การส่งกองพันทหารราบเข้าร่วมในภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติในดาร์ฟูร์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 7, 2009 16:03 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการส่งกองพันทหารราบเข้าร่วมในภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติในดาร์ฟูร์ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไว้แล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2550 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยให้กระทรวงกลาโหมขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง เพื่อใช้จ่ายจากเงินทดรองราชการต่อไป ดังนี้

1. อนุมัติให้ส่งทหารไทย จำนวน 1 กองพันทหารราบผสม เข้าร่วมภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติในดาร์ฟูร์ (AU/UN Hybrid Operation in Darfur : UNAMID) รวมทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และบุคลากรในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคตเมื่อมีคำขอของสหประชาชาติในเรื่องเดียวกันนี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการจัดกำลังที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติภารกิจการสับเปลี่ยนกำลังตามวงรอบจนกว่าจะสิ้นสุดภารกิจหรือตลอดห้วงที่สหประชาชาติยังคงร้องขอการสนับสนุนจากไทยในภารกิจเดียวกัน

2. อนุมัติให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมภารกิจ UNAMID ได้รับสิทธิในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ พ.ศ. 2494 รวมถึงสิทธิในการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาฉุกเฉินตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาฉุกเฉิน พ.ศ. 2529 ตลอดช่วงปฏิบัติภารกิจดังกล่าว และให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ถือเป็นการปฏิบัติราชการพิเศษตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ที่เข้าไปยังพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อการส่งกำลังบำรุง การตรวจเยี่ยมหรือปฏิบัติงานหรือหน้าที่อื่นใดตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่เริ่มการเคลื่อนย้ายออกจากที่ตั้งปกติหรือประเทศไทยเพื่อไปปฏิบัติภารกิจในประเทศซูดานจนกระทั่งถึงวันที่เสร็จสิ้นภารกิจหรือเคลื่อนย้ายกลับสู่ที่ตั้งปกติหรือประเทศไทย

3. อนุมัติในหลักการสนับสนุนเงินทดรองราชการเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามข้อ 1 ในกรอบวงเงินประมาณ 350 ล้านบาท ต่อวงรอบ 6 เดือน โดยให้กระทรวงกลาโหมขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังในการเบิกจ่ายงบประมาณต่อไป

4. อนุมัติในหลักการให้จัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและสหประชาชาติในการส่งกองกำลังเข้าร่วมภารกิจ UNAMID

กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า

1. วันที่ 22 มกราคม 2552 ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2552 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเห็นชอบในหลักการสนับสนุนการส่งกองพันทหารราบไปปฏิบัติภารกิจ UNAMID และขอรับทราบผลการพิจารณาของสภากลาโหมตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี ส่วนการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและสหประชาชาติในการส่งกองกำลังเข้าร่วมภารกิจ UNAMID เห็นควรเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

2. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 นายกรัฐมนตรีมีบัญชามอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสหประชาชาติทราบเจตนารมณ์อันดีของไทยในการส่งกองกำลังเข้าร่วมภารกิจ UNAMID แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการภายในของไทย ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ และเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ประชุมสภากลาโหมได้มีมติเห็นชอบสนับสนุนการส่งกองพันทหารราบเข้าร่วมภารกิจ UNAMID

3. การจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและสหประชาชาติเป็นกระบวนการและขั้นตอนปกติของการส่งกองกำลังเข้าร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติระหว่างสหประชาชาติและประเทศสมาชิกที่สนับสนุนกองกำลัง ซึ่งในทางปฏิบัติจะจัดทำหลังจากตกลงส่งกองกำลังแล้ว โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการส่งกองกำลังไทยเข้าร่วมภารกิจ UNAMID และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งในชั้นต้นรัฐบาลไทยต้องสำรองค่าใช้จ่ายสำหรับเตรียมการและสหประชาชาติจะจ่ายเงินคืนให้ในภายหลัง ทำให้ภารกิจ UNAMID ไม่เกี่ยวข้องและผูกพันกับงบประมาณของประเทศ โดยไม่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจ รวมทั้งไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง ตลอดจนไม่มีผลผูกพันด้านการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงการต่างประเทศจึงมีความเห็นว่าร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ไม่น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาก่อนดำเนินการให้มีผลผูกพัน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 พฤษภาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ