คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและ จัดทำผังเมืองรวม ในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
เรื่องเดิม
1. คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (9 กรกฎาคม 2545) เห็นชอบในหลักการการกำหนดมาตรการการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับมาตรการของการผังเมือง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อประโยชน์ในการดูแลและรักษาความปลอดภัยการผังเมืองและการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยให้กระทรวงมหาดไทย (กรมโยธาธิการและผังเมือง) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเอกชน พิจารณาแนวทางเร่งรัดการจัดทำกฎหมายผังเมืองให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 ปี
2. ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวม ในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ. 2546 (ในท้องที่จังหวัดกระบี่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดขอนแก่น จังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดชุมพร จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตรัง จังหวัดตราด จังหวัดตาก จังหวัดนครนายก จังหวัดนครปฐม จังหวัดนครพนม จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดน่าน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปทุมธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดปัตตานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพังงา จังหวัดพัทลุง จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดแพร่ จังหวัดพะเยา จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดยะลา จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดระนอง จังหวัดระยอง จังหวัดราชบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน จังหวัดเลย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสกลนคร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอ่างทอง จังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และภูเก็ต ซึ่งมีการวางและจัดทำผังเมืองรวมครอบคลุมเต็มพื้นที่ไว้แล้ว)) ซึ่งมีผลใช้บังคับ 3 ปี โดยเริ่มมีผลใช้บังคับวันที่ 20 พฤษภาคม 2546 สิ้นสุดวันใช้บังคับ วันที่ 19 พฤษภาคม 2549
3. ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ. 2549 (ในท้องที่ตามพระราชกฤษฎีกา ข้อ 2) ใช้บังคับต่อไปอีก 3 ปี โดยเริ่มมีผลใช้บังคับวันที่ 30 สิงหาคม 2549 สิ้นสุดวันใช้บังคับวันที่ 29 สิงหาคม 2552
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า ได้มีการดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาในข้อ 2 และ 3 โดยได้ทำการสำรวจพื้นที่ เก็บข้อมูล และจัดทำเป็นผังร่างแล้ว โดยจัดทำเป็นร่างกฎกระทรวงขึ้นเพื่อให้มีผลใช้บังคับ ซึ่งขณะนี้ร่างกฎกระทรวง ผังเมืองรวมจังหวัดส่วนใหญ่ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบในหลักการ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตรวจพิจารณาต่อไปแล้ว นอกจากนี้ ยังได้อาศัยอำนาจตามพระราชกฤษฎีกาตามข้อ 3 กำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินเพื่อควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งขึ้นในระหว่างที่ผังเมืองรวมจังหวัดยังไม่ได้ประกาศให้มีผลใช้บังคับ โดยออกเป็นประกาศกรมโยธาธิการและผังเมือง
โดยที่พระราชกฤษฎีกาตามข้อ 3 จะหมดอายุการใช้บังคับในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 และคาดว่าร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนการตรวจพิจารณาร่างของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะแล้วเสร็จไม่ทันก่อนที่พระราชกฤษฎีกาตามข้อ 3 จะหมดอายุใช้บังคับประกอบกับประกาศกรมโยธาธิการและผังเมืองฯ ดังกล่าวจะสิ้นผลการใช้บังคับลงตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวด้วย
ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดขึ้นใช้บังคับ รวมทั้งมาตรการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ดำเนินการมาแล้วเป็นไปอย่างต่อเนื่องและบรรลุผลตามเป้าหมาย เพื่อให้เจ้าพนักงานการผังมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ในการวางและจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดได้ต่อไป สมควรให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นใช้บังคับต่ออีก 3 ปี จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา เป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางแผนและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ต่าง ๆ รวม 72 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 --จบ--