แต่งตั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 29, 2009 15:04 —มติคณะรัฐมนตรี

1. การขอขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง)

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของ นางนงนุช เพ็ชรรัตน์ อธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ต่อไปอีก 1 ปี เป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2552 ถึงวันที่ 9 มีนาคม 2553 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

2. การสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอน ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งที่มีลักษณะบริหาร

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของนายอานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติออกไปอีกถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 ซึ่งเป็นวันที่ครบเกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอ

3. แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 22/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุผลตามนโยบายของรัฐบาล และบังเกิดประสิทธิภาพครอบคลุมในทุกภาคส่วน รวมทั้งให้การขับเคลื่อนการปฏิบัติเป็นไปในแนวทางภายใต้ข้อกำหนดของระเบียบข้อกฎหมาย

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้

องค์ประกอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เป็นประธานกรรมการ ศาสตราจารย์ สมคิด เลิศไพฑูรย์ และศาสตราจารย์ ธิติพันธุ์ เชื้อบุญชัย เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ศาสตราจารย์ ไพโรจน์ กัมพูสิริ รองศาสตราจารย์ วินัย ล้ำเลิศ รองศาสตราจารย์ ศักดา ธนิตกุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุนทร เฉลิมสันต์ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม นายปกป้อง ศรีสนิท นายเอกบุญ วงศ์สวัสดิ์กุล นายภัทรพงศ์ เกษทอง นางนิดาวรรณ เพราะสุนทร โดยมี เลขานุการรัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวิทเยนทร์ มุตตามระ) เป็นกรรมการและเลขานุการ นายบุรฤทธิ์ ศิริวิชัย นางสาวรพีพร สายสงวน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

อำนาจหน้าที่

1. พิจารณาให้คำปรึกษา เสนอแนะ และให้ความเห็นด้านกฎหมายแก่นายกรัฐมนตรี

2. พิจารณาศึกษากฎหมายที่จำเป็นในการบริหารราชการแผ่นดินเสนอนายกรัฐมนตรี

3. พิจารณา และให้ความเห็นในร่างกฎหมายแก่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล

4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน เพื่อช่วยปฏิบัติงานได้ตามความเหมาะสม

5. ดำเนินการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

สำหรับเบี้ยประชุมคณะกรรมการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

4. การแต่งตั้งประธานคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่อง การดำเนินการทางวินัยและการพิจารณาอุทธรณ์

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่อง การดำเนินการทางวินัยและการพิจารณาอุทธรณ์ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) ซึ่งได้รับมอบหมายให้สั่งและปฏิบัติราชการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการชุดนี้

5. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้ง นายเปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดา เอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา (นักบริหารการทูต ระดับสูง) คณะผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

6. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงคมนาคม)

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้ง นายกมลวิศว์ แก้วแฝก เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

7. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลาง

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลาง จำนวน 2 คน แทนกรรมการที่ถึงแก่กรรมและลาออก ดังนี้ 1.นายละเอียด สายน้ำเขียว 2.นายวิทยา ประจันตะเสน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

8. แต่งตั้งกรรมการผู้แทนฝ่ายรัฐบาลในคณะกรรมการค่าจ้าง

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้แทนฝ่ายรัฐบาลในคณะกรรมการค่าจ้าง จำนวน 3 คน แทนกรรมการที่ลาออก ดังนี้ 1. นางสุวรรณี คำมั่น แทนนายกิติศักดิ์ สินธุวนิช 2. นางอัมพร นิติสิริ แทนนายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา 3. นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค แทนนางนทีทิพย์ ทองเขาอ่อน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

9. การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จำนวน 8 ราย ดังนี้ ศาสตราจารย์ไพรัช ธัชยพงษ์ เป็นประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย นายพิสิฐ ลี้อาธรรม (บุคคลซึ่งมิใช่ข้าราชการ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ) ศาสตราจารย์ถิรพัฒน์ วิลัยทอง นายสุเมธ แย้มนุ่น ศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์ ชิษณุสรร สวัสดิวัฒน์ รองศาสตราจารย์วีระพงษ์ แพสุวรรณ นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท และนายแสงชัย เอกพัฒนพาณิชย์ (บุคคลซึ่งมิใช่ข้าราชการ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

10.แต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอแต่งตั้งนายพิเชษฐ ดุรงคเวโรจน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

11.แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้

1. นายประพจน์ เภตรากาศ รองอธิบดี (นักบริหาร 9) กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช. (ด้านสาธารณสุขสาขาพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์) กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2551

2. นางแสงโสม สีนะวัฒน์ นักวิชาการสาธารณสุข 9 ชช. (ด้านโภชนาการ) กรมอนามัย ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุข 10 ชช. (ด้านโภชนาการ) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2551

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

12.ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัด ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ดังนี้

1. นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง

2. นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

13. แต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.)

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ เป็น ที่ปรึกษาคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.)

14.แต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า ชุดใหม่ โดยให้คณะกรรมการชุดเดิมพ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งกรรมการคณะกรรมการชุดใหม่แทน ดังนี้ นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี เป็นประธานกรรมการ นายยงยศ ปาละนิติเสนา เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย นายบุญส่ง เติมวัฒน์ นายนาคม ธีรสุวรรณจักร นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล (คัดเลือกจากบัญชีรายชื่อตามประกาศกระทรวงการคลัง) นายอเนก อัมระปาล (คัดเลือกจากบัญชีรายชื่อตามประกาศกระทรวงการคลัง) นายชลอ คชรัตน์ (คัดเลือกจากบัญชีรายชื่อตามประกาศกระทรวงการคลัง) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

15.การแต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ดังนี้

องค์ประกอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกรรมการ ผู้บัญชาการทหารบก / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นรองประธานกรรมการ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นรองประธานกรรมการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย แม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 3 แม่ทัพภาคที่ 4 อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมศุลกากร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายไชยา ยิ้มวิไล โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายในและเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม รองอธิบดีกรมการค้าภายในที่ได้รับมอบหมาย ผู้อำนวยการกองกิจการพัฒนา กรมกิจการพลเรือนทหารบก ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร กรมการค้าภายใน และพันเอก ขจรศักดิ์ ไทยประยูร เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

อำนาจหน้าที่

1. กำหนดนโยบาย มาตรการ แผนงาน เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรและอื่น ๆ ที่คณะกรรมการเห็นสมควร

2. ประสานงานกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม

3. เชิญผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มาให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น เพื่อประกอบการดำเนินการ

4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรและอื่น ๆ ที่คณะกรรมการฯ เห็นสมควร ในระดับพื้นที่ ได้ตามความเหมาะสม หรือปฏิบัติงานอื่นใด ตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย

5. รายงานผลการปฏิบัติให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ

สำหรับค่าเบี้ยประชุม และค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ คณะอนุกรรมการฯ ให้ใช้งบประมาณจากกรมการค้าภายใน และสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

16.แต่งตั้งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้ง นายภิมุข สิมะโรจน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

17.แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงศึกษาธิการ)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายศุภชัย บัญชาศึก เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

18.แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่นายกรัฐมนตรีมีบัญชาเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 13 ราย ดังนี้ 1.นายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข 2. นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ 3. นายอดุลย์ สาฮีบาตู 4. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 5. นางสาวจิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี 6. นายจิรายุ ตุลยานนท์ 7. นายอภินันท์ ช่วยบำรุง 8. นางสุรสา ทองแถม ณ อยุธยา 9. นางสาวสินฤทัย พูนศิริวงศ์ 10. นายศิริรัฐ ศิริพันธุ์ 11. นายภูริพงศ์ พงษ์สุวรรณศิริ 12. นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ 13. นายธวัช สุรินทร์คำ

19.เรื่อง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีรับทราบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. 2552 ดังนี้

เพื่อเสริมสร้างความเป็นเอกภาพ และประสิทธิภาพในการดำเนินการตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ ท่าทีและประเด็นด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของรัฐบาลและความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สมควรให้มีผู้แทนการค้าไทยเป็นกลไกหนึ่งในการดำเนินการดังกล่าว และให้มีสำนักงานผู้แทนการค้าไทยทำหน้าที่รับผิดชอบงานด้านธุรการและวิชาการ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของผู้แทนการค้าไทย

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (8) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. 2552”

ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ข้อ 3 ในระเบียบนี้

“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานผู้แทนการค้าไทย

“หัวหน้าสำนักงาน” หมายความว่า หัวหน้าสำนักงานผู้แทนการค้าไทย

ข้อ 4 ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจแต่งตั้งผู้แทนการค้าไทยจำนวนไม่เกิน 5 คน โดยให้แต่งตั้งคนหนึ่งเป็นประธานผู้แทนการค้าไทยทำหน้าที่ประสานการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แทนการค้าไทย

ข้อ 5 ให้ผู้แทนการค้าไทยมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้

(1) เป็นผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีในการเจรจากับต่างประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งเรื่องอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ ท่าทีของรัฐบาลและคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ตามประเด็นที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย แล้วรายงานต่อนายกรัฐมนตรี

(2) เสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินการดังกล่าวหรือผลกระทบด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศจากการดำเนินนโยบายด้านอื่นๆ

(3) เสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดทำแผนงานและงบประมาณรายจ่ายด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐที่เกี่ยวข้อง

(4) บูรณาการและประสานการปฏิบัติตามนโยบายด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศตาม (2) และ (3)

(5) เรียกให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ให้ข้อมูลหรือแสดงความเห็นประกอบการพิจารณา

(6) แต่งตั้งที่ปรึกษาด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย

(7) ปฏิบัติงานอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่ง ให้ประธานผู้แทนการค้าไทยและผู้แทนการค้าไทยได้รับเกียรติ ค่าตอบแทนและประโยชน์ตอบแทนอื่นในฐานะทัดเทียมกับรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีแล้วแต่กรณี

ข้อ 6 ให้จัดตั้งสำนักงานผู้แทนการค้าไทย ในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และให้มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้

(1) รับผิดชอบในงานธุรการ งานวิชาการ และงานการประชุมของผู้แทนการค้าไทย

(2) เสนอแนะข้อมูลหรือแนวทางแก่ผู้แทนการค้าไทยเกี่ยวกับนโยบายยุทธศาสตร์ ท่าที กลยุทธ์และแผนการเจรจา การนำไปสู่การปฏิบัติจริง และการอย่างอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

(3) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย นโยบายและมาตรการทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของประเทศคู่ค้า รวมทั้งผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาว และมาตรการรองรับผลกระทบดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของผู้แทนการค้าไทย

(4) ประสาน และขอข้อมูลการดำเนินงานเกี่ยวกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ ท่าที กลยุทธ์ และแผนการเจรจาด้านการค้าการลงทุน มาตรการรองรับผลกระทบต่าง ๆ และการอื่นที่เกี่ยวกับการค้าการลงทุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

(5) ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน เพื่อชี้แจง รับฟังความเห็น หรือให้ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ

(6) ยืมตัวบุคคล วัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ รวมทั้งการขอใช้อสังหาริมทรัพย์ของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและหน่วยงานอื่นของรัฐ เพื่อช่วยการปฏิบัติงานของสำนักงานได้ตามความจำเป็น

(7) ปฏิบัติงานอื่นใดตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้แทนการค้าไทย

ข้อ 7 ให้หัวหน้าสำนักงานเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ เป็นผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่และลูกจ้างของสำนักงาน และรับผิดชอบในการปฏิบัติงานของสำนักงาน

ข้อ 8 ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานของสำนักงานตามระเบียบนี้ นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงานราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการอื่น หรือสำนักงานอาจขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้พนักงานหรือลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐไปช่วยปฏิบัติงานในสำนักงานได้ โดยถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานตามปกติ โดยจะให้ไปช่วยปฏิบัติงานเต็มเวลา บางเวลาหรือนอกเวลา หรือตามที่มอบหมายก็ได้

ข้อ 9 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอาจว่าจ้างบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อดำเนินงานตามระเบียบนี้

ข้อ 10 ค่าใช้จ่ายสำหรับค่าตอบแทนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้แทนการค้าไทย รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสำนักงานให้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ข้อ 11 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของผู้แทนการค้าไทยตามระเบียบนี้ ให้ถือเป็นหน้าที่ของส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐที่ต้องให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปฏิบัติงานของผู้แทนการค้าไทย

ข้อ 12 ให้มีการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนขึ้น เพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจน การดำเนินงานของผู้แทนการค้าไทย ทั้งนี้ การจัดตั้งกองทุนดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

ข้อ 13 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2552

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 มกราคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ