คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซิน ณ ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการภายในวงเงินทั้งสิ้น 319 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. ค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงานอาคารห้องปฏิบัติการไดออกซิน จำนวน 160 ล้านบาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว จำนวน 32 ล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 อีกจำนวน 128 ล้านบาท
2. สำหรับค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาบุคลากร จำนวน 159 ล้านบาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ทำการศึกษาการจัดตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซิน สรุปได้ดังนี้
1. ความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซินจะตั้งอยู่ภายในศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนธานี จังหวัดปทุมธานี โดยได้ศึกษารอบด้านคือ อุตุนิยมวิทยา อุทกธรณีฐานราก และปฏพีกลศาสตร์วิทยา
2. การออกแบบห้องปฏิบัติการไดออกซินและครุภัณฑ์ที่จำเป็น ประกอบด้วย วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมโครงสร้าง วิศวกรรมสุขาภิบาล และวิศวกรรมเครื่องกล ตามมาตรฐานการออกแบบและกฎอาคารที่เกี่ยวข้อง คำนึงถึงการประหยัดพลังงานความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานและสิ่งแวดล้อมโดยรอบอาคาร ห้องปฏิบัติการมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 8,000-10,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นสองชั้นบนเนื้อที่ประมาณ 400-500 ตารางเมตร การพิจารณาคัดเลือกครุภัณฑ์ที่จำเป็นต้องคำนึงถึงคุณลักษณะเฉพาะที่เหมาะสมกับงานวิเคราะห์และมีประสิทธิภาพสูง
การจัดตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซินมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีหน่วยงานรับผิดชอบที่ชัดเจนในการตรวจวิเคราะห์และวิจัยสารไดออกซินสำหรับตัวอย่างสิ่งแวดล้อม รวมทั้งวิจัย พัฒนาถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการป้องกันและควบคุมมลพิษ ตลอดจนเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนภาครัฐและภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาให้มีห้องปฏิบัติการไดออกซิน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการวิเคราะห์ และกระจายการบริการในการวิเคราะห์ สารมลพิษได้ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นประโยชน์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการส่งตัวอย่างไปวิเคราะห์ยังต่างประเทศ ดังนั้น การจัดตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซินจึงเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 เมษายน 2552 --จบ--