ร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 10, 2009 13:00 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคม และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

กระทรวงคมนาคมเสนอตามรายงานของกรมการขนส่งทางบกว่า พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานและได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังมีข้อขัดข้องในทางปฏิบัติและมีปัญหาในการตรวจสอบควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งไม่อาจรองรับให้ทันกับการพัฒนาเทคโนโลยีหรือการเปลี่ยนแปลงทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ที่มีการผลิตรถยนต์ในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น จนมีผลทำให้ขนาด น้ำหนัก วัตถุประสงค์ในการใช้งานไม่สอดคล้องกับกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน หรือมีการใช้รถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษีประจำปี (ป้ายแดง) เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเกิดจากความเข้าใจผิดว่าสามารถใช้รถได้ตามกฎหมาย ปัญหาการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว ปัญหาการขอรับใบอนุญาตขับรถของผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถว่าสามารถจะขอรับใบอนุญาตใหม่ได้เมื่อใด หรือปัญหาในทางปฏิบัติเมื่อมีการนำรถที่หมดอายุการใช้งานมาใช้ในท้องถนนแต่ผู้ตรวจการหรือนายทะเบียนไม่มีอำนาจยึดแผ่นป้ายทะเบียนรถคืนได้ รวมทั้งปัญหาที่มีผู้ร้องเรียนว่าผู้ขับรถหรือเจ้าของรถกระทำความผิดแต่ผู้ตรวจการหรือนายทะเบียนไม่มีอำนาจเรียกเจ้าของรถหรือผู้ขับรถมาให้ถ้อยคำชี้แจงแสดงข้อเท็จจริงได้ จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน รวมทั้งเพื่อให้การควบคุมกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้มีการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจากผู้เกี่ยวข้องแล้ว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

1. แก้ไขบทนิยาม “รถยนต์ส่วนบุคคล” โดยแก้ไขเพิ่มเติมน้ำหนักของรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล จากน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม เป็น น้ำหนักไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม โดยน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม ซึ่งมิได้ใช้ประกอบการขนส่งเพื่อสินจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก (ร่างมาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 4)

2. กำหนดห้ามใช้รถที่ยังมิได้จดทะเบียน รถที่ทะเบียนระงับ รถที่แจ้งการไม่ใช้รถ หรือรถที่นายทะเบียนเพิกถอน รวมทั้งรถที่จดทะเบียนแล้วแต่ยังมิได้เสียภาษีรถประจำปี เว้นแต่รถบางประเภท เช่น รถที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักรชั่วคราว รถใหม่ที่เจ้าของรถมีความจำเป็นต้องใช้ระหว่างรอจดทะเบียน รถใหม่ที่ผู้ส่งต้องขับไปเพื่อส่งให้ตัวแทนจำหน่ายรถ รถที่ใช้วิ่งทดสอบ หรือรถอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง (ร่างมาตรา 4 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 6)

3. กำหนดห้ามมิให้ใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ เว้นแต่การใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2,200 กิโลกรัมและน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคนหรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ตามเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับบทนิยาม “รถยนต์ส่วนบุคคล” ซึ่งได้แก้ไขเรื่องน้ำหนักรถยนต์ไปแล้ว (ร่างมาตรา 5 แก้ไขมาตรา 21 (3) ทวิ)

4. ให้อำนาจนายทะเบียนและผู้ตรวจการมีอำนาจเข้าตรวจในสถานที่ ซึ่งมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีรถค้างชำระภาษีประจำปี หรือมีการใช้รถสิ้นอายุการใช้งานหรือมีการใช้รถโดยไม่จดทะเบียน และยึดรถไว้เพื่อตรวจสอบหรือยึดแผ่นป้ายทะเบียนคืนได้ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก (ร่างมาตรา 8 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 37)

5. กำหนดให้ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลชั่วคราว และรถจักรยานยนต์ ส่วนบุคคลชั่วคราว เป็นใบอนุญาตที่ขอต่ออายุได้คราวละ 1 ปี (ร่างมาตรา 9 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 44)

6. กำหนดให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถสามารถขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ได้เมื่อพ้น 3 ปี นับแต่มีคำสั่งเพิกถอน (ร่างมาตรา 10 ยกเลิกมาตรา 46 (8))

7. กำหนดให้นายทะเบียนและผู้ตรวจการซึ่งอธิบดีกรมการขนส่งทางบกมอบหมาย มีอำนาจยึดแผ่นป้ายทะเบียนรถคืนได้เมื่อรถนั้นสิ้นอายุการใช้งาน และมีอำนาจออกหนังสือเรียกเจ้าของรถหรือผู้ขับรถมาให้ถ้อยคำหรือยื่น คำชี้แจงข้อเท็จจริงได้เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยหรือมีผู้ร้องเรียนว่าเจ้าของรถหรือผู้ขับรถกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 รวมทั้งเพิ่มเติมบทกำหนดโทษสำหรับผู้ที่ไม่มาพบผู้ตรวจการหรือนายทะเบียนตามหนังสือเรียกดังกล่าว (ร่างมาตรา 11 แก้ไขมาตรา 57 ทวิ)

8. เพิ่มเติมบทกำหนดโทษกรณีไม่แสดงอัตราค่าโดยสารหรือค่าบริการอื่นตามที่กฎกระทรวงกำหนด (ร่างมาตรา 14)

9. แก้ไขอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการอนุญาตให้นำรถมาใช้เป็นการชั่วคราว รวมทั้งเครื่องหมายพิเศษสำหรับรถที่ได้รับอนุญาตให้นำมาใช้เป็นการชั่วคราวและเครื่องหมายแสดงการใช้รถ (ร่างมาตรา 15)

10. กำหนดอัตราภาษีประจำปีเพิ่มเติมสำหรับรถอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงเนื่องจากตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ยังไม่มีการกำหนดอัตราภาษีสำหรับรถดังกล่าวทำให้ไม่สามารถออกกฎกระทรวงกำหนดรถประเภทอื่นขึ้นได้ (ร่างมาตรา 16)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 เมษายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ