คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจัดบ้านพักสำหรับข้าราชการซึ่งรับราชการประจำในต่างประเทศ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงการคลังเสนอว่า เนื่องด้วยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้ปรับปรุงระบบตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการจัดหาบ้านพักสำหรับข้าราชการซึ่งรับราชการประจำในต่างประเทศ พ.ศ. 2545 เพื่อให้การจัดหาบ้านพักสำหรับข้าราชการซึ่งรับราชการประจำในต่างประเทศ มีความสอดคล้องกับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติดังกล่าว อีกทั้งเพื่อให้บทอาศัยอำนาจสอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2547 จึงได้เสนอร่างระเบียบดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างระเบียบ
1. ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการจัดบ้านพักสำหรับข้าราชการซึ่งรับราชการประจำ ในต่างประเทศ พ.ศ. 2545 (ร่างข้อ 3)
2. ปรับปรุงแก้ไขประเภทของบ้านหรือห้องที่จะเช่าเป็นบ้านพักสำหรับข้าราชการให้สอดคล้องกับระบบการกำหนดตำแหน่งใหม่ของข้าราชการพลเรือน และกำหนดรองรับสำหรับข้าราชการทหารและข้าราชการตำรวจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. กำหนดให้การต่อสัญญาเช่าบ้านพัก กรณีทำสัญญาเช่าฉบับใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสาระสำคัญในสัญญาเช่าเฉพาะกรณีดังต่อไปนี้
1) เปลี่ยนแปลงระยะเวลาการเช่า
2) ปรับขึ้นอัตราการเช่า ตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าฉบับเดิม ทั้งนี้ ไม่เกินอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด
3) เงื่อนไขในสัญญาที่เป็นประโยชน์แก่ทางราชการยิ่งขึ้น หัวหน้าสำนักงานสามารถดำเนินการต่อสัญญาเช่าในนามของสำนักงานได้ โดยไม่ต้องเสนอคณะทำงานพิจารณาและไม่ต้องขอความเห็นชอบจากหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ (ร่างข้อ 9)
4. นำหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติที่เป็นหนังสือสั่งการมาปรับปรุงให้เหมาะสมและกำหนดไว้ในระเบียบฉบับเดียวกรณีเช่าบ้านพักหลังที่สอง หากจำเป็นต้องจ่ายเงินค่านายหน้า ค่าทนายเงินกินเปล่า ค่ามัดจำ ค่าอากรแสตมป์ ค่าลงทะเบียนการทำสัญญาเช่าบ้าน และค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสภาพบ้าน ในการเช่าบ้านพักหลังที่สอง และการเช่าบ้านพักตามประเพณีท้องถิ่น ให้จ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นเฉพาะกรณีดังต่อไปนี้
1) ผู้ให้เช่าบ้านหลังแรกไม่ยินยอมให้ต่อสัญญาเช่า โดยมีหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่า
2) บ้านหลังแรกที่ข้าราชการพักอาศัยขาดความปลอดภัยจากสภาพแวดล้อมรอบอาคารที่พัก ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยข้อเท็จจริงดังกล่าวต้องเกิดขึ้นภายหลังจากที่ข้าราชการได้เข้าพักอาศัยแล้ว
3) ผู้ให้เช่าบ้านหลังแรกขอขึ้นราคาค่าเช่าบ้าน ซึ่งมีราคาสูงกว่าการเช่าบ้านหลังใหม่ (ร่างข้อ 19)
5. การเช่าบ้านพักสำหรับเอกอัครราชทูตหรือกงสุลใหญ่ให้ดำเนินการเช่าในนามสำนักงานโดยความเห็นชอบของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ (ร่างข้อ 22)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 มีนาคม 2552 --จบ--