คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานตามปฏิบัติการพลังแผ่นดิน ร่วมกวาดล้างยาเสพติด ครั้งที่ 3 ในห้วงวันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ด้านการปราบปรามยาเสพติด
1.1 การจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน —30 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินงานดังนี้
ผลการจับกุม 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548
ราย คน
1. ผลิต / นำเข้า / ส่งออก 131 150
2. จำหน่าย 1,631 2,128
3. ครอบครองเพื่อจำหน่าย 3,368 4,110
4. ครอบครอง 5,492 5,865
5. เสพ 9,681 9,836
รวม 20,303 22,089
ของกลางยาบ้า 3,643,909 เม็ด
การตรวจยึด / อายัดทรัพย์สิน 41,129,122 บาท
ข้อมูล : ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
1.2 การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน มีผลการปฏิบัติงานดังนี้
รายงาน จำนวน ผลงานรวม
1 เมษายน — 30 เมษายน 2548
- ลาดตระเวน ครั้ง 25,963
- ตั้งจุดตรวจ / ด่านตรวจ ครั้ง 28,495
- ปิดล้อมตรวจค้น ครั้ง 2,904
- จับกุมผู้ต้องหา คน 1,369
- ยาบ้า เม็ด 2,033,523
- เฮโรอีน กรัม 4,009
- กัญชา ก.ก. 47,223
ข้อมูล : ศตส.กองทัพไทย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
1.3 ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติด
การประชุมเชิงปฏิบัติการ (National Consultations Workshop) โครงการศึกษา Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion (GMS) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2548 ณ โรงแรมสยามซิตี้ ผลการประชุม ดังนี้
1. การประชุมเชิงปฏิบัติการ (National Consultations Workshop) โครงการศึกษา Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion (GMS) จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) สศช. และ TDRI โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงโครงการศึกษาวิจัยในหัวข้อ Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion รวมทั้งระดมความคิดเห็นต่อกรอบแนวทางการศึกษาวิจัยดังกล่าวเพื่อให้การศึกษาวิจัยเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง
2. โครงการศึกษา Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion (GMS) เป็นโครงการหนึ่งในกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว จีน (ยูนนาน) พม่า ไทย และเวียดนาม มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างประเทศว่าจะสามารถช่วยยกระดับสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจของคนยากจน โดยวิเคราะห์ระดับกิจกรรมข้ามพรมแดนในมิติต่าง ๆ ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและชุมชน การตอบสนองต่อนโยบายและการบริหารภาครัฐ ตลอดจนวิเคราะห์ถึงผลประโยชน์และผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยใช้การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างจังหวัดที่เป็นประตูการค้า (Corridor) ในพื้นที่ชายแดนของ 4 ประเทศ ได้แก่ จังหวัดมุกดาหารและสระแก้ว (ไทย) แขวงสะหวันนะเขต (สปป.ลาว) จังหวัดบันเตียเมียนเจยและสเวเรียง (กัมพูชา) และจังหวัดเทนินและกวางตรี (เวียดนาม) และมีทีมวิจัย 4 ทีมทำงานใน 4 ประเทศพร้อมกันเพื่อให้ข้อเสนอแนะในอนาคตเกี่ยวกับนโยบายโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะช่วยลดปัญหาความยากจน
3. ความคืบหน้าของการดำเนินโครงการศึกษา Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion (GMS) เริ่มดำเนินโครงการเมื่อเดือนเมษายน 2548 ระยะเวลาดำเนินการ 9 เดือน โดยกิจกรรมหลักที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ การทบทวนวรรณกรรมและการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิของจังหวัดสระแก้วและมุกดาหาร โดยพบว่ามีงานวิจัยเรื่องเศรษฐกิจชายแดนอยู่แล้วแต่ไม่เน้นเรื่องผลกระทบต่อความยากจน รวมทั้งประเด็นปัญหาข้ามชาติที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานต่างด้าว ปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหาการค้าไม้เถื่อนปัญหาโรคเอดส์ ปัญหาชนกลุ่มน้อย และปัญหาของแม่น้ำโขง นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการสำรวจเชิงคุณภาพ นำร่อง โดยคณะที่ปรึกษา TDRI, ADB และ สศช. ได้เข้าสำรวจพื้นที่จังหวัดสระแก้วและมุกดาหารอย่างไม่เป็นทางการรวมทั้งพบปะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
4. ข้อเสนอแนะของที่ประชุม การศึกษาวิจัยเรื่องนี้ควรเพิ่มการศึกษาในประเด็นบทบาทของภาคเอกชโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนบริเวณพื้นที่ชายแดนเนื่องจากภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการของการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจระดับมหภาคของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายแดน รวมทั้งคำนึงถึงมาตรการรองรับประเด็นปัญหาความมั่นคงโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการระดับท้องถิ่นเมื่อมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ในการเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศในอนุภาคมากขึ้น
2. ด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ / ผู้ติดยาเสพติด
ระหว่างวันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินงานดังนี้
การบำบัด ผลการดำเนินงาน
1. ระบบสมัครใจ 1,925 ราย
2. ระบบบังคับบำบัด 2,552 ราย
3. ระบบต้องโทษ 665 ราย
รวม 5,142 ราย
ข้อมูล : ฐานข้อมูลระบบ บสต. วันที่ 30 มิถุนายน 2548
3. ด้านการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
3.1 ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินงานดังนี้
กิจกรรม ผลการดำเนินงาน
(1 เมษายน —23 มิถุนายน 2548)
- ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ
- จัดกิจกรรมเพื่อรักษาสถานภาพความเข้มแข็ง ตรวจเยี่ยมหอพัก 16 ครั้ง / 99 แห่ง
- ทำความเข้าใจและจูงใจให้สถานประกอบกิจการในกลุ่ม
เป้าหมายสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไป 227 แห่ง / 40,266 คน
- เชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาว 146 แห่ง / 25,305 คน
- เสริมสร้างภูมิต้านทานยาเสพติดในสถานประกอบการ
- การเดินรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด 1 ครั้ง / 3,000 คน
- การจัดนิทรรศการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 4 ครั้ง / 12,984 คน
- การเล่นกีฬา 6 แห่ง / 1,037 คน
ข้อมูล : สำนัก ป.ป.ส. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
3.2 ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ระหว่างวันที่ 1 เมษายน —30 มิถุนายน 2548
กิจกรรม ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน
1 เมษายน - 24-30 มิถุนายน 1 เมษายน -
23 มิถุนายน 2548 2548 30 มิถุนายน 2548
-จัดกิจกรรมเพื่อรักษา 773 ครั้ง/773 แห่ง 349 ครั้ง/349 แห่ง 1,122 ครั้ง/1,112 แห่ง
สถานภาพความเข้มแข็ง
(เฉพาะร.ร.สังกัด กทม.)
-จัดกิจกรรมเพื่อยกฐานะ/ 216 ครั้ง/216 แห่ง 84 ครั้ง/84 แห่ง 300 ครั้ง/300 แห่ง
ระดับความเข้มแข็ง
(เฉพาะร.ร.สังกัด กทม.)
-กิจกรรมรณรงค์/
สร้างสรรค์ให้นักเรียน
นิสิต นักศึกษา ห่างไกล
ยาเสพติด
-นักเรียน นักศึกษา สมัครงาน 21,750 คน 7,147 คน 28,897 คน
-นักเรียน นักศึกษา ได้บรรจุงาน 9,035 คน 2,548 คน 11,583 คน
ข้อมูล : สำนัก ป.ป.ส. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
3.3 การดำเนินการกับเด็กและเยาวชน ได้แก่ การประกวดชมรม To Be Number One ประจำปี 2548 การจัดอุทยานเรียนรู้เยาวชน "งานมหกรรมพลังไทย ต้านภัยยาเสพติด" การประชุมกำหนดร่างยุทธศาสตร์การป้องกัน แก้ไข และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดเยาวชนในระบบแรงงาน การรณรงค์/สร้างสรรค์ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ห่างไกลยาเสพติด
4. การบริหารจัดการ
ระหว่างวันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินงานดังนี้
กิจกรรม ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน
1 เมษายน - 24-30 มิถุนายน 1 เมษายน -
30 มิถุนายน 2548 2548 30 มิถุนายน 2548
ประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่น
และความพึงพอใจให้กัประชาชน
- สื่อวิทยุ / โทรทัศน์ 3,161 ครั้ง 7 ครั้ง 3,168 ครั้ง
- สื่อสิ่งพิมพ์ 124 ข่าว - 124 ข่าว
- บริการประชาชน 80 ครั้ง - 80 ครั้ง
- สรุปข่าวผ่านระบบ Internet 10 ข่าว - 10 ข่าว
- สรุปข่าวประจำวันผ่าน Internet 79 ครั้ง - 79 ครั้ง
- ติดตั้งป้ายรณรงค์ทั่ว กทม. 6,600 ป้าย - 6,600 ป้าย
ข้อมูล : สำนักงาน ป.ป.ส. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
5. ผลการสำรวจความเชื่อมั่นและความพอใจต่อผลการปฏิบัติการพลังแผ่นดินร่วมกวาดล้างยาเสพติด ครั้งที่ 3
5.1 สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน / ชุมชนของตนในปัจจุบัน
- ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 84.0 มีความเห็นว่าในหมู่บ้าน / ชุมชนของตนในปัจจุบันไม่ค่อยมีปัญหายาเสพติดถึงไม่มีปัญหาเลย มีเพียงร้อยละ 5.6 ที่มีความเห็นว่ายังมีปัญหายาเสพติดค่อนข้างรุนแรงถึงรุนแรงมาก
- ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.0 ระบุไม่มีปัญหายาเสพติดที่พบเห็นในหมู่บ้าน / ชุมชนของตน ในขณะที่ร้อยละ 22.0 ระบุปัญหายาเสพติดที่พบเห็นในหมู่บ้าน / ชุมชน โดยปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน / ชุมชนของตนที่ประชาชนพบเห็นมากที่สุด ได้แก่ ปัญหาผู้เสพ / ผู้ติดยาเสพติด (ร้อยละ 51.8) รองลงมาคือ เจ้าหน้าที่รัฐละเลยเพิกเฉยไม่เอาจริงเอาจังในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ร้อยละ 40.9) แหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติด (ร้อยละ 35.6) ผู้ค้า / ผู้ผลิตยาเสพติด (ร้อยละ 19.3) แหล่งมั่วสุมค้ายาเสพติด (ร้อยละ 15.3) และเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในทางมิชอบกับยาเสพติด (ร้อยละ 13.4) ตามลำดับ
5.2 ความพึงพอใจและความเชื่อมั่นต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล
- ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 93.2 มีความพึงพอใจต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลในระดับปานกลางถึงมากที่สุด และประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 88.8 ชื่นชมการทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน / ชุมชนอย่างจริงจังของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
- ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.1 มีความเชื่อมั่นต่อความเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ร้อยละ 65.9 มีความเชื่อมั่นต่อการให้ความสำคัญของปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และร้อยละ 56.8 มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างหมู่บ้าน / ชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อเอาชนะยาเสพติดอย่างถาวรได้ สำหรับด้านที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่ำกว่าร้อยละ 50 ได้แก่ ความเชื่อมั่นในการป้องกันไม่ให้ยาเสพติดกลับเข้ามาแพร่ระบาดอีก (ร้อยละ 49.8)
5.3 สิ่งที่ประชาชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ
- สิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนในหมู่บ้าน / ชุมชน ได้แก่ การปราบปรามจับกุมผู้ค้า / ผู้ผลิตยาเสพติด (ร้อยละ 70.2) ส่งเสริมการกีฬา ดูแลสุขภาพ (ร้อยละ 69.8) การยึดทรัพย์ผู้ค้า / ผู้ผลิต (ร้อยละ 67.4) การลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (ร้อยละ 66.6) และการให้ความรู้ / ข่าวสารแก่ประชาชน (ร้อยละ 64.6) ตามลำดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 กรกฎาคม 2548--จบ--
1. ด้านการปราบปรามยาเสพติด
1.1 การจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน —30 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินงานดังนี้
ผลการจับกุม 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548
ราย คน
1. ผลิต / นำเข้า / ส่งออก 131 150
2. จำหน่าย 1,631 2,128
3. ครอบครองเพื่อจำหน่าย 3,368 4,110
4. ครอบครอง 5,492 5,865
5. เสพ 9,681 9,836
รวม 20,303 22,089
ของกลางยาบ้า 3,643,909 เม็ด
การตรวจยึด / อายัดทรัพย์สิน 41,129,122 บาท
ข้อมูล : ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
1.2 การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน มีผลการปฏิบัติงานดังนี้
รายงาน จำนวน ผลงานรวม
1 เมษายน — 30 เมษายน 2548
- ลาดตระเวน ครั้ง 25,963
- ตั้งจุดตรวจ / ด่านตรวจ ครั้ง 28,495
- ปิดล้อมตรวจค้น ครั้ง 2,904
- จับกุมผู้ต้องหา คน 1,369
- ยาบ้า เม็ด 2,033,523
- เฮโรอีน กรัม 4,009
- กัญชา ก.ก. 47,223
ข้อมูล : ศตส.กองทัพไทย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
1.3 ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติด
การประชุมเชิงปฏิบัติการ (National Consultations Workshop) โครงการศึกษา Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion (GMS) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2548 ณ โรงแรมสยามซิตี้ ผลการประชุม ดังนี้
1. การประชุมเชิงปฏิบัติการ (National Consultations Workshop) โครงการศึกษา Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion (GMS) จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) สศช. และ TDRI โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงโครงการศึกษาวิจัยในหัวข้อ Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion รวมทั้งระดมความคิดเห็นต่อกรอบแนวทางการศึกษาวิจัยดังกล่าวเพื่อให้การศึกษาวิจัยเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง
2. โครงการศึกษา Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion (GMS) เป็นโครงการหนึ่งในกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว จีน (ยูนนาน) พม่า ไทย และเวียดนาม มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างประเทศว่าจะสามารถช่วยยกระดับสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจของคนยากจน โดยวิเคราะห์ระดับกิจกรรมข้ามพรมแดนในมิติต่าง ๆ ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและชุมชน การตอบสนองต่อนโยบายและการบริหารภาครัฐ ตลอดจนวิเคราะห์ถึงผลประโยชน์และผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยใช้การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างจังหวัดที่เป็นประตูการค้า (Corridor) ในพื้นที่ชายแดนของ 4 ประเทศ ได้แก่ จังหวัดมุกดาหารและสระแก้ว (ไทย) แขวงสะหวันนะเขต (สปป.ลาว) จังหวัดบันเตียเมียนเจยและสเวเรียง (กัมพูชา) และจังหวัดเทนินและกวางตรี (เวียดนาม) และมีทีมวิจัย 4 ทีมทำงานใน 4 ประเทศพร้อมกันเพื่อให้ข้อเสนอแนะในอนาคตเกี่ยวกับนโยบายโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะช่วยลดปัญหาความยากจน
3. ความคืบหน้าของการดำเนินโครงการศึกษา Poverty Impact of Regional Economic Integration in the Greater Mekong Subregion (GMS) เริ่มดำเนินโครงการเมื่อเดือนเมษายน 2548 ระยะเวลาดำเนินการ 9 เดือน โดยกิจกรรมหลักที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ การทบทวนวรรณกรรมและการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิของจังหวัดสระแก้วและมุกดาหาร โดยพบว่ามีงานวิจัยเรื่องเศรษฐกิจชายแดนอยู่แล้วแต่ไม่เน้นเรื่องผลกระทบต่อความยากจน รวมทั้งประเด็นปัญหาข้ามชาติที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานต่างด้าว ปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหาการค้าไม้เถื่อนปัญหาโรคเอดส์ ปัญหาชนกลุ่มน้อย และปัญหาของแม่น้ำโขง นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการสำรวจเชิงคุณภาพ นำร่อง โดยคณะที่ปรึกษา TDRI, ADB และ สศช. ได้เข้าสำรวจพื้นที่จังหวัดสระแก้วและมุกดาหารอย่างไม่เป็นทางการรวมทั้งพบปะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
4. ข้อเสนอแนะของที่ประชุม การศึกษาวิจัยเรื่องนี้ควรเพิ่มการศึกษาในประเด็นบทบาทของภาคเอกชโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนบริเวณพื้นที่ชายแดนเนื่องจากภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการของการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจระดับมหภาคของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายแดน รวมทั้งคำนึงถึงมาตรการรองรับประเด็นปัญหาความมั่นคงโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการระดับท้องถิ่นเมื่อมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ในการเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศในอนุภาคมากขึ้น
2. ด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ / ผู้ติดยาเสพติด
ระหว่างวันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินงานดังนี้
การบำบัด ผลการดำเนินงาน
1. ระบบสมัครใจ 1,925 ราย
2. ระบบบังคับบำบัด 2,552 ราย
3. ระบบต้องโทษ 665 ราย
รวม 5,142 ราย
ข้อมูล : ฐานข้อมูลระบบ บสต. วันที่ 30 มิถุนายน 2548
3. ด้านการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
3.1 ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินงานดังนี้
กิจกรรม ผลการดำเนินงาน
(1 เมษายน —23 มิถุนายน 2548)
- ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ
- จัดกิจกรรมเพื่อรักษาสถานภาพความเข้มแข็ง ตรวจเยี่ยมหอพัก 16 ครั้ง / 99 แห่ง
- ทำความเข้าใจและจูงใจให้สถานประกอบกิจการในกลุ่ม
เป้าหมายสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไป 227 แห่ง / 40,266 คน
- เชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาว 146 แห่ง / 25,305 คน
- เสริมสร้างภูมิต้านทานยาเสพติดในสถานประกอบการ
- การเดินรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด 1 ครั้ง / 3,000 คน
- การจัดนิทรรศการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 4 ครั้ง / 12,984 คน
- การเล่นกีฬา 6 แห่ง / 1,037 คน
ข้อมูล : สำนัก ป.ป.ส. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
3.2 ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ระหว่างวันที่ 1 เมษายน —30 มิถุนายน 2548
กิจกรรม ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน
1 เมษายน - 24-30 มิถุนายน 1 เมษายน -
23 มิถุนายน 2548 2548 30 มิถุนายน 2548
-จัดกิจกรรมเพื่อรักษา 773 ครั้ง/773 แห่ง 349 ครั้ง/349 แห่ง 1,122 ครั้ง/1,112 แห่ง
สถานภาพความเข้มแข็ง
(เฉพาะร.ร.สังกัด กทม.)
-จัดกิจกรรมเพื่อยกฐานะ/ 216 ครั้ง/216 แห่ง 84 ครั้ง/84 แห่ง 300 ครั้ง/300 แห่ง
ระดับความเข้มแข็ง
(เฉพาะร.ร.สังกัด กทม.)
-กิจกรรมรณรงค์/
สร้างสรรค์ให้นักเรียน
นิสิต นักศึกษา ห่างไกล
ยาเสพติด
-นักเรียน นักศึกษา สมัครงาน 21,750 คน 7,147 คน 28,897 คน
-นักเรียน นักศึกษา ได้บรรจุงาน 9,035 คน 2,548 คน 11,583 คน
ข้อมูล : สำนัก ป.ป.ส. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
3.3 การดำเนินการกับเด็กและเยาวชน ได้แก่ การประกวดชมรม To Be Number One ประจำปี 2548 การจัดอุทยานเรียนรู้เยาวชน "งานมหกรรมพลังไทย ต้านภัยยาเสพติด" การประชุมกำหนดร่างยุทธศาสตร์การป้องกัน แก้ไข และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดเยาวชนในระบบแรงงาน การรณรงค์/สร้างสรรค์ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ห่างไกลยาเสพติด
4. การบริหารจัดการ
ระหว่างวันที่ 1 เมษายน — 30 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินงานดังนี้
กิจกรรม ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน
1 เมษายน - 24-30 มิถุนายน 1 เมษายน -
30 มิถุนายน 2548 2548 30 มิถุนายน 2548
ประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่น
และความพึงพอใจให้กัประชาชน
- สื่อวิทยุ / โทรทัศน์ 3,161 ครั้ง 7 ครั้ง 3,168 ครั้ง
- สื่อสิ่งพิมพ์ 124 ข่าว - 124 ข่าว
- บริการประชาชน 80 ครั้ง - 80 ครั้ง
- สรุปข่าวผ่านระบบ Internet 10 ข่าว - 10 ข่าว
- สรุปข่าวประจำวันผ่าน Internet 79 ครั้ง - 79 ครั้ง
- ติดตั้งป้ายรณรงค์ทั่ว กทม. 6,600 ป้าย - 6,600 ป้าย
ข้อมูล : สำนักงาน ป.ป.ส. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548
5. ผลการสำรวจความเชื่อมั่นและความพอใจต่อผลการปฏิบัติการพลังแผ่นดินร่วมกวาดล้างยาเสพติด ครั้งที่ 3
5.1 สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน / ชุมชนของตนในปัจจุบัน
- ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 84.0 มีความเห็นว่าในหมู่บ้าน / ชุมชนของตนในปัจจุบันไม่ค่อยมีปัญหายาเสพติดถึงไม่มีปัญหาเลย มีเพียงร้อยละ 5.6 ที่มีความเห็นว่ายังมีปัญหายาเสพติดค่อนข้างรุนแรงถึงรุนแรงมาก
- ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.0 ระบุไม่มีปัญหายาเสพติดที่พบเห็นในหมู่บ้าน / ชุมชนของตน ในขณะที่ร้อยละ 22.0 ระบุปัญหายาเสพติดที่พบเห็นในหมู่บ้าน / ชุมชน โดยปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน / ชุมชนของตนที่ประชาชนพบเห็นมากที่สุด ได้แก่ ปัญหาผู้เสพ / ผู้ติดยาเสพติด (ร้อยละ 51.8) รองลงมาคือ เจ้าหน้าที่รัฐละเลยเพิกเฉยไม่เอาจริงเอาจังในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ร้อยละ 40.9) แหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติด (ร้อยละ 35.6) ผู้ค้า / ผู้ผลิตยาเสพติด (ร้อยละ 19.3) แหล่งมั่วสุมค้ายาเสพติด (ร้อยละ 15.3) และเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในทางมิชอบกับยาเสพติด (ร้อยละ 13.4) ตามลำดับ
5.2 ความพึงพอใจและความเชื่อมั่นต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล
- ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 93.2 มีความพึงพอใจต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลในระดับปานกลางถึงมากที่สุด และประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 88.8 ชื่นชมการทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน / ชุมชนอย่างจริงจังของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
- ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.1 มีความเชื่อมั่นต่อความเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ร้อยละ 65.9 มีความเชื่อมั่นต่อการให้ความสำคัญของปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และร้อยละ 56.8 มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างหมู่บ้าน / ชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อเอาชนะยาเสพติดอย่างถาวรได้ สำหรับด้านที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่ำกว่าร้อยละ 50 ได้แก่ ความเชื่อมั่นในการป้องกันไม่ให้ยาเสพติดกลับเข้ามาแพร่ระบาดอีก (ร้อยละ 49.8)
5.3 สิ่งที่ประชาชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ
- สิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนในหมู่บ้าน / ชุมชน ได้แก่ การปราบปรามจับกุมผู้ค้า / ผู้ผลิตยาเสพติด (ร้อยละ 70.2) ส่งเสริมการกีฬา ดูแลสุขภาพ (ร้อยละ 69.8) การยึดทรัพย์ผู้ค้า / ผู้ผลิต (ร้อยละ 67.4) การลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (ร้อยละ 66.6) และการให้ความรู้ / ข่าวสารแก่ประชาชน (ร้อยละ 64.6) ตามลำดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 กรกฎาคม 2548--จบ--