คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเร่งรัดป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แล้วมีมติอนุมัติในหลักการดังนี้
1. ให้กรมชลประทานสามารถดำเนินการแผนงาน/โครงการที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ด้านทรัพยากรน้ำ ปี 2549 (เพิ่มเติม) จำนวน 18 โครงการ มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2549-2551) วงเงินทั้งสิ้น 5,104.60 ล้านบาท
2. งบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) หรืองบกลาง รายการอื่นตามความจำเป็นเหมาะสมให้กรมชลประทานดำเนินงาน ในวงเงิน 799.26 ล้านบาท
3. ให้กรมชลประทานก่อหนี้ผูกผันข้ามปีงบประมาณสำหรับแผนงาน/โครงการดังกล่าว โดยผูกพันงบประมาณปี 2550-2551 วงเงิน 4,305.34 ล้านบาท
ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณแล้ว ดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า
1. หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2548 ได้เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาความเหมาะสม จำนวน 2 ครั้ง โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในแผนงาน/โครงการของกรมชลประทาน จำนวน 95 โครงการ ในกรอบงบประมาณปี 2549 วงเงิน 3,867.87 ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณพิจารณาในเบื้องต้นไว้แล้ว ต่อมากรมชลประทานได้มีหนังสือถึงสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานโครงการทั้ง 95 โครงการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ
2. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า มีแผนงาน/โครงการบางส่วนเป็นโครงการที่สมควรเร่งดำเนินการโดยด่วน เพราะขณะนี้เป็นช่วงต้นฤดูฝน หากเร่งรัดดำเนินโครงการโดยเร็วจะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการป้องกันปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการบางโครงการไปพลางก่อน ซึ่งกรมชลประทานได้พยายามเจียดจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2549 เพื่อดำเนินการแล้ว แต่เนื่องจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด และยังมีแผนงานตามภารกิจอีกจำนวนมากที่ต้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ตามแผนงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 รวมถึงแผนงานเร่งด่วนในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยและขาดแคลนน้ำที่ผ่านมาในพื้นที่ทั่วประเทศ กรมชลประทานจึงไม่มีงบประมาณเหลือจ่ายเพียงพอที่จะนำมาดำเนินการได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 พฤษภาคม 2549--จบ--
1. ให้กรมชลประทานสามารถดำเนินการแผนงาน/โครงการที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ด้านทรัพยากรน้ำ ปี 2549 (เพิ่มเติม) จำนวน 18 โครงการ มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2549-2551) วงเงินทั้งสิ้น 5,104.60 ล้านบาท
2. งบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) หรืองบกลาง รายการอื่นตามความจำเป็นเหมาะสมให้กรมชลประทานดำเนินงาน ในวงเงิน 799.26 ล้านบาท
3. ให้กรมชลประทานก่อหนี้ผูกผันข้ามปีงบประมาณสำหรับแผนงาน/โครงการดังกล่าว โดยผูกพันงบประมาณปี 2550-2551 วงเงิน 4,305.34 ล้านบาท
ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณแล้ว ดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า
1. หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2548 ได้เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาความเหมาะสม จำนวน 2 ครั้ง โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในแผนงาน/โครงการของกรมชลประทาน จำนวน 95 โครงการ ในกรอบงบประมาณปี 2549 วงเงิน 3,867.87 ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณพิจารณาในเบื้องต้นไว้แล้ว ต่อมากรมชลประทานได้มีหนังสือถึงสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานโครงการทั้ง 95 โครงการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ
2. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า มีแผนงาน/โครงการบางส่วนเป็นโครงการที่สมควรเร่งดำเนินการโดยด่วน เพราะขณะนี้เป็นช่วงต้นฤดูฝน หากเร่งรัดดำเนินโครงการโดยเร็วจะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการป้องกันปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการบางโครงการไปพลางก่อน ซึ่งกรมชลประทานได้พยายามเจียดจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2549 เพื่อดำเนินการแล้ว แต่เนื่องจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด และยังมีแผนงานตามภารกิจอีกจำนวนมากที่ต้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ตามแผนงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 รวมถึงแผนงานเร่งด่วนในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยและขาดแคลนน้ำที่ผ่านมาในพื้นที่ทั่วประเทศ กรมชลประทานจึงไม่มีงบประมาณเหลือจ่ายเพียงพอที่จะนำมาดำเนินการได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 พฤษภาคม 2549--จบ--