหตุ
บ้านพักถาวร (หลัง) เตรียมพื้นที่ กำลังก่อสร้าง สร้าง
เสร็จแล้ว
1 พังงา 1,946 เรียบน้อย 470 - กองทัพบก กองทัพเรือ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.) ภาคเอกชน
2 ระนอง 181 เรียบร้อย 48 11 กองทัพอากาศ ตชด.
3 ภูเก็ต 244 เรียบร้อย 24 - กองทัพเรือ
4 กระบี่ 396 เรียบร้อย 3 - สำนักยุทธโยธาธิการ กห. นพค.
5 ตรัง 33 เรียบร้อย - - การเคหะแห่งชาติ
6 สตูล - - - - ขอรับเงิน 30,000 บาท ตามระเบียบ กค.
เพื่อซ่อมสร้างบ้านเอง
รวม 2,800 เรียบร้อย 545 11
4. ผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2548
การฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างและการจัดระเบียบชายหาด ได้ดำเนินการ
ใน 4 ภารกิจแล้ว ดังนี้
4.1 การทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพังขยะมูลฝอย
จังหวัด รวมพื้นที่ พื้นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนิน
ทำความสะอาด
1. ภูเก็ต 28 แห่ง 28 แห่ง _
2. พังงา 14 แห่ง 5 แห่ง 9 แห่ง (เนื่องจากพื้นที่ชายหาดบริเวณเขาหลัก
จนถึงบ้านน้ำเค็ม 25 ก.ม. เสียหายมากคาดว่า
จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง)
3. ระนอง 8 แห่ง 8 แห่ง _
4. ตรัง 8 แห่ง 8 แห่ง _
5. กระบี่ 8 แห่ง 7 แห่ง 1 แห่ง (เกาะพีพี) (คงเหลืองานซากปรักหักพัง
ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากต้องขนเศษวัสดุ
ทางเรือ และมีปัญหาที่ทิ้งเศษวัสดุ)
6. สตูล _ ไม่มีความเสียหาย _
รวม 6 จังหวัด 66 แห่ง 56 แห่ง 10 แห่ง
4.2 ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
ค่าใช้จ่ายในการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้
รับความเสียหาย คณะกรรมการการกระจายอำนาจ ได้กันเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ จำนวน
1,500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและตรวจสอบความถูกต้องของโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รายงาน โดยคณะกรรมการการกระจายอำนาจได้กำหนดขั้นตอนการพิจารณาโครงการ และการจัดสรรงบประมาณ
ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2548
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้รับงบประมาณโครงการจัดซื้อเตาเผาศพ
ปลอดมลพิษ จำนวน 9 เตา เป็นเงิน 31,500,000 บาท และเตาเผาขยะติดเชื้อ จำนวน 1 เตา เป็นเงิน
4,000,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 35,500,000 บาท ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว ดังนี้
(1) จัดซื้อเตาเผาศพปลอดมลพิษเรียบร้อยแล้ว จำนวน 9 เตา เป็นเงิน
22,050,000 บาท และกำหนดนำไปติดตั้ง ดังนี้
วันที่ 27 มกราคม 2548 จังหวัดกระบี่ เทศบาลเมืองกระบี่ ที่
วัดโภคาจูฑามาตย์ 1 เตา วัดโกรวาราม 1 เตา และอบต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ที่วัดไสรไทย 1 เตา
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2548 จังหวัดพังงา เทศบาลเมืองตะกั่วป่า จ.พังงา
ที่วัดคงคาภิมุข 2 เตา วัดคีรีเขต 1 เตา อบต.บางม่วง ที่สำนักสงฆ์บ้านน้ำเค็ม 1 เตา อบต.คึกคัก
ที่วัดคมนียเขต 1 เตา และ อบต. ลำแก่น ที่วัดหลักแก่น 1 เตา
(2) จัดซื้อเตาเผาขยะติดเชื้อ จำนวน 1 เตา เป็นเงิน 2,900,000 บาท
ติดตั้งที่เทศบาลเมืองตะกั่วป่า กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2548
4.3 การจัดระเบียบพื้นที่ชายหาด ได้สั่งการให้จังหวัดจัดทำป้ายประกาศห้ามมิให้
บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าทำประโยชน์ เช่น ปักร่ม หรือจัดวางเก้าอี้ บริเวณชายหาด 66 แห่ง ในบริเวณ 20 เมตร
นับจากจุดที่น้ำขึ้นสูงสุด พร้อมกับจัด Zoning การใช้ประโยชน์พื้นที่ชายหาด โดยขณะนี้จังหวัดและอำเภอ ร่วมกับ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ เพื่อได้
ขอความร่วมมือในการจัดระเบียบชายหาด
ในการนี้ได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยไปแล้ว ดังนี้
(1) กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับงบประมาณจาก “กองทุน
ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 102,400,000 บาท แบ่งเป็น
- เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยประเภทผู้ประกอบการรายย่อย 100 ล้านบาท
- งบบริหาร 2.4 ล้านบาท
(2) ผลการจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการรายย่อย แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
1) ผู้ประกอบการฯ ที่สำรวจเบื้องต้น (ระหว่าง 5-7 มกราคม 2548)
จำนวน 1,945 ราย ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่มนี้ไปแล้ว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14-23 มกราคม
2548 จำนวน 1,857 ราย คิดเป็นร้อยละ 95 เป็นเงิน 36,310,000 บาท
2) ผู้ประกอบการฯ ที่มาลงทะเบียนเพิ่มเติม (ถึง 21 มกราคม 2548)
จำนวน 2,412 ราย โดยจะเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกอบการฯ กลุ่มนี้ ระหว่างวันที่ 26-27 มกราคม
2548
3) คาดว่าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยสองระยะดังกล่าว
ข้างต้น จะมีผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนมารับเงิน รวมทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 4,375 ราย คิดเป็นเงิน
ประมาณ 87,140,000 บาท
4.4 การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาด (Beautify) จังหวัดต่างๆ
ได้จัดส่งผังการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหลัก ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ประกอบด้วย รายละเอียดการใช้
ประโยชน์ของพื้นที่ งบประมาณดำเนินงาน ให้กับฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฟื้นฟูการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล
อันดามัน ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2548 ณ จังหวัดภูเก็ตแล้ว
5. การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศ (Data base)
5.1 การจัดเก็บและการบันทึกข้อมูลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัย ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด และ
ส่วนราชการกระทรวง กรม ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน โดยศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ
ผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ส่วนหน้า) ได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานส่งเสริม
อุตสาหกรรมซอฟท์แวร์แห่งชาติ (SIPA) สาขาภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตภูเก็ต)
และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
5.2 การจัดเก็บและบันทึกข้อมูลการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะนี้ได้ดำเนินการ
แล้วเสร็จประมาณ 80% ของเงินค่าใช้จ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ระเบียบสำนัก-
นายกรัฐมนตรีฯ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนข้อมูลด้านอื่นๆ กำลังทยอยจัดเก็บ
และบันทึก
5.3 ระบบการรายงานข้อมูล (ประมวลผล) ได้แยกเป็น 2 กลุ่ม 21 ประเภท ดังนี้
- กลุ่มข้อมูลความเสียหาย ประกอบด้วย ข้อมูลความเสียหายของที่อยู่อาศัย
ด้านอาชีพประมง ด้านอาชีพปศุสัตว์ ด้านอาชีพเกษตรกรรม ด้านผู้ประกอบการ (แผงลอย/ร้านค้า/ร้านอาหาร/
โรงแรม) และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์
- กลุ่มข้อมูลการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย ข้อมูลการจ่ายเงินช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยของสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงและ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจ่ายเป็นรายคน ตามมติ ครม.เป็นรายจังหวัด ตามมติ ครม.ตามระเบียบกระทรวงการคลัง
(รายบุคคลในแต่ละจังหวัด) นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (รายบุคคลในแต่ละ
จังหวัด) อาชีพประมง ผู้ว่างงานจากสถานประกอบการ ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการรายใหญ่ จัดหาที่พัก
อาศัยแก่ผู้ประสบภัย เด็กกำพร้าและนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบ ส่วนราชการที่ได้รับความเสียหาย ผู้ประสบ
ภัยอาชีพต่างๆ และบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหาย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 มกราคม 2548--จบ--
ผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 4) ในเรื่องการอำนวยการแก้ไขปัญหา การค้นหาและ
เก็บกู้ศพ จำนวนผู้เสียชีวิต ตลอดจนการฟื้นฟูบูรณะสิ่งปรักหักพังและแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม
2547-วันที่ 24 มกราคม 2548 สรุปได้ดังนี้
1. พื้นที่ประสบภัยและความเสียหาย (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มกราคม 2548)
1.1 พื้นที่ประสบภัยพิบัติ บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันของจังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตก
6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 82 ตำบล
329 หมู่บ้าน โดยจังหวัดพังงาประสบภัยรุนแรงที่สุด
1.2 ราษฎรได้รับความเดือดร้อน มีจำนวน 54,672 คน 12,072 ครอบครัว
1.3 จำนวนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย (ข้อมูลถึงวันที่ 23 มกราคม 2548)
— จำนวนผู้เสียชีวิต รวม 5,374 คน (แยกเป็นคนไทย 1,792 คน
คนต่างประเทศ 1,787 คน ไม่สามารถระบุได้ ว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศ 1,795 คน)
— บาดเจ็บ รวม 8,457 คน (แยกเป็นคนไทย 6,065 คน คนต่างประเทศ
2,392 คน)
— รับแจ้งสูญหาย รวม 3,132 คน ( แยกเป็นคนไทย 2,122 คน
คนต่างประเทศ 1,010 คน) (ได้ผ่านการตรวจสอบ (Recheck) ครั้งที่ 17 ณ วันที่ 23 มกราคม 2548
โดยตัดรายชื่อแจ้งซ้ำ/กลับภูมิลำเนาเดิม/บาดเจ็บ/เสียชีวิต/พบตัวแล้ว)
1.4 ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
— บ้านเรือนราษฎรเสียหาย รวม 6,812 หลัง แยกเป็นเสียหายทั้งหลัง
3,631 หลัง เสียหายบางส่วน 3,181 หลัง
— พื้นที่การเกษตร 2,389 ไร่ บ่อปลา/นากุ้ง เสียหาย 1,224 แห่ง
โค/กระบือ 651 ตัว แพะ/แกะ 744 ตัว สัตว์ปีก 4,044 ตัว สุกร 1,944 ตัว
— ด้านเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ ได้แก่ เรือประมงขนาดใหญ่
1,222 ลำ เรือประมงขนาดเล็ก 3,426 ลำ เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ 241 ลำ ขนาดเล็ก 313 ลำ
อวน 1,871 หลัง กระชังปลาและหอย 27,828 หลุม โป๊ะ 421 โป๊ะ ลอบ 13,690 ใบ
— มูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของราษฎรทั้ง 6 จังหวัด
ประเมินในขั้นต้นประมาณ 17,508.67 ล้านบาท (ไม่รวมบ้าน/ที่อยู่อาศัย)
1.5 ความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์
ผลการสำรวจความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์เบื้องต้น พบว่าจังหวัดพังงา
และภูเก็ต มีมูลค่าความเสียหายใกล้เคียงกัน โดยท่าเทียบเรือและระบบไฟฟ้ามีความเสียหายเป็นมูลค่ามากที่สุด
แยกเป็น ท่าเทียบเรือ 85 แห่ง สะพาน คสล. 20 แห่ง สะพานไม้ 17 แห่ง ท่อเหลี่ยม (คสล.) 3 แห่ง
ถนน 63 แห่ง ทำนบ/เหมือง/ฝาย 2 แห่ง พนังกั้นน้ำ/เขื่อน 15 แห่ง ระบบไฟฟ้า 65 แห่ง ระบบประปา
22 แห่ง โทรศัพท์ 16 แห่ง อื่นๆ 23 แห่ง มูลค่าความเสียหายสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ประเมินในขั้นต้น
ประมาณ 1,102.06 ล้านบาท
1.6 ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม การสำรวจความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม เป็น
การประเมินเบื้องต้นที่สามารถสังเกตได้ ดังนี้ แนวปะการัง เสียหายเล็กน้อยประมาณ 3,146 ไร่ เสียหาย
มากประมาณ 550 ไร่ ชายหาด ส่วนใหญ่เสียหายมาก พื้นที่ประมาณ 6,200 ไร่ ป่าชายเลน เสียหายมาก
ประมาณ 555 ไร่ เสียหายเล็กน้อย 1,860 ไร่ ป่าไม้ เสียหายประมาณ 500 ไร่ แหล่งน้ำจืด
บ่อน้ำตื้น เสียหาย 126 บ่อ บ่อบาดาล 149 บ่อ แหล่งน้ำผิวดิน 122 แห่ง ระบบประปา 50 ระบบ
— พื้นที่ทิ้งขยะ/ระบบบำบัดน้ำเสีย 2 แห่ง
— สภาพพื้นที่เสื่อมโทรม (ดินเค็ม) ประมาณ 457.5 ไร่ (อยู่ระหว่างการสำรวจ)
2. การตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลผู้เสียชีวิต
2.1 เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) เป็นจำนวนมากถึง
5,374 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มกราคม 2548) ขณะนี้มีจำนวนที่สามารถยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคลหรือญาติยืนยันแล้ว
จำนวน 1,609 ศพ (ไทย 1,398 ศพ ต่างชาติ 211 ศพ)ญาติรับศพไปแล้ว คนไทย 1,194 คน คนต่างชาติ
208 คน) และ จำนวนศพที่ยังยืนยันไม่ได้ (Unidentified) จำนวน 3,657 ศพ (ไทย 1 ศพ ต่างชาติ
1,561 ศพ ระบุไม่ได้ 2,095 ศพ)
* สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตของจังหวัดพังงา อยู่ระหว่างการตรวจสอบยืนยันตัวเลขให้
ถูกต้อง
2.2 การพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami)
2.2.1 จากการประชุมร่วมกันระหว่างคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ใน
คณะกรรมการศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) โดยมีรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2548 ณ ห้องประชุมอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
และได้มีการสรุปวิธีการในการชันสูตรและจัดการเกี่ยวกับศพทั้งระบบ ให้ทุกฝ่ายรับทราบเพื่อปฏิบัติต่อไปแล้ว นั้น
2.2.2 จังหวัดพังงา ได้แจ้งให้ศูนย์พิสูจน์บุคคลฯ วัดย่านยาว
ดำเนินการตามข้อสรุปจากที่ประชุมดังกล่าวแล้ว ดังนี้
1) คัดแยกเฉพาะศพคนต่างประเทศ ทั้งที่สามารถระบุตัวบุคคล
ได้ และไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เพื่อเตรียมการให้จังหวัดพังงา จัดส่งไปยังสุสานไม้ขาวต่อไป
2) สำหรับศพคนไทย หรือศพซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นคนชาติใด
ยังคงให้เก็บไว้ที่วัดย่านยาวตามเดิม
3) หากพร้อมที่จะให้เคลื่อนย้ายศพเมื่อใด ให้แจ้งผู้ว่าราชการ
จังหวัดพังงาทราบ
2.2.3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธาน
คณะกรรมการศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) จะประชุมคณะกรรมการ
อำนวยการฯ และคณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน
ในวันที่ 25 มกราคม 2548 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
3. การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
3.1 การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (จนถึงวันที่ 23 มกราคม 2548) ได้จ่ายเงิน
ช่วยเหลือไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 216,149,666 บาท แยกเป็น
— เงินตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ เป็นเงิน 113,211,166 บาท (ค่าจัดการ
ศพ 1,682 ราย บาดเจ็บ 2,325 ราย ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ ค่าเครื่องครัว เครื่องนอน
ฯลฯ)
— เงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเงิน
96,786,000 บาท (ค่าจัดการศพ 1,770 ราย บาดเจ็บ 6,016 ราย ว่างงาน 22,782 ราย)
— เงินช่วยเหลือของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเงิน 6,152,500 บาท
(ค่าขนย้ายครอบครัว/สงเคราะห์ครอบครัว 4,054 ราย)
3.2 การจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบภัย
1) จัดบ้านพักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย
รุนแรง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ดังนี้ จังหวัดพังงา ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า ท้ายเหมือง
และคุระบุรี รวม 1,459 หลัง 660 เต้นท์ รองรับผู้ประสบภัย 2,488 ครอบครัว (สำหรับผู้ประสบภัยที่
พักอาศัยเต็นท์บางส่วนอยู่ระหว่างรอย้ายเข้าบ้านพักชั่วคราว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) จังหวัดกระบี่
ที่อำเภอเกาะลันตา เรือนแถว 40 หลัง อำเภอเมือง 60 หลัง จังหวัดระนอง ที่กิ่งอำเภอสุขสำราญ
42 หลัง สำหรับ จ.ภูเก็ต พักอาศัยบ้านญาติ ส่วน จ.สตูล และตรัง ไม่มีปัญหา
2) การก่อสร้างบ้านพักถาวร (หลังละ 100,000 บาท) ในพื้นที่
ประสบภัย 6 จังหวัด ข้อมูลสำรวจจำนวนความต้องการ (ณ วันที่ 24 มกราคม 2548) มียอดรวมทั้งสิ้น
2,800 หลัง และมีความก้าวหน้าในการก่อสร้าง ดังนี้
ที่ จังหวัด ความต้องการ ความก้าวหน้า หมายเหตุ
บ้านพักถาวร (หลัง) เตรียมพื้นที่ กำลังก่อสร้าง สร้าง
เสร็จแล้ว
1 พังงา 1,946 เรียบน้อย 470 - กองทัพบก กองทัพเรือ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.) ภาคเอกชน
2 ระนอง 181 เรียบร้อย 48 11 กองทัพอากาศ ตชด.
3 ภูเก็ต 244 เรียบร้อย 24 - กองทัพเรือ
4 กระบี่ 396 เรียบร้อย 3 - สำนักยุทธโยธาธิการ กห. นพค.
5 ตรัง 33 เรียบร้อย - - การเคหะแห่งชาติ
6 สตูล - - - - ขอรับเงิน 30,000 บาท ตามระเบียบ กค.
เพื่อซ่อมสร้างบ้านเอง
รวม 2,800 เรียบร้อย 545 11
4. ผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2548
การฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างและการจัดระเบียบชายหาด ได้ดำเนินการ
ใน 4 ภารกิจแล้ว ดังนี้
4.1 การทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพังขยะมูลฝอย
จังหวัด รวมพื้นที่ พื้นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนิน
ทำความสะอาด
1. ภูเก็ต 28 แห่ง 28 แห่ง _
2. พังงา 14 แห่ง 5 แห่ง 9 แห่ง (เนื่องจากพื้นที่ชายหาดบริเวณเขาหลัก
จนถึงบ้านน้ำเค็ม 25 ก.ม. เสียหายมากคาดว่า
จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง)
3. ระนอง 8 แห่ง 8 แห่ง _
4. ตรัง 8 แห่ง 8 แห่ง _
5. กระบี่ 8 แห่ง 7 แห่ง 1 แห่ง (เกาะพีพี) (คงเหลืองานซากปรักหักพัง
ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากต้องขนเศษวัสดุ
ทางเรือ และมีปัญหาที่ทิ้งเศษวัสดุ)
6. สตูล _ ไม่มีความเสียหาย _
รวม 6 จังหวัด 66 แห่ง 56 แห่ง 10 แห่ง
4.2 ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
ค่าใช้จ่ายในการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้
รับความเสียหาย คณะกรรมการการกระจายอำนาจ ได้กันเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ จำนวน
1,500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและตรวจสอบความถูกต้องของโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รายงาน โดยคณะกรรมการการกระจายอำนาจได้กำหนดขั้นตอนการพิจารณาโครงการ และการจัดสรรงบประมาณ
ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2548
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้รับงบประมาณโครงการจัดซื้อเตาเผาศพ
ปลอดมลพิษ จำนวน 9 เตา เป็นเงิน 31,500,000 บาท และเตาเผาขยะติดเชื้อ จำนวน 1 เตา เป็นเงิน
4,000,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 35,500,000 บาท ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว ดังนี้
(1) จัดซื้อเตาเผาศพปลอดมลพิษเรียบร้อยแล้ว จำนวน 9 เตา เป็นเงิน
22,050,000 บาท และกำหนดนำไปติดตั้ง ดังนี้
วันที่ 27 มกราคม 2548 จังหวัดกระบี่ เทศบาลเมืองกระบี่ ที่
วัดโภคาจูฑามาตย์ 1 เตา วัดโกรวาราม 1 เตา และอบต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ที่วัดไสรไทย 1 เตา
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2548 จังหวัดพังงา เทศบาลเมืองตะกั่วป่า จ.พังงา
ที่วัดคงคาภิมุข 2 เตา วัดคีรีเขต 1 เตา อบต.บางม่วง ที่สำนักสงฆ์บ้านน้ำเค็ม 1 เตา อบต.คึกคัก
ที่วัดคมนียเขต 1 เตา และ อบต. ลำแก่น ที่วัดหลักแก่น 1 เตา
(2) จัดซื้อเตาเผาขยะติดเชื้อ จำนวน 1 เตา เป็นเงิน 2,900,000 บาท
ติดตั้งที่เทศบาลเมืองตะกั่วป่า กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2548
4.3 การจัดระเบียบพื้นที่ชายหาด ได้สั่งการให้จังหวัดจัดทำป้ายประกาศห้ามมิให้
บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าทำประโยชน์ เช่น ปักร่ม หรือจัดวางเก้าอี้ บริเวณชายหาด 66 แห่ง ในบริเวณ 20 เมตร
นับจากจุดที่น้ำขึ้นสูงสุด พร้อมกับจัด Zoning การใช้ประโยชน์พื้นที่ชายหาด โดยขณะนี้จังหวัดและอำเภอ ร่วมกับ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ เพื่อได้
ขอความร่วมมือในการจัดระเบียบชายหาด
ในการนี้ได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยไปแล้ว ดังนี้
(1) กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับงบประมาณจาก “กองทุน
ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 102,400,000 บาท แบ่งเป็น
- เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยประเภทผู้ประกอบการรายย่อย 100 ล้านบาท
- งบบริหาร 2.4 ล้านบาท
(2) ผลการจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการรายย่อย แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
1) ผู้ประกอบการฯ ที่สำรวจเบื้องต้น (ระหว่าง 5-7 มกราคม 2548)
จำนวน 1,945 ราย ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่มนี้ไปแล้ว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14-23 มกราคม
2548 จำนวน 1,857 ราย คิดเป็นร้อยละ 95 เป็นเงิน 36,310,000 บาท
2) ผู้ประกอบการฯ ที่มาลงทะเบียนเพิ่มเติม (ถึง 21 มกราคม 2548)
จำนวน 2,412 ราย โดยจะเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกอบการฯ กลุ่มนี้ ระหว่างวันที่ 26-27 มกราคม
2548
3) คาดว่าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยสองระยะดังกล่าว
ข้างต้น จะมีผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนมารับเงิน รวมทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 4,375 ราย คิดเป็นเงิน
ประมาณ 87,140,000 บาท
4.4 การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาด (Beautify) จังหวัดต่างๆ
ได้จัดส่งผังการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหลัก ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ประกอบด้วย รายละเอียดการใช้
ประโยชน์ของพื้นที่ งบประมาณดำเนินงาน ให้กับฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฟื้นฟูการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล
อันดามัน ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2548 ณ จังหวัดภูเก็ตแล้ว
5. การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศ (Data base)
5.1 การจัดเก็บและการบันทึกข้อมูลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัย ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด และ
ส่วนราชการกระทรวง กรม ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน โดยศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ
ผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ส่วนหน้า) ได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานส่งเสริม
อุตสาหกรรมซอฟท์แวร์แห่งชาติ (SIPA) สาขาภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตภูเก็ต)
และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
5.2 การจัดเก็บและบันทึกข้อมูลการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะนี้ได้ดำเนินการ
แล้วเสร็จประมาณ 80% ของเงินค่าใช้จ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ระเบียบสำนัก-
นายกรัฐมนตรีฯ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนข้อมูลด้านอื่นๆ กำลังทยอยจัดเก็บ
และบันทึก
5.3 ระบบการรายงานข้อมูล (ประมวลผล) ได้แยกเป็น 2 กลุ่ม 21 ประเภท ดังนี้
- กลุ่มข้อมูลความเสียหาย ประกอบด้วย ข้อมูลความเสียหายของที่อยู่อาศัย
ด้านอาชีพประมง ด้านอาชีพปศุสัตว์ ด้านอาชีพเกษตรกรรม ด้านผู้ประกอบการ (แผงลอย/ร้านค้า/ร้านอาหาร/
โรงแรม) และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์
- กลุ่มข้อมูลการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย ข้อมูลการจ่ายเงินช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยของสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงและ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจ่ายเป็นรายคน ตามมติ ครม.เป็นรายจังหวัด ตามมติ ครม.ตามระเบียบกระทรวงการคลัง
(รายบุคคลในแต่ละจังหวัด) นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (รายบุคคลในแต่ละ
จังหวัด) อาชีพประมง ผู้ว่างงานจากสถานประกอบการ ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการรายใหญ่ จัดหาที่พัก
อาศัยแก่ผู้ประสบภัย เด็กกำพร้าและนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบ ส่วนราชการที่ได้รับความเสียหาย ผู้ประสบ
ภัยอาชีพต่างๆ และบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหาย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 มกราคม 2548--จบ--