ขออนุมัติลงนามความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยการเปิดเสรีการขนส่งสินค้าทางอากาศ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 10, 2009 16:18 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ขออนุมัติลงนามความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยการเปิดเสรีการขนส่งสินค้าทางอากาศ

ความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยบริการเดินอากาศ และพิธีสารแนบท้ายความตกลงทั้งสองฉบับ

และกรอบความ ตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้

1. อนุมัติให้ประเทศไทยเข้าร่วมลงนาม

1.1 ความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยการเปิดเสรีบริการขนส่งสินค้าทางอากาศและพิธีสารแนบท้ายความตกลงฯ จำนวน 2 ฉบับ

1.2 ความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยบริการเดินอากาศและพิธีสารแนบท้ายความตกลงฯ จำนวน 6 ฉบับ และ

1.3 กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน รวม 3 ฉบับ ที่รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยและมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสำหรับการลงนามดังกล่าว

กระทรวงคมนาคมเสนอว่า

1. ความตกลงฯ และพิธีสารแนบท้ายความตกลงฯ ตามข้อ 1.1 และ 1.2 มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการเปิดเสรีเที่ยวบินขนส่งสินค้าและเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารในอาเซียนให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ได้กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนใช้เป็นแม่แบบสำหรับการจัดทำความตกลงฯ กับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน เช่น จีน และอินเดีย เป็นต้น โดยความตกลงฯ ทั้งสองฉบับและพิธีสารแนบท้ายความตกลงฯ จะมีผลใช้บังคับเมื่อเลขาธิการอาเซียนได้รับมอบสัตยาบันสารหรือตราสารรับรองจำนวนสามฉบับ และจะมีผลใช้บังคับในระหว่างประเทศภาคีที่ให้สัตยาบัน หรือการยอมรับเท่านั้น ซึ่งในการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ รัฐมนตรีขนส่งอาเซียน 9 ประเทศ (ยกเว้นประเทศไทย) ได้ร่วมลงนามความตกลงฯ และพิธีสารแนบท้ายความตกลงฯ ทั้งสองฉบับแล้ว

2. กรอบความตกลงฯ ตามข้อ 1.3 มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเสริมกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน ซึ่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้ร่วมลงนามในกรอบความตกลงดังกล่าวในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2551 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยกรอบความตกลงฯ จะมีผลใช้บังคับในวันที่สามสิบนับจากวันที่ได้มีการยื่นสัตยาบันสารหรือสารยอมรับฉบับที่สองแล้ว และจะมีผลใช้บังคับระหว่างภาคีคู่สัญญาที่ได้ยื่นสัตยาบันสารหรือสารยอมรับกรอบความตกลงนี้แล้วเท่านั้น

3. ทั้งนี้ ความตกลงฯ และพิธีสารแนบท้ายความตกลงฯ และกรอบความตกลงฯ รวม 3 ฉบับ ที่ประชุมรัฐสภาได้พิจารณาและลงมติให้ความเห็นชอบแล้ว กระทรวงคมนาคมจึงเห็นสมควรเข้าร่วมลงนามความตกลงฯ และพิธีสารแนบท้ายความตกลงฯ และกรอบความตกลงฯ ดังกล่าว เพื่อให้มีผลใช้บังคับต่อไป จึงได้เสนอเรื่องดังกล่าวมา เพื่อดำเนินการ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 เมษายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ