คณะรัฐมนตรีพิจารณามาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รวมเป็นเงิน 16,850.613 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.1 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 16,005.142 ล้านบาท ประกอบด้วย งบบุคลากร จำนวน 107.625 ล้านบาท งบดำเนินการ จำนวน 624,992 ล้านบาท งบลงทุน จำนวน 12,982.967 ล้านบาท งบเงินอุดหนุน จำนวน 1,486.250 ล้านบาท งบรายจ่ายอื่น จำนวน 803.308 ล้านบาท
1.2 งบประมาณรายจ่ายที่ได้รับอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้วของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 816.768 ล้านบาท
1.3 งบประมาณรายจ่ายงบกลางของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 28.703 ล้านบาท
การอนุมัติให้ปรับแผนฯ ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้นำไปใช้จ่ายที่มีความ สอดคล้องกับมาตรการฯ ดังนี้
- ดำเนินการในเรื่องเฉพาะที่มีความจำเป็นเร่งด่วน จำนวน 8,645.108 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51.30 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ดำเนินโครงการ/รายการที่มีข้อผูกพันตามกฎหมายหรือตามสัญญาหรือตามข้อตกลง จำนวน 1,800.354 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.68 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ดำเนินโครงการ/รายการที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผน (เดิม) จำนวน 2,540.164 ล้านบาท ร้อยละ 15.07 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ดำเนินงานต่อเนื่อง จำนวน 1,715.207 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.18 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) จำนวน 1,201.083 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.13 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ จำนวน 640.041 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.80 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค จำนวน 181.466 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.08 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากผลกระทบจากการปรับราคาน้ำมันสูงขึ้น จำนวน 127.191 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.75 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
ทั้งนี้ การปรับแผนฯ ดังกล่าวให้ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจและจังหวัดถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 รวมทั้งระเบียบอื่น ๆ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
2. เห็นชอบการปรับแผนค่าใช้จ่ายของแผนงบประมาณพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 5,112.720 ล้านบาท ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อมิให้เป็นภาระต่อการจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรอนุมัติตามหลักเกณฑ์ของมาตรการฯ จำนวน 1,647.720 ล้านบาท สำหรับส่วนที่เหลืออีก จำนวน 3,465.000 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายของแผนงบประมาณพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รายการค่าใช้จ่ายในการเวนคืนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งอยู่ในขั้นตอนเสนอขอพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน
ซึ่งไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ภายใน 31 สิงหาคม 2549 และมีระยะเวลาดำเนินการเกิน 9 เดือน และโดยที่เป็นโครงการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล จึงควรอนุมัติหลักการโดยให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการกำกับ เร่งรัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วและเบิกจ่ายงบประมาณภายใน 30 มิถุนายน 2550 ต่อไป
3. กรณีที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัดอยู่ระหว่างขั้นตอนนำเสนอการขอปรับแผนฯ ต่อรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดที่รับผิดชอบแล้วแต่กรณีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัด นำเสนอแผนฯ ที่ได้รับความเห็นชอบแล้วต่อสำนักงบประมาณภายในวันที่ 28 กรกฎาคม 2549 เพื่อพิจารณาและรวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
4. หากดำเนินการดังกล่าวข้างต้นแล้ว ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัด ยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินเหลือจ่ายหรือต้องพิจารณาทบทวนปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติมอีก สมควรให้นำไปใช้จ่ายตามมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณปีพ.ศ. 2549 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2549 ข้อ 1.1(1) รวมถึงค่าใช้จ่ายตามสิทธิฯ เช่น เงินเพิ่มวิทยฐานะเงินปรับบัญชีค่าตอบแทนบุคลากรของภาครัฐ เป็นต้น และหากจำเป็นต้องไปใช้จ่ายภารกิจอื่นสมควรดำเนินการได้เฉพาะโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัดเสนอขอความเห็นชอบหลักการจากรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด และดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 ระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 กรกฎาคม 2549--จบ--
1. เห็นชอบการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รวมเป็นเงิน 16,850.613 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.1 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 16,005.142 ล้านบาท ประกอบด้วย งบบุคลากร จำนวน 107.625 ล้านบาท งบดำเนินการ จำนวน 624,992 ล้านบาท งบลงทุน จำนวน 12,982.967 ล้านบาท งบเงินอุดหนุน จำนวน 1,486.250 ล้านบาท งบรายจ่ายอื่น จำนวน 803.308 ล้านบาท
1.2 งบประมาณรายจ่ายที่ได้รับอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้วของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 816.768 ล้านบาท
1.3 งบประมาณรายจ่ายงบกลางของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 28.703 ล้านบาท
การอนุมัติให้ปรับแผนฯ ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้นำไปใช้จ่ายที่มีความ สอดคล้องกับมาตรการฯ ดังนี้
- ดำเนินการในเรื่องเฉพาะที่มีความจำเป็นเร่งด่วน จำนวน 8,645.108 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51.30 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ดำเนินโครงการ/รายการที่มีข้อผูกพันตามกฎหมายหรือตามสัญญาหรือตามข้อตกลง จำนวน 1,800.354 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.68 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ดำเนินโครงการ/รายการที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผน (เดิม) จำนวน 2,540.164 ล้านบาท ร้อยละ 15.07 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ดำเนินงานต่อเนื่อง จำนวน 1,715.207 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.18 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) จำนวน 1,201.083 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.13 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ จำนวน 640.041 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.80 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- ชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค จำนวน 181.466 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.08 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
- เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากผลกระทบจากการปรับราคาน้ำมันสูงขึ้น จำนวน 127.191 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.75 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่อนุมัติฯ
ทั้งนี้ การปรับแผนฯ ดังกล่าวให้ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจและจังหวัดถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 รวมทั้งระเบียบอื่น ๆ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
2. เห็นชอบการปรับแผนค่าใช้จ่ายของแผนงบประมาณพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 5,112.720 ล้านบาท ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อมิให้เป็นภาระต่อการจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรอนุมัติตามหลักเกณฑ์ของมาตรการฯ จำนวน 1,647.720 ล้านบาท สำหรับส่วนที่เหลืออีก จำนวน 3,465.000 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายของแผนงบประมาณพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รายการค่าใช้จ่ายในการเวนคืนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งอยู่ในขั้นตอนเสนอขอพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน
ซึ่งไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ภายใน 31 สิงหาคม 2549 และมีระยะเวลาดำเนินการเกิน 9 เดือน และโดยที่เป็นโครงการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล จึงควรอนุมัติหลักการโดยให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการกำกับ เร่งรัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วและเบิกจ่ายงบประมาณภายใน 30 มิถุนายน 2550 ต่อไป
3. กรณีที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัดอยู่ระหว่างขั้นตอนนำเสนอการขอปรับแผนฯ ต่อรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดที่รับผิดชอบแล้วแต่กรณีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัด นำเสนอแผนฯ ที่ได้รับความเห็นชอบแล้วต่อสำนักงบประมาณภายในวันที่ 28 กรกฎาคม 2549 เพื่อพิจารณาและรวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
4. หากดำเนินการดังกล่าวข้างต้นแล้ว ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัด ยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินเหลือจ่ายหรือต้องพิจารณาทบทวนปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติมอีก สมควรให้นำไปใช้จ่ายตามมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณปีพ.ศ. 2549 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2549 ข้อ 1.1(1) รวมถึงค่าใช้จ่ายตามสิทธิฯ เช่น เงินเพิ่มวิทยฐานะเงินปรับบัญชีค่าตอบแทนบุคลากรของภาครัฐ เป็นต้น และหากจำเป็นต้องไปใช้จ่ายภารกิจอื่นสมควรดำเนินการได้เฉพาะโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัดเสนอขอความเห็นชอบหลักการจากรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด และดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 ระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 กรกฎาคม 2549--จบ--