โครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 18, 2009 14:27 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้งนี้ ปริมาณรับจำนำดังกล่าวต้องอยู่ในเป้าหมายรับจำนำและวงเงินรับจำนำรวม 1,500,000 ตัน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2551 วันที่ 30 ธันวาคม 2551 และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานผลการดำเนินโครงการฯ และปัญหาโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52 ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (28 ตุลาคม 2551) ดังนี้

1. ผลการดำเนินการ

ครั้งที่ 1 เป้าหมายปริมาณรับจำนำ 500,000 ตัน อคส. ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบการรับจำนำ ได้เปิดรับจำนำตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 จำนวน 168 จุด ใน 20 จังหวัดแหล่งผลิต ประกอบด้วย จังหวัดอุทัยธานี น่าน เพชรบูรณ์ แพร่ อุตรดิตถ์ ชัยนาท พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ พะเยา ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา ลพบุรี สระบุรี เลย หนองบัวลำภูและชัยภูมิ จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2551 มีปริมาณรับจำนำรวมทั้งสิ้น 635,458 ตัน จากเกษตรกร 36,957 ราย และหยุดรับจำนำเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2551 เนื่องจากจำนำเกินเป้าหมาย

ครั้งที่ 2 ขยายปริมาณการรับจำนำอีก 250,000 ตัน คณะกรรมการกำกับการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2551/52 ซึ่งมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) เป็นประธาน ได้มีมติให้จัดสรรโควตาให้แต่ละจังหวัดตามสัดส่วนของผลผลิตคงเหลือที่ได้รับรายงานจากจังหวัด ทั้งนี้ อคส. ได้เปิดรับจำนำเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 โดยมีการเปิดจุดรับจำนำเพิ่มอีก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ สุพรรณบุรี แม่ฮ่องสอน และสุโขทัย รวม 178 จุด 24 จังหวัด

ครั้งที่ 3 ขยายปริมาณการรับจำนำเพิ่มขึ้นอีก 750,000 ตัน รวม 3 ครั้ง 1,500,000 ตัน คณะกรรมการกำกับการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2551/52 ซึ่งมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) เป็นประธาน ได้มีมติให้จัดสรรโควตาให้แต่ละจังหวัดตามสัดส่วนผลผลิตคงเหลือที่ได้รับรายงานจากจังหวัด โดยจัดสรรรอบแรกร้อยละ 70 ของเป้าหมายที่อนุมัติเพิ่มและเหลือเป็นโควตาสำรองร้อยละ 30 สำหรับจังหวัดที่ขอเพิ่มเติมในภายหลัง

ผลรับจำนำตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2552 ซึ่งรับจำนำรายละไม่เกิน 100,000 บาท ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2552 มีปริมาณรับจำนำรวม 216,780 ตัน เมื่อรวมปริมาณการรับจำนำรอบแรกรวมทั้งสิ้น 852,238 ตัน

2. ประเด็นปัญหา ผลการรับจำนำของ อคส. ครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 — 15 ธันวาคม 2551 มีปริมาณที่เกินเป้าหมาย 500,000 ตัน ตามมติคณะรัฐมนตรี (28 ตุลาคม 2551) ประมาณ 135,458 ตัน ในจำนวนดังกล่าว อคส. แจ้งว่า มีเกษตรกรที่จำนำเกินวงเงินรายละ 100,000 บาท จำนวน 5,852 ราย ประมาณ 86,385 ตัน ในขณะที่จังหวัดที่ร่วมโครงการแจ้งว่ามีเกษตรกร 4,549 ราย ปริมาณรวม 145,654 ตัน ซึ่งขณะนี้เกษตรกรยังไม่สามารถรับเงินค่าจำนำข้าวโพดดังกล่าวและอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าข้าวโพดดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรโดยแท้จริงหรือไม่ โดยคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการรับจำนำข้าวโพด ปีการผลิต 2551/52 ซึ่งมีพลตำรวจโท อัศวิน ขวัญเมือง เป็นประธาน นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากจังหวัดน่าน เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ตาก อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ พะเยา เชียงใหม่ ลำปาง และชัยภูมิ ว่าได้มีการรับฝากข้าวโพดจากเกษตรกร ที่ไม่ทราบว่ามีการปิดรับจำนำเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2551 ประมาณ 122,878 ตัน

3. แนวทางแก้ไขปัญหา

กรณีเกษตรกรที่จำนำข้าวโพดในระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคม 2551 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแจ้งหยุดการรับจำนำจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) (16 ธันวาคม 2551) และเป็นส่วนที่เกินเป้าหมาย 500,000 ตัน เห็นควรให้จำนำได้รายละไม่เกิน 350,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (28 ตุลาคม 2551) เป็นกรณีพิเศษ โดยเห็นชอบในหลักการตามจำนวนเกษตรกรและปริมาณรับจำนำที่ อคส. แจ้ง (5,852 ราย ประมาณ 86,385 ตัน) เนื่องจากเป็นปริมาณที่ อคส. ได้ออกใบประทวนไว้แล้วและปริมาณต่ำกว่าจังหวัดแจ้ง อีกทั้งเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่นำผลผลิตเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ จะจ่ายเงินให้เกษตรกรเฉพาะรายที่ผ่านการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต 2551/52 ว่าข้าวโพดดังกล่าวยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรแท้จริง และรายงานปริมาณรับจำนำจริงให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 มีนาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ