คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงคมนาคมรายงานว่าปัจจุบันผู้ขับรถและเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์สาธารณะได้กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการประจำจังหวัดหรือคณะอนุกรรมการประจำท้องที่ และได้มีการใช้หนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะปลอมหรือหนังสือรับรองที่ออกโดยผู้ไม่มีอำนาจเป็นหลักฐานประกอบการจดทะเบียนหรือเปลี่ยนประเภทรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทำให้การควบคุมและจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะขาดประสิทธิภาพและทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม ประกอบกับพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2547 บัญญัติให้การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะให้กำหนดโดยกฎกระทรวง จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดให้นายทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกมีอำนาจเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะได้ เมื่อได้รับแจ้งจากคณะกรรมการประจำจังหวัดหรือคณะอนุกรรมการประจำท้องที่ในกรณีความผิดที่ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะกระทำการฝ่าฝืนมติของคณะกรรมการเกี่ยวกับสถานที่รอรับคนโดยสาร เส้นทางหรือท้องที่ในการรับจ้าง และกรณีการใช้หนังสือรับรองการใช้รถปลอม หรือออกให้โดยผู้ที่ไม่มีอำนาจเป็นหลักฐานประกอบการขอจดทะเบียนหรือเปลี่ยนประเภทเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ (ร่างข้อ 3)
2. กำหนดวิธีการแจ้งของคณะกรรมการประจำจังหวัด หรือคณะอนุกรรมการประจำท้องที่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบก สำหรับจังหวัดอื่นให้แจ้งไปยังสำนักงานขนส่งจังหวัด (ร่างข้อ 4)
3. การแจ้งกรณีฝ่าฝืนมติคณะกรรมการฯ ต้องมีหมายเลขทะเบียน เลขตัวรถ ชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครอง เหตุแห่งการฝ่าฝืน การแจ้งกรณีใช้หนังสือปลอมต้องมีข้อพิจารณาของคณะกรรมการและมติที่ให้นายทะเบียนเพิกถอน (ร่างข้อ 5)
4. เมื่อนายทะเบียนได้รับแจ้งแล้ว ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลหากข้อมูลไม่ตรงกันหรือมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ให้นายทะเบียนมีหนังสือไปยังคณะกรรมการเพื่อส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมภายในสามสิบวัน หากพ้นกำหนดให้ถือว่าคณะกรรมการ ไม่ประสงค์ให้เพิกถอน หากข้อมูลตรงกันให้นายทะเบียนมีหนังสือแจ้งเจ้าของและผู้ครอบครองรถให้มาชี้แจงหรือมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อนายทะเบียนภายในสิบห้าวัน (ร่างข้อ 6)
5. กรณีที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถมาชี้แจง ให้นายทะเบียนแจ้งมติคณะกรรมการและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ทราบ พร้อมทั้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถแก้ข้อกล่าวหา และให้นายทะเบียนพิจารณาออกคำสั่งให้เพิกถอนหรือไม่เพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ แต่ถ้าเป็นกรณีที่เจ้าของและผู้ครอบครองรถไม่ชี้แจงภายในกำหนดระยะเวลาให้นายทะเบียนมีคำสั่งเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ (ร่างข้อ 7)
6. กรณีที่นายทะเบียนมีคำสั่งไม่เพิกถอน ให้นายทะเบียนมีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการ เจ้าของและผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์สาธารณะทราบ (ร่างข้อ 8)
7. กรณีนายทะเบียนมีคำสั่งเพิกถอนให้นายทะเบียนบันทึกการเพิกถอนทะเบียนรถลงในฐานข้อมูล และมีหนังสือแจ้งคำสั่งให้คณะกรรมการและเจ้าของรถทราบ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์ ซึ่งจะต้องอุทธรณ์เป็นหนังสือต่ออธิบดีภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง คำวินิจฉัยของอธิบดีให้เป็นที่สุด คำสั่งเพิกถอนมีผลให้ภาษีประจำปีสำหรับรถเป็นอันระงับไป หากมีภาษีประจำปีค้างชำระให้เจ้าของและผู้ครอบครองรถเป็นผู้มีหน้าที่ต้องชำระ (ร่างข้อ 9)
8. กำหนดให้เจ้าของและผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกนายทะเบียนเพิกถอน มีหน้าที่ต้องส่งคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถต่อนายทะเบียน นำใบคู่มือจดทะเบียนรถมาให้นายทะเบียนบันทึกหลักฐานการระงับทะเบียนรถ และเสียภาษีประจำปีพร้อมเงินเพิ่มให้ครบถ้วน (ร่างข้อ 10)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มีนาคม 2552 --จบ--