สรุปผลการจัดงาน World Tapioca Conference 2009

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 11, 2009 15:24 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับศูนย์วิจัยเกษตรเขตร้อน (Centro Internacional de Agricultura Tropical — CIAT) มูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย จัดการประชุมสัมมนาวิชาการ World Tapioca Conference 2009 ระหว่างวันที่ 15-17 มกราคม 2552 สรุปได้ดังนี้

1. การจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการ

การจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการ เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของบุคคลในวงการ มันสำปะหลัง และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1.1 วิกฤตการณ์อาหารและพลังงาน

ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) เน้นว่า มันสำปะหลังเป็นพืชที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเป็นได้ทั้งอาหารและพลังงาน และเห็นว่าความมั่นคงทางอาหารและพลังงานสามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้ แต่ต้องมีความสมดุล และมีระบบการบริหารจัดการที่ดี ทั้งนี้ รัฐบาลของแต่ละประเทศจำเป็นต้องมีแผนพลังงานทดแทน และแผนความมั่นคงด้านอาหารในระยะยาวให้มีความสอดคล้องกัน โดยทำให้เป็นแผนในระดับชาติ เน้นการผลิตอาหารและการสร้างอุปสงค์-อุปทานของพลังงานทดแทนควบคู่ไปกับการส่งเสริมการผลิตพลังงานทดแทน ซึ่งรัฐบาลควรให้ทั้งสองส่วนนี้ดำเนินการไปได้อย่างเสรี ที่สำคัญประเทศกำลังพัฒนาควรมียุทธศาสตร์การพัฒนาภาคเกษตรแบบยั่งยืนในระยะยาว

วิทยากรจากประเทศเยอรมัน สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความเห็นในแนวทางเดียวกันว่า ความต้องการใช้มันสำปะหลังซึ่งมีราคาถูกกว่า และมีคุณภาพที่เหมาะสมจะเข้ามาทดแทนการใช้ธัญพืชในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมเอทานอล และอุตสาหกรรมแป้ง อย่างไรก็ตาม วิทยากรจากสหราชอาณาจักร ให้ความเห็นว่าควรส่งเสริมให้มีการใช้น้ำตาลเพื่อผลิตเอทานอลมากกว่าการใช้มันสำปะหลัง และเน้นให้ใช้มันสำปะหลังในการผลิตแป้ง

1.2 การพัฒนาสายพันธุ์มันสำปะหลังด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ

ศูนย์วิจัยเกษตรเขตร้อน (CIAT) เป็นหน่วยงานพัฒนาวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์มันสำปะหลัง รวมทั้งเป็นหน่วยงานที่เก็บรักษาสายพันธุ์และฐานข้อมูลเชื้อพันธุกรรมมันสำปะหลังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทย และ CIAT ได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการถ่ายโอนการพัฒนาเหล่านี้เพื่อนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งผลการวิจัยทำให้การเพาะปลูกมันสำปะหลังในเอเซีย โดยเฉพาะประเทศไทยมีผลผลิตหัวมันสดและสัดส่วนเชื้อแป้งในหัวมันสดเพิ่มสูงขึ้น และจากการที่ราคาพืชพลังงานเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้โรงงานอาหารสัตว์หันไปใช้มันสำปะหลังในฐานะทางเลือกแหล่งพลังงานที่ถูกกว่า ประกอบกับมีการตั้งโรงงาน ethanol ที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบในหลายประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้มันสำปะหลังเพิ่มมากขึ้น

1.3 ศักยภาพการผลิตมันสำปะหลังของไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลก

ปี 2550 ทั่วโลกผลิตมันสำปะหลังได้ 228 ล้านตัน ประเทศไทยผลิตได้เป็นอันดับที่ 3 ของโลกรองจากไนจีเรีย และบราซิล โดยมีผลผลิตประมาณ 26 ล้านตัน แต่เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศมีน้อย ประเทศไทยจึงเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรายใหญ่ของโลก และคาดว่าวิกฤตอาหารและพลังงานของโลกยังไม่ยุติ มีโอกาสที่จะเกิด after shock ได้ มันสำปะหลังซึ่งเป็นพืชมหัศจรรย์ที่เป็นได้ทั้งอาหารและพลังงานจะเป็นตัวช่วย และทางเลือกในการบรรเทาปัญหาดังกล่าว ซึ่งในส่วนนี้ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกได้ โดยได้กำหนดนโยบายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ไม่กระทบต่อภาคการผลิตทางการเกษตรอื่น คือการรักษาระดับพื้นที่ปลูก และการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น สำหรับกลยุทธ์สำคัญช่วง 5 ปีข้างหน้าคือ การพัฒนาพันธุ์ และการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการดูแลจัดการแปลงมันสำปะหลัง เพื่อให้มีการขยายตัวร้อยละ 10 อีกทั้งมีการดำเนินการวิจัยพัฒนาพันธุ์มันสำปะหลัง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดและมีความหลากหลายมากขึ้น

2. การจัดนิทรรศการมันสำปะหลัง : พืชมหัศจรรย์ของไทยและโลก

รูปแบบการจัดนิทรรศการเป็นการจำลองภูมิทัศน์อย่างสมจริง แสดงวิวัฒนาการการเพาะ ปลูกมันสำปะหลัง การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ การค้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์ที่มีมันสำปะหลังเป็นส่วนประกอบ รวมถึงการนำมันสำปะหลังมาผลิตเป็นแอลกอฮอล์ เอทานอล และแก็สโซฮอล์

ทั้งนี้ ได้มีการนำมันสำปะหลังหัวใหญ่ที่ชนะการประกวดน้ำหนักตั้งแต่ 100-148 กิโลกรัม มาแสดงด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมนิทรรศการเป็นอย่างมาก

3. การประกวดเกษตรกรดีเด่น และมันสำปะหลังหัวใหญ่

ในการจัดงานครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดให้มีการประกวดเกษตรกรดีเด่น และมันสำปะหลังหัวใหญ่ ซึ่งผู้ที่ชนะการประกวดเกษตรกรดีเด่นเป็นผู้ที่ได้นำหลักการบริหารจัดการเกษตรที่ดี และเหมาะสม (GAP : Good Agricultural Practice) อีกทั้งมีการเรียนรู้ และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตทำให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น ส่วนผู้ที่ชนะเลิศการประกวดมันสำปะหลังหัวใหญ่ ขนาด 148 กิโลกรัม นับเป็นผู้ที่มีความอดทน ดูแล เอาใจใส่การเพาะปลูก พัฒนา และบำรุงรักษา ทำให้ได้หัวมันสำปะหลังที่มีขนาดใหญ่

4. การทัศนศึกษา

กระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะผู้แทนรัฐบาล ผู้สื่อข่าว และผู้ซื้อต่างประเทศ จำนวน 33 คน ไปดูงาน ณ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตมันสำปะหลังมากที่สุดของไทย ในวันที่ 17 มกราคม 2552 โดยผู้เข้าร่วมคณะมีโอกาสได้ศึกษารายละเอียดจากภาคปฏิบัติจริง ดังนี้

4.1 การเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ณ ศูนย์พัฒนามันสำปะหลัง สถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ณ ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด

4.2 การทำมันเส้นจากมันสำปะหลัง

4.3 การทำแป้งมันสำปะหลัง และการบำบัดน้ำเสียของโรงงานแป้งมันสำปะหลัง รวมทั้งการทำ Biogas จากน้ำเสีย เพื่อนำกลับไปใช้เป็นพลังงานในโรงงาน

5. พิธีลงนามสัญญาจะซื้อ — จะขายระหว่างเอกชนไทยและต่างประเทศ

เนื่องจากการจัดงานในครั้งนี้มีผู้ประกอบการจากต่างประเทศทั่วโลกมาร่วมงาน จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศสามารถเจรจาตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายมันเส้นและมันอัดเม็ด รวม 9 สัญญา ปริมาณรวม 3.9 ล้านตัน แบ่งเป็นมันเส้น 3.6 ล้านตัน มันอัดเม็ด 0.3 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท

6. ผลของการจัดงาน

โดยสรุปแล้วการจัดงาน World Tapioca Conference 2009 ในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์อย่างดียิ่งทุกประการคือ

6.1 ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาทางวิชาการได้ทราบถึงศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาพันธุ์ การเพาะปลูก การแปรรูป และการค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง

6.2 เสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรด้านมันสำปะหลัง นักวิชาการ ผู้ส่งออกไทย ผู้นำเข้า และผู้ประกอบการค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งโลก ซึ่งเป็นการช่วยขยายโอกาสทางการค้าให้เพิ่มมากขึ้น

6.3 สร้างความเชื่อมั่นในด้านการผลิตผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่มีคุณภาพ และเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ