คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาด้วยว่า การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ควรพิจารณาประเมินความเสี่ยงและตอบแทนการลงทุนอย่างรอบคอบด้วย
โดยร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2546 ดังนี้
1. เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นเมื่อรวมกันทุกบริษัท จากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ 20 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินกองทุน
2. เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ 5 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 8 ของเงินกองทุน
3. เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ จากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ 10 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินกองทุน
กระทรวงการคลังรายงานว่า ปัจจุบันสัดส่วนในการนำเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการไปลงทุนหาผลประโยชน์ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2546 ยังไม่สอดคล้องกับสภาวะตลาดเงินและตลาดทุนที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการลงทุน และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกของกองทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น สมควรเพิ่มสัดส่วนในการนำเงินของกองทุนไปลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์เงินเฟ้อในระยะยาว และเพื่อให้การจัดการเงินของกองทุนกระทำได้กว้างขวางยิ่งขึ้น สามารถกระจายความเสี่ยงของการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสมควรขยายสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 กันยายน 2549--จบ--
โดยร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2546 ดังนี้
1. เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นเมื่อรวมกันทุกบริษัท จากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ 20 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินกองทุน
2. เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ 5 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 8 ของเงินกองทุน
3. เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ จากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ 10 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินกองทุน
กระทรวงการคลังรายงานว่า ปัจจุบันสัดส่วนในการนำเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการไปลงทุนหาผลประโยชน์ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2546 ยังไม่สอดคล้องกับสภาวะตลาดเงินและตลาดทุนที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการลงทุน และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกของกองทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น สมควรเพิ่มสัดส่วนในการนำเงินของกองทุนไปลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์เงินเฟ้อในระยะยาว และเพื่อให้การจัดการเงินของกองทุนกระทำได้กว้างขวางยิ่งขึ้น สามารถกระจายความเสี่ยงของการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสมควรขยายสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 กันยายน 2549--จบ--