คณะรัฐมนตรีพิจารณาการปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2552 และการกำหนดวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการให้ปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2552 จำนวน 1.5 ล้านตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังมีข้าวเปลือกที่จะออกสู่ตลาดช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2552 (ภาคใต้จะรับจำนำกรกฎาคม-กันยายน 2552) โดยวงเงินที่จะใช้ในการรับจำนำให้กระทรวงการคลังรับไปตรวจสอบแหล่งเงิน โดยให้ใช้จ่ายจากเงินที่กระทรวงการคลังได้จัดหาแหล่งเงินกู้สำหรับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและผลิตผลทางการเกษตรไว้ จำนวน 110,000 ล้านบาท ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไปเป็นลำดับแรก หากไม่สามารถใช้จ่ายจากเงินดังกล่าวได้ ให้กระทรวงการคลังพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรับจำนำมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) พิจารณาต่อไป
2. ส่วนการกำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ตามที่กรมการข้าวเสนอ นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานและผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องก่อน โดยให้พิจารณาถึงความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับวันพืชมงคลด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
1. สถานการณ์ราคาข้าว ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 ข้าวเปลือกเจ้านาปรัง 5% ราคาตันละ 9,000-10,500 บาท เมื่อเทียบกับราคารับจำนำที่กำหนดไว้ ตันละ 11,800 บาท ต่ำกว่าตันละ 2,050 บาท ส่งผลให้เกษตรกรนำข้าวเปลือกไปจำนำตามโครงการมากกว่าจำหน่ายในตลาด ส่วนราคาขายส่งข้าวสารเจ้า 5% ตลาด กทม.ราคา 100 กก.ละ 1,650-1,660 บาท ลดลงจากช่วงเดือนมีนาคม 2552 ที่มีราคา 100 กก.ละ 1,700-1,710 บาท สำหรับราคาส่งออก F.O.B. เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2552 เทียบกับเดือนมีนาคม 2552 ข้าวขาว 5% ตันละ 542 เหรียญสหรัฐฯ ลดลงตันละ 66 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนข้าวขาว 5% ของเวียดนาม ตันละ 460 เหรียญสหรัฐฯ ลดลงตันละ 4 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ส่วนต่างของราคาข้าวขาว 5% ระหว่างไทยกับเวียดนามสูงถึงตันละ 82 เหรียญสหรัฐฯ ทำให้การส่งออกข้าวขาวของไทยแข่งขันกับเวียดนามได้ยาก
2. ผลการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 ณ วันที่ 27 เมษายน 2552 ปริมาณข้าวเปลือกรับจำนำ รวมทั้งสิ้น 2,121,884 ตัน (อคส. 1,320,038 ตัน และ อ.ต.ก. 801,846 ตัน) หรือร้อยละ 85 ของปริมาณข้าวเปลือกตามเป้าหมายโครงการ (ปริมาณข้าวเปลือกรวม 2.50 ล้านตัน) เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกที่ออกสู่ตลาดแล้ว คิดเป็นร้อยละ 66 (ปริมาณข้าวเปลือก 3.210 ล้านตัน) คงเหลือข้าวเปลือกที่จะรับจำนำได้อีก จำนวน 378,116 ตัน หรือร้อยละ 15 โดยขณะนี้มีผลการรับจำนำเฉลี่ยประมาณวันละ 50,000-60,000 ตัน
สำหรับการดำเนินโครงการนาปรังปี 2552 อคส. และอ.ต.ก. ในฐานะหน่วยงานปฏิบัติได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามโครงการปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำหน่วยงานละ 1.25 ล้านตัน ซึ่งขณะนี้ อคส. ดำเนินการแล้ว จำนวน 1,320,038 ตัน หรือร้อยละ 106 เกินปริมาณข้าวเปลือกตามโครงการ จำนวน 70,038 ตัน และอ.ต.ก. ดำเนินการแล้ว จำนวน 801,846 ตัน หรือ ร้อยละ 64 คงเหลือ ข้าวเปลือกตามโครงการ จำนวน 448,154 ตัน หรือร้อยละ 36
3. ผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ผลผลิตข้าวนาปรังปี 2552 ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 3.210 ล้านตัน หรือร้อยละ 42 (ผลผลิตข้าวเปลือกทั้งหมด 7.674 ล้านตัน) คงเหลือข้าวเปลือก จำนวน 4.464 ล้านตัน หรือร้อยละ 58 โดยข้าวเปลือกคงเหลือจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนพฤษภาคม 2552 จำนวน 1.611 ล้านตัน หรือร้อยละ 36 เดือนมิถุนายน 2552 จำนวน 1.169 ล้านตัน หรือร้อยละ 26 เดือนกรกฎาคม จำนวน 1.113 ล้านตัน หรือร้อยละ 24 และเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2552 จำนวน 0.571 ล้านตัน หรือร้อยละ 4
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 พฤษภาคม 2552 --จบ--