คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. ให้กระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงินในนามรัฐบาลไทยจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA)
2. รับหลักการของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น ร่างสัญญาเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งนำเสนอร่างหนังสือดังกล่าวต่อรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบ
3. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทยในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น สัญญาเงินกู้กับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว
กระทรวงการคลังเสนอว่ารัฐบาลได้ขอให้ฝ่ายญี่ปุ่นเร่งรัดการพิจารณาเงินกู้โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศให้เงินกู้แก่ประเทศไทยสำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 สัญญาเงินกู้โครงการดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องมีการลงนามภายในเดือนมีนาคม 2552 ซึ่งเป็นกำหนดสิ้นปีงบประมาณของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการดังกล่าวไว้แล้ว การลงนามในสัญญาเงินกู้หลังเดือนมีนาคม 2552 อาจจะกระทบวงเงินกู้ที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้แก่ประเทศไทยในปีงบประมาณใหม่ของญี่ปุ่นซึ่งจะเริ่มในเดือนเมษายน 2552 นอกจากนั้น หากการลงนามในสัญญาเงินกู้ดังกล่าวช้า การพิจารณาเงินกู้โครงการอื่น ๆ ก็จะล่าช้าออกไป กระทรวงการคลังจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีก่อนเสนอรัฐสภาพิจารณาต่อไป
สาระสำคัญของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นร่างสัญญาเงินกู้
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการเจรจาตกลงในร่าง (1) หลักการของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น และ (2) รายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้ สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น (Exchange of Notes) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1.1 รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้กระทรวงการคลังกู้เงิน โดยผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) จำนวน 63,018 ล้านเยน สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต
1.2 เงินกู้ดังกล่าวข้างต้นมีเงื่อนไข ดังนี้
(1) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.4 ต่อปี ยกเว้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับส่วนของการจ้างที่ปรึกษา อัตราร้อยละ 0.01 ต่อปี โดยมีค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ร้อยละ 0.1 ต่อปีของวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย
(2) ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ 25 ปี รวมระยะปลอดหนี้ 7 ปี
(3) ขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินกู้เงื่อนไขการซื้อสินค้าและบริการให้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของ JICA โดยจัดซื้อได้จากทุกประเทศ
(4) การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใน 7 ปี 3 เดือน
1.3 สำหรับการขนส่งทางเรือและการประกันภัยทางทะเลของสินค้าที่จัดซื้อด้วยเงินกู้สำหรับโครงการนี้ รัฐบาลไทยต้องงดเว้นการกำหนดข้อบังคับใดๆ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรมระหว่างบริษัทเดินเรือและบริษัทประกันภัยของประเทศทั้งสอง
1.4 การชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้วงเงินกู้ดังกล่าว จะได้รับยกเว้นในเรื่องภาษีอากร และเอกสิทธิ์ที่ใช้บังคับในราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลไทยจะต้องอนุญาตให้บุคคลสัญชาติญี่ปุ่นที่จำเป็นต้องเข้ามาใน ประเทศไทยเพื่อปฏิบัติงานตามโครงการเงินกู้ รวมทั้งพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ตามกฎหมายเท่าที่จำเป็น
1.5 รัฐบาลไทยจะต้องใช้เงินกู้อย่างเหมาะสมสำหรับโครงการ ดูแลความปลอดภัยของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและการดำเนินโครงการ และดูแลให้สิ่งก่อสร้างที่ใช้เงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นได้รับการใช้และบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม
1.6 รัฐบาลไทยจะแจ้งข้อมูลที่จำเป็นและแจ้งความคืบหน้าของโครงการให้รัฐบาลญี่ปุ่นและ JICA ทราบ
1.7 รัฐบาลทั้งสองจะหารือหากมีประเด็นใดเกิดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน
2. ร่างสัญญาเงินกู้
กระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจาในรายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้ สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีสาระสำคัญสอดคล้องกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวข้างต้นได้รับการบรรจุเป็นโครงการหลักในแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2552 แล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มีนาคม 2552 --จบ--