แต่งตั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 11, 2009 15:29 —มติคณะรัฐมนตรี

1. การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมด้วย ตามลำดับ ดังนี้

1. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

2. นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

2. การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

คณะรัฐมนตรีอนุมัติมอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ คือ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

3. การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานด้วย ตามลำดับ ดังนี้

1. รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์)

2. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม)

4. แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงแรงงาน)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้ง นางอัญชลี เสรีรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (นักวิชาการแรงงาน 9 ชช.) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษากฎหมาย (นิติกร 10 ชช.) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

5. แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 5 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้

1. นาวาโทหญิง ธัญญา เชฏฐากุล นายแพทย์ 9 วช. ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2550

2. นายไพรัช เกตุรัตนกุล นายแพทย์ 9 วช. ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม กลุ่มงานอายุรศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม กลุ่มงานอายุรศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2551

3. นางรวิวรรณ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์ 9 วช. ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2551

4. นางวลี สุวัฒิกะ นายแพทย์ 9 วช. ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลสิงห์บุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลสิงห์บุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2551

5. นายสุรชัย ล้ำเลิศกิตติกุล นายแพทย์ 9 วช. (ด้านเวชกรรม สาขาสูติ-นรีเวชกรรม) กลุ่มงานสูติ-นรีเวชกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านเวชกรรม สาขาสูติ-นรีเวชกรรม) กลุ่มงานสูติ-นรีเวชกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2551

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

6. แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน 11 ราย ดังนี้ 1. นายฉัตรชัย ปิยะสมบัติกุล 2. นายณัฐวุฒ จิตะสมบัติ 3. นางนวลพรรณ ล่ำซำ 4. นายนิพนธ์ บุญญภัทโร 5. ร้อยตรี ประพาส ลิมปะพันธุ์ 6. นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ 7. นายยุพ นานา 8. นายศักดา หาญบุญตรง 9. นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล 10. นางสาวสุภาลักษณ์ ตั้งจิตต์ศีล 11. นายอภิชัย เตชะอุบล ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ได้รับแต่งตั้งลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามได้ดำเนินการให้เรียบร้อย

7. การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย แทนผู้ที่ลาออก ดังนี้ 1. คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เป็นประธานกรรมการ แทนนายทนง พิทยะ 2. นายชัยวัธ มะระพฤกษ์วรรณ ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ แทนนายสมภพ อมาตยกุล โดยให้ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้วตามมาตรา 14 วรรค 3 แห่งพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป

8. การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล เป็นกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล แทนนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป

9. แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอมอบหมายให้นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534

10. แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมอบหมายให้นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534

11. แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่อยู่ หรืออยู่แต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการ ตามลำดับ ดังนี้ 1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี 2. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

12. ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ดังนี้

องค์ประกอบ ศาสตราจารย์ ดร. อดุล วิเชียรเจริญ เป็นกรรมการและที่ปรึกษา รองนายกรัฐมนตรีตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรองประธาน กรรมการประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการพระราชวัง หรือผู้แทน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือผู้แทน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ หรือผู้แทน ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือผู้แทน นายวทัญญู ณ ถลาง นายสุวิชญ์ รัศมิภูติ นายพยุง นพสุวรรณ นายอุทิศ กุฏอินทร์ นายมานิตย์ ศิริวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการต่างประเทศ 2 คน (โดยความเห็นชอบของประธาน) โดยมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นกรรมการและเลขานุการ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมศิลปากร และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ

1. พิจารณาเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติต่อยูเนสโก เพื่อบรรจุไว้ในบัญชีมรดกโลก รวมทั้งพิจารณาปรับปรุงเพิ่มเติมแหล่งมรดกดังกล่าวให้เหมาะสมตามสถานการณ์

2. กำกับและดูแลการปฏิบัติตามข้อบัญญัติการเข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติของโลก

3. ติดต่อประสานงานให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือดำเนินการตามมาตรการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติที่ได้รับการขึ้นบัญชีในบัญชีมรดกโลก

4. พิจารณาขอความช่วยเหลือด้านวิชาการ การเงิน และผู้เชี่ยวชาญจากกองทุนมรดกโลก

5. จัดทำรายงานผลการดำเนินงาน เพื่อเสนอที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญของยูเนสโกตามระยะเวลาที่กำหนด

6. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานตามที่เห็นสมควร เพื่อปฏิบัติงานในหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ให้เบิกจ่ายตามความจำเป็นในการสนับสนุนการปฏิบัติงานโดยอนุโลมตามระเบียบราชการ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ