การกำกับดูแลและตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล

คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการกำกับดูแลและตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแล้วมีมติดังนี้

1. เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2551 โดยให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินการตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลแทนสำนักนายกรัฐมนตรี

2. เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน 2 คณะ เพื่อกำกับติดตามและตรวจสอบการดำเนินการตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 ที่จะดำเนินการต่อไปให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ และป้องกันการทุจริต

กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) รายงานว่า

1. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือ ที่ นร 0110/20837 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2551 แจ้งว่า กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานฝ่ายเลขานุการของ กขช. และมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการดำเนินการรับจำนำข้าว รวมทั้งเพื่อให้การดำเนินงานกำกับดูแลการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 ประสานเชื่อมโยงกันทั้งในระดับนโยบาย ปฏิบัติการ และการกำกับติดตาม เพื่อให้การดำเนินการสำเร็จบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย จึงเห็นสมควรให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับติดตามและตรวจสอบการดำเนินการรับจำนำและการเก็บรักษาข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจักได้มอบหมายผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการในคณะกรรมการฯ ที่กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งต่อไป

2. กขช. ในการประชุมครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552 ได้มีมติเห็นชอบ (1) ให้ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2551 โดยให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักแทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับติดตามและตรวจสอบการดำเนินการตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล (2) เห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น รวม 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการกำกับการตรวจสอบข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล และคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลและตรวจสอบข้าวที่เก็บรักษาในโรงสี โกดังกลาง และยุ้งฉาง ทั้งโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2552 โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบข้าวเปลือกของรัฐบาลให้เบิกจ่ายจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โครงการเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 ที่ได้รับอนุมัติ ไว้แล้ว

3. ผลการรับจำนำ ณ วันที่ 18 มีนาคม 2552 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 มีโรงสีที่เปิดจุดรับจำนำทั้งสิ้น จำนวน 715 โรง ( อคส.จำนวน 526 โรง อ.ต.ก. จำนวน 189 โรง ) เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 568,797 ราย ปริมาณรับจำนำทั้งสิ้น จำนวน 5,287,176 ตัน ( อคส. จำนวน 3,434,463 ตัน อ.ต.ก. จำนวน 1.080,987 ตัน ) และ ธ.ก.ส. จำนวน 771,726 ตัน จำแนกเป็นข้าวเปลือกเจ้า จำนวน 3,022,502 ตัน ข้าวเปลือกหมอมะลิ จำนวน 1,313,453 ตัน ข้าวหอมจังหวัด จำนวน 171,606 ตัน ข้าวปทุมธานี จำนวน 402,623 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว จำนวน 376,992 ตัน สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 มีโรงสีสมัครเข้าร่วมโครงการ ฯ แล้ว 433 โรง (อคส. 300 โรง อ.ต.ก. 133 โรง) เปิดจุดรับจำนำแล้ว 61 โรง ปริมาณข้าวเปลือกที่รับจะนำ จำนวน 6,474.64 ตัน

4. ภาวะการค้า ณ วันที่ 19 มีนาคม 2552 ราคาข้าวที่ซื้อขายในท้องตลาดใกล้เคียงกับราคาจำนำข้าวเปลือกหมอมะลิ ราคาตันละ 14,100 — 14,600 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 9,500 - 10,800 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 11,500 — 12,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ตันละ 7,500 — 9,000 บาท

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มีนาคม 2552 --จบ--