แผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 26, 2009 15:39 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง แผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและ

คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้ง 2 ข้อ ดังนี้

1. อนุมัติการจัดทำแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (National Commission for Culture and the Arts : NCCA) ระหว่างปี 2552-2554

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามในแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างปี 2552-2554

ทั้งนี้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมรับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณไปประกอบการพิจารณาด้วย

กระทรวงวัฒนธรรมรายงานว่า

1. สืบเนื่องจากการที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ได้มีความตกลงทางวัฒนธรรมระหว่างกันเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2518 และมีความร่วมมืออย่างต่อเนื่องตลอดมาทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี โดยในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-ฟิลิปปินส์ ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2550 ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันที่จะจัดทำแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (National Commission for Culture and the Arts : NCCA) ระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2552-2554) โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพิจารณาและปรับแก้ไขร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตลอดมา รวมทั้งปรับช่วงระยะเวลาให้เป็นระหว่างปี 2552-2554 เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการดำเนินการจริง ร่างแผนปฏิบัติการฯ จะมีเนื้อหาส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกัน โดยมีกิจกรรมครอบคลุมการแลกเปลี่ยนด้านศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม เอกสารจดหมายเหตุ หนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ สถาปัตยกรรมและภาพยนตร์ โดยเฉพาะในปี 2552 ซึ่งจะเป็นปีครบรอบ 60 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ

2. การจัดทำแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าว กระทรวงวัฒนธรรมได้ยกร่างขึ้นจากข้อเสนอของฝ่ายฟิลิปปินส์และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมของฝ่ายไทย และได้จัดส่งร่างแผนปฏิบัติการฯ ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาก่อนที่จะจัดส่งให้ฝ่ายฟิลิปปินส์ ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงแล้ว และได้เสนอให้มีการลงนามในแผนปฏิบัติการฯ ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม 2552

3. กระทรวงวัฒนธรรมแจ้งเพิ่มเติมว่า กิจกรรมที่ปรากฏในแผนปฏิบัติการฯ เป็นกิจกรรมแลกเปลี่ยนการเยือน การแลกเปลี่ยนสื่อสิ่งพิมพ์ นิทรรศการ ภาพยนตร์ และการแลกเปลี่ยนบุคลากร ดังนั้น จึงไม่น่าจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งไม่มีผลผูกพันทางด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

4. ร่างแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

4.1 การแลกเปลี่ยนด้านศิลปะและวัฒนธรรม ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงการดำเนินการ ดังนี้

4.1.1 แลกเปลี่ยนการเยือนของคณะผู้แทนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้านวัฒนธรรม จำนวน 5 คน เป็นเวลา 5 วัน

4.1.2 แลกเปลี่ยนนิทรรศการด้านวัฒนธรรมและศิลปะ เป็นเวลา 1 เดือน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว คณะผู้แทนด้านพิพิธภัณฑ์และภัณฑารักษ์จะเยือนและเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นเวลา 5 วัน

4.1.3 แลกเปลี่ยนการเยือนของผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์และปฏิสังขรณ์มรดกทางวัฒนธรรม จำนวน 5 คนเป็นเวลา 10 วัน

4.1.4 แลกเปลี่ยนการเยือนของคณะผู้แทนที่เป็นศิลปินพื้นบ้าน ช่างฝีมือ จำนวน 5 คน เป็นเวลา 5 วัน โดยอาจจะจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การบรรยาย การประชุมเชิงปฏิบัติการหรือนิทรรศการในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

4.1.5 แลกเปลี่ยนคณะผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรม เป็นเวลา 5 วัน

4.1.6 แลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนด้านโรงละคร จำนวน 1 คน เป็นเวลา 1 เดือน

4.1.7 แลกเปลี่ยนการเยือนของคณะนาฏศิลป์ จำนวน 15 คน เป็นเวลา 7 วัน เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและฟิลิปปินส์

4.2 วรรณกรรม เอกสารจดหมายเหตุ และสถาปัตยกรรม ทั้งสองจะแลกเปลี่ยนสื่อสิ่งพิมพ์ ข้อมูลข่าวสารระหว่างหอสมุดแห่งชาติ และการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางด้านภาษาและหนังสือเอกสารจดหมายเหตุ

4.3 ภาพยนตร์ ทั้งสองฝ่ายจะจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ในประเทศของอีกฝ่ายหนึ่งในปี 2552 เป็นเวลา 7 วัน และจะสนับสนุนในการส่งภาพยนตร์ของตนเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศของอีกฝ่าย

4.4 ค่าใช้จ่าย ทั้งสองฝ่ายแบ่งการรับผิดชอบ ดังนี้

4.4.1 ประเทศผู้ส่งจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการขนส่งระหว่างประเทศ ของผู้แทนและสัมภาระของกิจกรรมการแลกเปลี่ยนที่ระบุในแผนปฏิบัติการฯ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ประเทศผู้ส่งไปจนถึงเมืองของประเทศผู้รับที่การเยือนเริ่มต้นขึ้น และจากเมืองที่จะเยือนสิ้นสุดกลับไปยังประเทศผู้ส่ง

4.4.2 ประเทศผู้รับจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในประเทศ อาทิ อาหาร ที่พัก และยานพาหนะ โดยที่พักที่ประเทศผู้รับจะจัดให้จะต้องได้มาตรฐานสากลตามความเหมาะสมและสิทธิและระดับของผู้แทน

4.4.3 ประเทศผู้ส่งจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในกรณีที่ขยายระยะเวลาการพำนักของคณะผู้แทนในประเทศผู้รับนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่าย

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ