รายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1)

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 7, 2009 15:18 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1)ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้

สถานการณ์โรค

1. สถานการณ์ในต่างประเทศ

สรุปรายงานขององค์การอนามัยโลก ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2552 ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 (วันที่ 5 พฤษภาคม ตามเวลาประเทศไทย)

  • จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) มีรายงานอย่างเป็นทางการใน 21 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา แคนาดา สเปน สหราชอาณาจักร อิสราเอล นิวซีแลนด์ ออสเตรีย เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ฮ่องกง เกาหลีใต้ คอสตาริก้า ไอร์แลนด์ อิตาลี โคลัมเบีย เอลซัลวาดอร์ โปรตุเกส รวมผู้ป่วยทั้งสิ้น 1,085 ราย เสียชีวิต 26 ราย กระจายใน 21 ประเทศ
  • ประเทศเพิ่มใหม่ ได้แก่ โคลัมเบีย เอลซัลวาดอร์ และโปรตุเกส
  • ประเทศที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในรอบ 6 วัน คือ ออสเตรีย

2. สถานการณ์ในประเทศไทย (วันที่ 5 พฤษภาคม 2552)

2.1 ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1)

2.2 มีผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังทั้งสิ้น 19 ราย คัดออกแล้ว 16 ราย คงเหลือ 3 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดนครสวรรค์ และกรุงเทพมหานคร จังหวัดละ 1 ราย ซึ่งกำลังดำเนินการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

3. มาตรการของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรค

3.1 นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 110/2552 ลงวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552 โดยรองนายกรัฐมนตรี (พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์) เป็นประธาน ซึ่งได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา และได้เห็นชอบให้ของบกลาง วงเงิน 120 ล้านในการดำเนินการปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A H1N1

3.2 กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบทุกวันเวลา 12.00 น.

3.3 ยุทธศาสตร์ป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) กระทรวงสาธารณสุขให้ทุกจังหวัดปฏิบัติแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ คือ ล้อมรั้ว รุกล้ำ และการรักษาพยาบาล ดังนี้

  • ยุทธศาสตร์ล้อมรั้ว เน้นการป้องกันผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะมาตรการที่สนามบิน โดยให้แจ้งชื่อ ที่อยู่หรือที่พำนักในประเทศไทย แจกคำแนะนำในการดูแลตนเอง พร้อมหมายเลขโทรศัพท์สำหรับ การติดต่อ กรณีที่เกิดมีไข้ และได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารเดินทางกลับเข้าประเทศผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ ด้วยเครื่องตรวจวัดไข้ และจัดทีมแพทย์ พยาบาล จัดระบบรับ-ส่งผู้ป่วยจากสนามบินและสถานพยาบาล
  • ยุทธศาสตร์รุกล้ำ คือมาตรการเฝ้าระวังโรค สำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาในประเทศจากพื้นที่เสี่ยง โดยทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว หรือ (SRRT) ค้นหาผู้ป่วยในชุมชน 1,030 ทีม ร่วมกับ อสม.อีกกว่า 970,000 คนทั่วประเทศ เพื่อค้นหาผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด
  • ยุทธศาสตร์การรักษา ได้พัฒนาแนวทางการรักษาพยาบาล การให้ยาต้านไวรัส และการวางเครือข่ายคัดกรองผู้ป่วย และระบบส่งต่อผู้ป่วยของสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

4. การเตรียมความพร้อม ได้จัดระบบช่องทางสื่อสารสำหรับประชาชน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร คำแนะนำต่างๆ สำหรับประชาชน รวมทั้งให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกัน ดูแลตนเองให้ปราศจากโรค โดยให้บริการ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 0 2590 1994 และ 0 2590 3333 และเว็ปไซต์ www.moph.go.th โดยมีคำแนะนำที่สำคัญดังนี้

  • หากไม่จำเป็น ควรเลื่อนหรือชะลอการเดินทางไปยังประเทศที่เป็นพื้นที่เกิดการระบาดจนกว่าสถานการณ์จะยุติลง
  • ผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เกิดการระบาด ถ้ามีอาการของไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ ภายใน 7 วันหลังจากเดินทางกลับ ให้รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำในการปฏิบัติตนอย่างเข้มงวด
  • สร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่สุกและมีประโยชน์ หมั่นล้างมือบ่อยๆ นอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ภายในบ้านหรือสถานที่ทำงานเดียวกัน ต้องแจ้งสำนักงานสาธารณสุข เพื่อเข้าดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 พฤษภาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ