เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต
และการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตและการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ....ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอตามรายงานของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ได้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ใช้บังคับแทนพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2518 และกฎกระทรวงเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต และการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานเกี่ยวกับการศึกษา ผลกระทบกระเทือนต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2527) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2518 และยังมีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน จึงไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นฉบับปัจจุบันสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตและการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานเกี่ยวกับการศึกษาผลกระทบกระเทือนต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมเสียใหม่ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดคำนิยาม “ใบอนุญาต” “ใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานเกี่ยวกับการศึกษาผลกระทบกระเทือนต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม” “หน่วยงานของรัฐ” “คณะกรรมการ” “เลขาธิการ” “สำนักงาน” และ “อยู่ประจำ”
2. หมวด 1 คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้มีสิทธิขอรับใบอนุญาตเป็นได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ดังนี้
2.1 บุคคลธรรมดาผู้รับใบอนุญาตสามารถจัดทำได้เฉพาะรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น
2.2 นิติบุคคลผู้รับใบอนุญาตสามารถจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และได้เพิ่มคุณวุฒิของบุคคลธรรมดา โดยเพิ่มสาขาวิชาให้หลากหลายมากขึ้น และเพิ่มเรื่องการผ่านการอบรมในหลักสูตรที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
3. หมวด 3 การขอและการออกใบอนุญาต ให้ผู้มีคุณสมบัติมายื่นคำขอใบอนุญาตตามแบบที่คณะกรรมการประกาศกำหนด พร้อมค่าธรรมเนียมและเอกสารหลักฐานตามที่ระบุในแบบคำขอ โดยใบอนุญาตให้เป็นไปตามแบบ และมีอายุไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต
4. หมวด 3 การควบคุมการปฏิบัติงานของผู้รับใบอนุญาตเพิ่มหน่วยงานของรัฐที่เป็นนิติบุคคลสามารถขอรับใบอนุญาตได้ มีการกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการทั้งของผู้ขอรับใบอนุญาตและสำนักงานฯ กำหนดให้ผู้เชี่ยวชาญผลกระทบสิ่งแวดล้อมเฉพาะด้านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำรายงานต้องลงลายมือชื่อในรายงานด้วย กำหนดรายละเอียดในการมาชี้แจงประกอบการจัดทำรายงานต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ
5. หมวด 4 การต่ออายุใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาตให้ยื่นความประสงค์ก่อนภายในหกสิบวัน ก่อนวันสิ้นสุดอายุใบอนุญาตและให้ผู้ยื่นคำขอต่ออายุมีสิทธิทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อไป จนกว่าคณะกรรมการจะมีคำสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาต
6. หมวด 5 การเตือน การพักใช้ใบอนุญาต และการเพิกถอนใบอนุญาต เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตจัดทำหรือรับรองรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วยความประมาทเลินเล่อ ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งตักเตือนเป็นหนังสือและให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเมื่อปรากฏว่า
(1) ผู้รับใบอนุญาตขาดคุณสมบัติ
(2) ผู้รับใบอนุญาตถูกสั่งพักใบอนุญาต กระทำอันเป็นเหตุแห่งการสั่งพักอีก และ
(3) ผู้รับใบอนุญาตมีเจตนาจัดทำหรือให้การรับรองรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรบอกให้แจ้งและหากผู้รับใบอนุญาตไม่พอใจคำสั่งให้มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
7. กำหนดบทเฉพาะกาล และอัตราค่าธรรมเนียมคำขอรับใบอนุญาต ฉบับละ 40 บาท ใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ปีละ 2,000 บาท ใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ปีละ 4,000 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มีนาคม 2552 --จบ--