แผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติในเชิงยุทธศาสตร์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 25, 2009 15:57 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติในเชิงยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2553-2562 และมอบหมายให้กระทรวง มหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) เป็นหน่วยประสานงาน กำกับ ดูแลทิศทางการนำแผนปฏิบัติการดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ และติดตาม ประเมินผล ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

ความเป็นมา

กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า

1. หลังจากเกิดภัยพิบัติจากคลื่นสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ประเทศต่างๆ ในแถบเอเชียและ แปซิฟิค และประเทศในทวีป แอฟริกาได้ตระหนักถึงภัยจากคลื่นสึนามิ ภัยจากความแห้งแล้ง และภัยจากน้ำท่วมที่สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นานาประเทศ จึงได้มีการประชุมเพื่อลดภัยพิบัติระดับโลกขึ้น ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น (World Conference on Disaster Reduction) ผลการประชุม ของ 168 ประเทศ มีมติให้จัดทำมาตรการลดภัยพิบัติอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบการดำเนินงานเฮียวโกะ ค.ศ.2005-2015 (Hyogo Framework for Action 2005-2015 : HFA 2005-2015) หลังจากนั้นได้มีการประชุมของประเทศในทวีปเอเชีย ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชน จีน (Beijing Action for Disaster Reduction in Asia) ที่ประชุมได้รับหลักการตามกรอบการดำเนินงานเฮียวโกะ ให้ประเทศต่างๆ ใน ภูมิภาคเอเชียจัดทำแผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ให้เป็นแผนปฏิบัติการในการสร้างสมรรถนะระดับชาติและระดับชุมชนในการจัดระบบหน้าที่ และโครงสร้างต่างๆ สำหรับการแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติ พร้อมทั้งเห็นชอบให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติ เพื่อลดความเสี่ยง จากภัยพิบัติตามกรอบการดำเนินงานเฮียวโกะ

2. การจัดทำแผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของประเทศไทย ตามกรอบการดำเนินงานเฮียวโกะ (HFA 2005-2015) ได้มี การเตรียมการจากหน่วยงานภาครัฐ คือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยความร่วมมือของศูนย์เตรียมพร้อมป้องกันภัยพิบัติ แห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center : ADPC) และได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการจากองค์การยุทธศาสตร์นานา ชาติเพื่อการลดภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (United Nations International Strategy for Disaster Reduction : UNISDR)

3. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นร่างแผนปฏิบัติการลด ความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติในเชิงยุทธศาสตร์สำหรับประเทศไทย พ.ศ. 2552-2561 (Strategic National Action Plan (SNAP) on Disaster Risk Reduction 2009-2018 โดยมีผู้แทนจากทุกภาคส่วน รวม 44 หน่วยงาน จำนวน 140 คน และได้นำข้อคิดเห็นที่ได้รับจากการ ประชุมดังกล่าวมาปรับ/แก้ไขและจัดทำแผนปฏิบัติการฯ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

3.1 วิสัยทัศน์ ประเทศไทยมีแผนปฏิบัติการแบบบูรณาการให้หน่วยงานทุกภาคส่วน ตั้งแต่หน่วยงานระดับท้องถิ่นถึงหน่วยงานระดับ ประเทศและประชาชน ดำเนินการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อทำให้ประเทศไทยมีระดับความปลอดภัยเทียบเท่าระดับสากลได้ ภายในระยะหนึ่งทศวรรษ (จากปัจจุบันถึง พ.ศ. 2561) และเป็นประเทศผู้นำด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในระดับภูมิภาค

3.2 วัตถุประสงค์

(1) เพื่อยกระดับและสนับสนุนให้มีมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้นสู่ระดับ สากลอย่างยั่งยืน

(2) เพื่อให้ประเทศไทยมีแผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในเชิงยุทธศาสตร์ ระยะยาว

(3) เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐบาลไทยอย่างชัดเจนในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของประเทศ

(4) เพื่อพัฒนาและเตรียมการจัดทำแผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของประเทศไทยในระยะยาวตามแนวทางของกรอบ ดำเนินการเฮียวโกะ

(5) เพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วนจากระดับท้องถิ่นถึงระดับประเทศมีแผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติระยะยาวที่มีทิศทาง เดียวกันและเสริมกำลังกันอย่างบูรณาการ

3.3 เป้าหมาย กำหนดทิศทางการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของประเทศไทยให้เป็นระบบที่บูรณาการและเสริมกำลังกัน โดยให้หน่วย งานทุกภาคส่วนมีแผนปฏิบัติการระยะยาวสอดรับกับแผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติในเชิงยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2552-2561

3.4 ยุทธศาสตร์ของแผน ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ คือ

          ยุทธศาสตร์                 ประเด็นยุทธศาสตร์
1. การป้องกันและลดผลกระทบ            1.1 การปรับปรุงทบทวนกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

1.2 การขยายการปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน

1.3 การจัดการระบบข้อมูลสารสนเทศด้านบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ

1.4 การประเมินความเสี่ยงภัยและการจัดทำแผนที่เสี่ยงภัย

1.5 การพัฒนาแผนหลักและแผนปฏิบัติการด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติ

1.6 การสร้างความตระหนักแก่ประชาชนและการให้การศึกษาเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ

1.7 การวิจัย และพัฒนาเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ

1.8 การถ่ายเทความเสี่ยงภัย

2. การเตรียมความพร้อม                2.1 การเพิ่มพูนขีดความสามารถให้ระบบการแจ้งเตือนภัยและการกระจายข้อมูลข่าวสารระดับชาติ

2.2 การจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ

2.3 การฝึกซ้อมแผนทุกระดับ

2.4 การเพิ่มพูนขีดความสามารถด้านการเตรียมและการรับมือภัยพิบัติ

2.5 การสร้างความตระหนัก และการให้การศึกษาระดับชุมชน

2.6 การเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน

3. การบริหารจัดการฉุกเฉิน              3.1 การจัดตั้งศูนย์บริหารวิกฤตระดับชาติ

3.2 การพัฒนาศักยภาพของระบบการสื่อสารฉุกเฉิน

3.3 การจัดตั้งหน่วยกู้ชีพ/กู้ภัยระดับชาติ

3.4 การประสานงานและการบัญชาการ

3.5 การฝึกอบรม

4. การจัดการหลังเกิดภัย                4.1 การประเมินความเสียหายเบื้องต้น

4.2 การประเมินความต้องการของผู้ประกันภัย

4.3 จัดทำแผนฟื้นฟูบูรณะ

4.4 ความร่วมมือกับองค์กรนานาชาติในการฟื้นฟูบูรณะ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มีนาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ