คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
1. กำหนดให้จัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งชาติเป็นองค์การมหาชนกำหนดวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ (ร่างมาตรา 5 ร่างมาตรา 7 และร่างมาตรา 8)
2. กำหนดให้ทุนและทรัพย์สินในการดำเนินกิจการของหอภาพยนตร์ส่วนหนึ่งประกอบด้วยเงินที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิมและเงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ และรายได้ของหอภาพยนตร์ไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง (ร่างมาตรา 9 และร่างมาตรา 10)
3. กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารหอภาพยนตร์แห่งชาติกำหนดคุณสมบัติ วาระดำรงตำแหน่ง อำนาจหน้าที่และองค์ประชุมของคณะกรรมการ (ร่างมาตรา 13 ถึงร่างมาตรา 19)
4. กำหนดให้หอภาพยนตร์มีผู้อำนวยการ โดยคณะกรรมการเป็นผู้มีอำนาจสรรหา แต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการ กำหนดคุณสมบัติและวาระการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการ (ร่างมาตรา 22 ถึงร่างมาตรา 25)
5. กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานของหอภาพยนตร์มี 3 ประเภท ได้แก่ เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้าง ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ (ร่างมาตรา 33)
6. กำหนดให้รัฐมนตรีเสนอคณะรัฐมนตรีดำเนินการโอนกิจการทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และเงินงบประมาณของสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับงานหอภาพยนตร์แห่งชาติ ไปเป็นของหอภาพยนตร์ (ร่างมาตรา 39)
7. กำหนดให้มีคณะกรรมการหอภาพยนตร์และให้ปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะมีคณะกรรมการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ซึ่งต้องไม่เกิน 180 วันนับแต่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ (ร่างมาตรา 40)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มีนาคม 2552 --จบ--