คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการให้มีการกำหนดกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-2555 ของกรมการขนส่งทางอากาศเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้พิจารณาตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป
กระทรวงคมนาคมรายงานว่า
1. กรมการขนส่งทางอากาศมีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาและกำกับดูแลการบินพลเรือนของประเทศให้ได้มาตรฐานสากล และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินพลเรือนในภูมิภาค โดยมีบทบาทในการเสนอแนะนโยบาย กำกับดูแลและการดำเนินการในส่วนของท่าอากาศยานต่างๆ ในความรับผิดชอบ จำนวน 26 แห่ง
2. ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา การเติบโตทางด้านอุตสาหกรรมการบินภายในประเทศมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เช่น ในปี พ.ศ. 2540 มีจำนวนผู้โดยสาร 2,350,086 คน ปี พ.ศ. 2550 เพิ่มเป็น 3,779,061 คน และ ปี พ.ศ. 2555 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มประมาณ 7,500,000 คน เป็นต้น ประกอบกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกให้ประเทศภาคีสมาชิกถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนั้น กรมการขนส่งทางอากาศจึงได้พิจารณาทบทวนอัตรากำลังของท่าอากาศยานในสังกัดและส่วนกลางที่มีอยู่ในปัจจุบันเทียบกับปริมาณงานข้างต้นแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับภารกิจและปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อัตรากำลังเจ้าหน้าที่ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินพลเรือนในภูมิภาค
3. ด้วยข้อจำกัดในด้านอัตรากำลังที่มีอยู่ ประกอบกับสำนักงาน ก.พ. ได้กำหนดมาตรการจำกัดขนาดกำลังคนภาครัฐตามมติคณะรัฐมนตรี (27 มิ.ย. 49) โดยให้ส่วนราชการควบคุมและปรับขนาดกำลังคน ทำให้ไม่สามารถเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการได้ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนบุคลากร กรมการขนส่งทางอากาศจึงต้องใช้วิธีการจ้างลูกจ้างชั่วคราวในลักษณะจ้างปีต่อปี ปฏิบัติหน้าที่เพื่อทดแทนอัตรากำลังข้าราชการและลูกจ้างประจำ ซึ่งลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับการจ้างจะได้รับการฝึกฝน อบรม พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นผู้มีประสบการณ์ ความชำนาญในการปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบให้ได้ตามมาตรฐานสากล เช่น เจ้าหน้าที่ตรวจอาวุธและวัตถุอันตราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิง ผู้ดูแลสนามบิน นักวิชาการขนส่ง เป็นต้น
4. เนื่องจากไม่มีแรงจูงใจให้ลูกจ้างชั่วคราวเหล่านี้อยู่ปฏิบัติงานกับกรมการขนส่งทางอากาศ ทั้งในด้านความมั่นคงและความก้าวหน้าในอาชีพ จึงส่งผลให้ขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานและยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน ประกอบกับการดำเนินงานของท่าอากาศยานเป็นส่วนหนึ่งที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และ FAA (Federal Aviation Administration) เข้ามาตรวจสอบ (Audit) ในด้านความปลอดภัยซึ่งถือเป็นหัวใจหลักด้านการบิน หากไม่มีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ ช่วยผลักดันให้การดำเนินงานด้านการขนส่งทางอากาศของประเทศมีประสิทธิภาพ อาจทำให้สูญเสียโอกาสในการช่วงชิงยุทธศาสตร์ด้านการบินในภูมิภาค ดังนั้นกรมการขนส่งทางอากาศจึงมีความจำเป็นต้องขอกำหนดกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเพิ่มเติมลงในกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ ปี พ.ศ. 2552-2555 เพื่อไปปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริม พัฒนา และกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของประเทศให้ได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 --จบ--