คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติปรับกรอบวงเงินลงทุนค่าก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) บางซื่อ-รังสิต ภายใต้ความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีเคยอนุมัติไว้ 59,888 ล้านบาท เป็นเงิน 65,148 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดกรอบวงเงิน ดังนี้
1.1 ช่วงบางซื่อ-รังสิต เป็นเงินประมาณ 62,745 ล้านบาท ประกอบด้วยค่างานโยธา 44,779 ล้านบาท งานไฟฟ้าและเครื่องกล 13,372 ล้านบาท งานรื้อย้าย 105 ล้านบาท งานจ้างที่ปรึกษา 2,244 ล้านบาท งานเผื่อเหลือเผื่อขาด 1,381 ล้านบาท และค่าภาษีมูลค่าเพิ่มรวม 864 ล้านบาท
1.2 ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เป็นเงินประมาณ 2,403 ล้านบาท เพื่อให้การเดินรถสามารถเชื่อมเป็นระบบเดียวกันได้ ประกอบด้วยงานไฟฟ้าและเครื่องกล 2,162 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษา 84 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่มรวม 157 ล้านบาท โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
2. อนุมัติให้ รฟท. ดำเนินการจัดหาตู้รถไฟฟ้าเพื่อใช้ในโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ภายใต้กรอบวงเงิน 10,400 ล้านบาท เพื่อให้การเดินรถสามารถเชื่อมเป็นระบบเดียวกันได้ แบ่งเป็นกรอบวงเงิน ดังนี้
2.1 ช่วงบางซื่อ-รังสิต มีกรอบวงเงินค่าจัดหาตู้รถไฟฟ้า 6,560 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าตู้รถไฟฟ้า 6,131 ล้านบาท ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 429 ล้านบาท
2.2 ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีกรอบวงเงินค่าจัดหาตู้รถไฟฟ้า 3,840 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าตู้รถไฟฟ้า 3,589 ล้านบาท ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 251 ล้านบาท
3. มอบหมายให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม และกระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ และค้ำประกันเงินกู้ ภายใต้กรอบวงเงินข้อ 1 และ 2 ข้างต้น
1. ความเป็นมา
1.1 คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน เนื่องจากเป็นโครงข่ายที่เชื่อมต่อกันที่สถานีรถไฟ บางซื่อ โดยในช่วงบางซื่อ-รังสิตให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งเมื่อแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ให้ รฟท.ประกวดราคางานโยธา งานวางราง งานรื้อย้าย และงานก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ ได้ในทันที (ไม่รวมงานระบบไฟฟ้าเครื่องกล) ซึ่งต่อมา รฟท. ได้ดำเนินการประกวดราคางานในช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และลงนามในสัญญาก่อสร้าง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551 ภายใต้กรอบวงเงิน 8,748.4 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี
1.2 คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2550 อนุมัติให้ รฟท. ดำเนินโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ภายใต้กรอบวงเงิน 59,888 ล้าบาท (ประกอบด้วย งานโยธา งานระบบไฟฟ้าเครื่องกล ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ไม่รวมการจัดซื้อขบวนรถ) โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งสิ้น และให้ รฟท.ดำเนินการประกวดราคาได้ทันทีเมื่อแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ และรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม และกระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ และค้ำประกันเงินกู้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย และหากมีวงเงินงบประมาณเหลือจากการประกวดราคา หรือการจัดทำราคากลาง อนุมัติให้ รฟท. ต่อขยายโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 10 กิโลเมตร ภายใต้กรอบวงเงิน 3,886 ล้านบาทเป็นลำดับแรก และดำเนินการก่อสร้างสถานีวัดเสมียนนารี และสถานีหลักหก ต่อไปได้
2. การดำเนินการ
2.1 การดำเนินการด้านแหล่งเงิน
กระทรวงการคลังได้จัดหาแหล่งเงินกู้และค้ำประกันเงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (Japan Bank for International Cooperation : JBIC) ซึ่งปัจจุบันคือองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation : JICA) โดยในระหว่างวันที่ 23 มิถุนายนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2551 JICA ได้จัดส่งคณะเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินโครงการ (Appraisal Mission) เดินทางมารวบรวมข้อมูลรายละเอียดของโครงการฯ เพื่อจัดทำรายงานสรุปเสนอต่อรัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาอนุมัติการให้กู้เงิน และได้มีการลงนามบันทึกข้อหารือ (Minute of Discussions) ร่วมกันระหว่างสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง (สบน.) JICA และ รฟท. เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2551 ซึ่งรายละเอียดสำคัญที่นำไปสู่วงเงินลงทุนดังนี้
2.2.1 JICA มีความเห็นว่า รฟท.ควรรวมค่างานการจัดซื้อตู้รถไฟฟ้าในการขอกู้เงินครั้งนี้ไว้ด้วย เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีขบวนรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแก่ประชาชน อีกทั้งการออกแบบงานระบบอาณัติสัญญาณ การควบคุมการเดินรถ ระบบการจ่ายไฟฟ้า และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการให้ถูกต้อง สอดคล้อง เป็นระบบที่สัมพันธ์กับผู้ผลิตตู้รถไฟฟ้า (Rolling Stock Supplier) ซึ่งเงื่อนไขนี้ JICA ได้แจ้งว่าให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นในการพิจารณาให้กู้เงินโครงการฯ
2.2.2 JICA ได้พิจารณาตัดค่างานไฟฟ้าและเครื่องกล ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ออกจากการขอกู้เงิน ซึ่งเดิมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2550 ในคราวอนุมัติงบประมาณและกรอบวงเงิน ช่วงบางซื่อ-รังสิต ได้รวมงานในส่วนนี้ไว้ด้วยเพื่อให้การเดินรถระหว่างบางซื่อ-รังสิต สัมพันธ์กับช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา รฟท. ได้หารือกับ JICA และสบน. ได้ข้อสรุปว่าให้ รฟท. ประกวดราคางานระบบไฟฟ้าเครื่องกล และงานจัดหาตู้รถไฟฟ้าของช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ไปพร้อมกัน โดยให้แยกใบเสนอราคาของทั้ง 2 ช่วงออกจากกัน เพื่อแยกแหล่งเงินให้ชัดเจน โดยในส่วนของช่วงบางซื่อ-รังสิต ใช้แหล่งเงินจาก JICA และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน อาจใช้แหล่งเงินกู้ภายในประเทศ หรือแหล่งเงินอื่นๆ ตามที่กระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาให้ตามความเหมาะสม
2.2 การเตรียมการด้านการก่อสร้าง
2.2.1 การประกวดราคา
ปัจจุบัน รฟท. ได้จัดเตรียมเอกสารประกวดราคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติการปรับวงเงินลงทุนโครงการในครั้งนี้ รฟท. จะเสนอเอกสารดังกล่าวให้ JICA พิจารณา และส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบขั้นตอนของระเบียบต่าง ๆ ต่อไป
2.2.2 รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 มีมติให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการปรับแบบรายละเอียดระบบรถไฟฟ้าสาย สีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต รวมสถานีรถไฟบางซื่อแล้ว
2.2.3 การต่อขยายช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
มีแบบรายละเอียดพร้อมดำเนินการ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการประกวดราคาในคราวเดียวกันได้ เนื่องจากรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามผลการศึกษาของโครงการศึกษาและออกแบบรายละเอียดระบบรถไฟฟ้าชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกลเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล(รังสิต-สถานีชุมทางบ้านภาชี) ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
2.2.4 แผนการดำเนินงาน
รฟท. ได้กำหนดแผนการดำเนินงาน ดังนี้
- รัฐบาลและ JICA ลงนามในประกาศให้เงินกู้ กุมภาพันธ์-มีนาคม 2552 - ลงนามใน Loan Agreement มีนาคม-เมษายน 2552 - ขายเอกสารประกวดราคา เมษายน-มิถุนายน 2552 - ยื่นข้อเสนอประกวดราคา สิงหาคม-ตุลาคม 2552 - คณะกรรมการคัดเลือกผู้รับจ้างงานโยธา พฤศจิกายน 2552-เมษายน 2553
คณะกรรมการ รฟท. และ JICA ให้ความเห็นชอบ
- อัยการสูงสุดให้ความเห็นชอบร่างสัญญาว่าจ้าง พฤษภาคม 2553 - คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ มิถุนายน 2553
- ผลการคัดเลือกผู้รับจ้างงาน
- ลงนามสัญญาว่าจ้าง กรกฎาคม 2553 - เริ่มงานก่อสร้าง กันยายน 2553
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มีนาคม 2552 --จบ--