สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง ครั้งที่ 16

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 7, 2009 15:46 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง ครั้งที่ 16 ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2552 ประกอบด้วย สถานการณ์ภัยแล้งและการช่วยเหลือ สถานการณ์น้ำ แ ละสถานการณ์การปลูกพืชฤดูแล้ง สรุปได้ดังนี้

สถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร

พื้นที่ประสบภัยแล้งด้านการเกษตร ณ วันที่ 26 เมษายน 2552 รวมทั้งสิ้น 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พิจิตร แพร่ ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ ยโสธร ร้อยเอ็ด หนองคาย ชัยนาท สระแก้ว ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบ คีรีขันธ์ และชุมพร แยกเป็น ด้านพืช 17 จังหวัด ด้านปศุสัตว์ 5 จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบทั้ง 2 ด้าน จำนวน 2 จังหวัด คือ จังหวัด อุตรดิตถ์ และเพชรบุรี

ด้านพืช จำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พิจิตร แพร่ ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ หนองคาย ยโสธร ร้อยเอ็ด ชัยนาท สระแก้ว ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์

เกษตรกร 82,421 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 843,267 ไร่ แยกเป็น ข้าว 250,948 ไร่ พืชไร่ 424,588 ไร่ และพืชสวนและ อื่นๆ 167,731 ไร่

การดำเนินการให้การช่วยเหลือ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ระดมสรรพกำลังให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งและพื้นที่การเกษตร โดยการสนับสนุนเครื่อง สูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ และปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้

(1) การจัดสรรน้ำเพื่อกิจกรรมต่างๆในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2551 ถึง 30 เม.ย. 2552 วางแผนไว้ทั้งสิ้น 22,687 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ได้แก่ เพื่อการอุปโภค-บริโภค 1,945 ล้านลบ.ม. รักษาระบบนิเวศน์ 4,991 ล้านลบ.ม. เพื่อการเกษตร 15,499 ล้านลบ.ม. และเพื่ออุตสาหกรรม 252 ล้านลบ.ม. ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 จัดสรรน้ำไปแล้ว 24,160 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 106 ของแผนการ จัดสรรน้ำ(มากกว่าแผนการจัดสรรน้ำ 1,473 ล้านลูกบาศก์เมตร)

(2) สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่รวม 798 เครื่อง(จาก 1,200 เครื่อง) ในพื้นที่ 55 จังหวัด

ภาค            จังหวัด    เครื่องสูบน้ำ(เครื่อง)      รายชื่อจังหวัด (จำนวนเครื่องสูบน้ำ)
เหนือ             16         234               เชียงใหม่ (37) ลำพูน (10) แม่ฮ่องสอน (6) ลำปาง (24) น่าน(6)

พะเยา (4) เชียงราย (12) พิษณุโลก (2) พิจิตร (30) นครสวรรค์ (28)

อุตรดิตถ์ (6) ตาก (15) สุโขทัย (12) แพร่ (19) กำแพงเพชร (15)

เพชรบูรณ์ (8)

ต.อ.เฉียงเหนือ     18         313               อุดรธานี (9) หนองคาย (19) หนองบัวลำภู (10) เลย (6) สกลนคร (11)

ขอนแก่น (11) มหาสารคาม (29) ร้อยเอ็ด (58) กาฬสินธุ์ (54) ชัยภูมิ (5)

อุบลราชธานี (3) ยโสธร (20) นครพนม (19) มุกดาหาร (5) อำนาจเจริญ

(12) นครราชสีมา (25) สุรินทร์ (6) ศรีสะเกษ (11)

กลาง              8          84               ชัยนาท (26) ลพบุรี (10) พระนครศรีอยุธยา (12) นนทบุรี (8) ปทุมธานี (9)

กรุงเทพมหานคร (2) อ่างทอง (10) นครปฐม (7)

ตะวันออก           5          73               นครนายก (17) ปราจีนบุรี (29) ฉะเชิงเทรา (20) จันทบุรี (6) ตราด (1)
ตะวันตก            3          83               กาญจนบุรี (7) ราชบุรี (40) เพชรบุรี (36)
ใต้                5          11               ชุมพร (5) ภูเก็ต (1) พังงา (2) ตรัง (1) นราธิวาส (2)
รวม              55         798
หมายเหตุ:  ข้อมูลกรมชลประทาน ณ วันที่ 1 พ.ค. 2552

(3) สนับสนุนรถบรรทุกน้ำ เพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร รวม 61 คัน 1,877 เที่ยว ปริมาณน้ำ 11.262 ล้านลิตร ใน พื้นที่ 15 จังหวัด

ภาค              จังหวัด   รถบรรทุกน้ำ   จำนวน    ปริมาณน้ำ       รายชื่อจังหวัด
                           (คัน)      เที่ยว    (ล้านลิตร)    (จำนวนรถบรรทุกน้ำ)
เหนือ               6        28        770     4.620      น่าน (1) พิจิตร (13) นครสวรรค์ (1) อุตรดิตถ์ (9)

ตาก(3) แพร่ (1)

ต.อ.เฉียงเหนือ       2         7         19     0.114      นครราชสีมา (6) สุรินทร์ (1)
ตะวันออก            5        23        802     4.812      ฉะเชิงเทรา (2) ระยอง (3) จันทบุรี (13) ตราด (3)

สระแก้ว (2)

ใต้                 2         3        286     1.716      ประจวบคีรีขันธ์ (2) ชุมพร (1)
รวม               15        61      1,877    11.262
หมายเหตุ:  ข้อมูลกรมชลประทาน ณ วันที่ 1 พ.ค. 2552

(4) การปฏิบัติการฝนหลวง

เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ถึง 30 เม.ย. 2552 จำนวน 8 ศูนย์ (9 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง หัวหิน ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ 5 ฐานเติมสาร ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี อุบลราชธานี จันทบุรี สระแก้ว)

ขึ้นบิน จำนวน 2,055 เที่ยวบิน มีฝนตกในพื้นที่ 59 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก แม่ฮ่องสอน พะเยา พิษณุโลก แพร่ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร น่าน อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ กาญจนบุรี ลพบุรี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี สระบุรี อุทัยธานี ขอนแก่น นครพนม สกลนคร ร้อยเอ็ด เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี กาฬสินธุ์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร นครราชสีมา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ประจวบ คีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช พังงา และพัทลุง รวมเป็นพื้นที่เกษตรและป่าไม้ที่ได้รับประโยชน์ 133.63 ล้านไร่

จากการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น ทำให้พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 843,267 ไร่ สามารถลดพื้นที่คาดว่าจะเสียหายได้ 303,915 ไร่ ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน แพร่ สุโขทัย พิจิตร อุตรดิตถ์ ร้อยเอ็ด ชัยนาท ฉะเชิงเทรา สระแก้วและเพชรบุรี คิดเป็น มูลค่าทางเศรษฐกิจที่ช่วยเหลือได้ประมาณ 2,263 ล้านบาท คงเหลือพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง 480,035.50 ไร่ และมีพื้นที่การเกษตรที่เสียหายแล้ว จำนวน 15,316.50 ไร่ ในพื้นที่ 9 จังหวัด (เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พิจิตร อุตรดิตถ์ ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์) ได้สำรวจและจ่าย เงินช่วยเหลือแล้ว 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ เพชรบุรี ลำปาง และเชียงใหม่ พื้นที่ 5,294 ไร่ วงเงิน 3.15 ล้านบาท และอยู่ระหว่างนำ เสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอพิจารณา 5 จังหวัด(เชียงราย หนองคาย พิจิตร ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์)

ด้านปศุสัตว์ จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ เพชรบุรี และชุมพร

เกษตรกร 9,168 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 31,791 ตัว เป็น โค 29,194 ตัว กระบือ 2,304 ตัว แพะ 293 ตัว ช่วยเหลือ โดยสนับสนุนพืชอาหารสัตว์ จำนวน 98.17 ตัน และดูแลสุขภาพสัตว์ 1,818 ตัว ได้แก่ หนองบัวลำภู(8.65 ตัน/1,193 ตัว) ศรีสะเกษ(4 ตัน) อุตรดิตถ์(7.2 ตัน) เพชรบุรี(58.32 ตัน) และชุมพร(20 ตัน/625 ตัว) และได้เตรียมไว้ช่วยเหลืออีก 7,532 ตัน

จากการให้ความช่วยเหลือโดยการสนับสนุนเสบียงสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์ ทำให้ไม่มีสัตว์ตาย

ด้านประมง ยังไม่ได้รับรายงานผลกระทบ

นอกจากนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่ เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานการณ์น้ำและสถานการณ์การปลูกพืช ดังนี้

สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2552

1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 39,797 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 16,441 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 24 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2551 (41,479 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 1,682 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 3 ของความจุอ่างฯ

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และป่าสักชลสิทธิ์

หน่วย : ล้าน ลบ.ม.

อ่างเก็บน้ำ       ปริมาตรน้ำในอ่างฯ         ปริมาตรน้ำใช้การได้     ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ             ปริมาณน้ำระบาย
               ปริมาตร   %ความจุ     ปริมาตร      %ความจุ     วันนี้       สะสมตั้งแต่     วันนี้     เมื่อวาน    สะสมตั้งแต่
                   น้ำ     อ่างฯ         น้ำ        อ่างฯ               1 พ.ย.51                       1 พ.ย.51
1. ภูมิพล         5,574       41      1,774          13    5.62         1,466       28         28     4,636
2. สิริกิติ์         4,805       51      1,955          21    5.26         1,214    29.99      29.99     4,520
รวมภูมิพล+สิริกิติ์   10,379       45      3,729          16   10.88         2,680    57.99      57.99     9,156
3. ป่าสักชลสิทธิ์      349       36        346          36    2.16           585     6.08       6.12     1,017

เมื่อเปรียบเทียบปริมาตรน้ำปัจจุบันกับปี 2551 เขื่อนภูมิพล น้อยกว่า จำนวน 824 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ มากกว่า จำนวน 543 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มากกว่า จำนวน 85 ล้านลูกบาศก์เมตร

อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 5 อ่าง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่กวงอุดมธารา(ร้อยละ 18) กิ่วคอหมา(ร้อยละ 24 เนื่องจากกิ่วคอหมาเริ่มเก็บน้ำปลายฤดูฝนนี้) แควน้อย(ร้อยละ10 เนื่องจากแควน้อยเริ่มเก็บน้ำปลายฤดูฝนนี้) ลำปาว (ร้อยละ 26) ขุนด่านปราการชล(ร้อยละ 23)

2. สภาพน้ำท่า

ภาคเหนือ แม่น้ำปิงบริเวณจังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์อยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นบริเวณจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในเกณฑ์ น้อย แม่น้ำวังบริเวณจังหวัดตากอยู่ในเกณฑ์ปกติ แม่น้ำยมบริเวณจังหวัดแพร่อยู่ในเกณฑ์น้อย แม่น้ำน่านบริเวณจังหวัดน่านและพิษณุโลกอยู่ในเกณฑ์น้อย ยกเว้นบริเวณจังหวัดนครสวรรค์อยู่ในปกติ และแม่น้ำแควน้อยบริเวณจังหวัดพิษณุโลกอยู่ในเกณฑ์น้อย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม่น้ำชีบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด อยู่ในเกณฑ์น้อย ยกเว้นบริเวณ จังหวัดยโสธร อยู่ในเกณฑ์ปกติ แม่น้ำมูลบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์อยู่ในเกณฑ์น้อย ยกเว้นบริเวณจังหวัดนครราชสีมาและศรีสะเกษอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ภาคกลาง แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ภาคตะวันออก แม่น้ำปราจีนบุรีบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี และแม่น้ำพระสทึงบริเวณจังหวัดสระแก้ว อยู่ในเกณฑ์น้อย

ภาคใต้ แม่น้ำตาปี บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี แม่น้ำปัตตานีบริเวณจังหวัดยะลา และแม่น้ำโก-ลกบริเวณจังหวัดนราธิวาส อยู่ ในเกณฑ์น้อย

3. คุณภาพน้ำ

กรมประทาน ได้ติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ในการดูแลรักษา คุณภาพน้ำ ทำการตรวจวัด ณ วันที่ 17 เมษายน 2552 ดังนี้

แม่น้ำ        จุดเฝ้าระวัง                      ค่าออกซิเจนละลายในน้ำ   ค่าความเค็ม   เกณฑ์

(Do) (มิลลิกรัม/ลิตร) กรัม/ลิตร)

เจ้าพระยา    ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี                          2.1           0.09      ปกติ

ท่าจีน        ที่ว่าการอำเภอสามพราน                     1.68           0.15      ค่า Do ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

จ.นครปฐม

แม่กลอง      ปากคลองดำเนินสะดวก                      4.31           0.06      ปกติ

จ.ราชบุรี หมายเหตุ : ค่าออกซิเจนละลายในน้ำ (Do) ไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิกรัม/ลิตร ค่าความเค็มของน้ำ เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 กรัม/ลิตร

สถานการณ์การปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2551/2552

ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ข้อมูล ณ วันที่ 24 เมษายน 2552 มีพื้นที่ปลูกพืชฤดูแล้งทั้งประเทศ จำนวน 20.28 ล้านไร่ แยก เป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 14.33 ล้านไร่(เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ จำนวน 2.72 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 23 ของพื้นที่คาดการณ์) พืชไร่-ผัก จำนวน 2.22 ล้านไร่ และพืชอื่นๆ จำนวน 3.73 ล้านไร่ รายละเอียดดังนี้

พื้นที่                               คาดการณ์พื้นที่ปลูก (ล้านไร่)                       พื้นที่ปลูกจริง (ล้านไร่)
                       ข้าวนาปรัง     พืชไร่-ผัก     พืชอื่นๆ      รวม      ข้าวนาปรัง   พืชไร่-ผัก    พืชอื่นๆ      รวม
ในเขตพื้นที่ชลประทาน         8.79         0.76      3.64     13.19       11.28       0.63     3.73     15.64

(128.32) (82.89) (102.47) (118.57)

นอกเขตพื้นที่ชลประทาน        2.82         2.04         -      4.86        3.05       1.59      -        4.64
                                                                    (108.15)    (77.94)    -      (95.47)
รวม                     11.61         2.80      3.64     18.05        14.33       2.22    3.73     20.28

(123.42) (79.28) (102.47) (112.35) หมายเหตุ ( ) หมายถึง ร้อยละของพื้นที่คาดการณ์

ข้อมูลในเขตพื้นที่ชลประทาน กรมชลประทาน วันที่ 24 เมษายน 2552,

ข้อมูลนอกเขตพื้นที่ชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร วันที่ 15 เมษายน 2552

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 พฤษภาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ