การแก้ไขบันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการตรวจลงตราทำงานและท่องเที่ยวไทย-ออสเตรเลีย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 7, 2009 16:07 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง การแก้ไขบันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการตรวจลงตราทำงานและท่องเที่ยวไทย-ออสเตรเลีย

เพื่อเพิ่มโควตาและขยายเวลาการตรวจลงตราแก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการเพิ่มโควตาแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการตรวจลงตราทำงานและท่องเที่ยว ไทย-ออสเตรเลีย (Work and Holiday Visas : WHV) จาก 200 คน เป็น 500 คน ในลักษณะการประติบัติต่างตอบแทนแก่ออสเตรเลียตามที่ออสเตรเลียเสนอ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า

1. ไทยและออสเตรเลียได้จัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการตรวจลงตราทำงานและท่องเที่ยว ไทย-ออสเตรเลีย (Work and Holiday Visas : WHV) ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยกับรัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและกิจการพหุวัฒนธรรมและคนพื้นเมืองของออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2547 โดยบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในระดับประชาชนต่อประชาชนผ่านการแลกเปลี่ยนให้เยาวชนสามารถเดินทางไปท่องเที่ยว โดยจะได้รับอนุญาตให้สามารถทำงานชั่วคราวเพื่อหารายได้ในช่วงที่พำนักอยู่ในประเทศไทยหรือประเทศออสเตรเลีย ตามแต่กรณีในช่วงสั้น ๆ เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน และสามารถเข้ารับการศึกษาอบรมระยะสั้นได้เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือมีอายุระหว่าง 18-30 ปี และจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ทั้งนี้ โควตาผู้เข้าร่วมโครงการ WHV จำกัดจำนวนไว้ที่ประเทศละ 100 คน ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนแก้ไขบันทึกความเข้าใจนี้ สามารถกระทำได้ทุกเมื่อโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากคู่ภาคี

2. โครงการ WHV ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เยาวชนไทย กระทรวงการต่างประเทศจึงเจรจากับฝ่ายออสเตรเลียเพื่อขอขยายระยะเวลาอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมโครงการ WHV ฝ่ายไทยสามารถทำงานกับนายจ้างเดิมเป็นระยะเวลาติดต่อกันได้จากกำหนดเดิมไม่เกิน 3 เดือนเป็นไม่เกิน 6 เดือน และขอขยายเวลาให้ผู้เข้าร่วมโครงการฝ่ายไทยสามารถเข้ารับการศึกษาระยะสั้นในออสเตรเลียในระหว่างเข้าร่วมโครงการจากกำหนดเดิมไม่เกิน 3 เดือน เป็น 4 เดือน รวมทั้งการเพิ่มโควตาผู้เข้าร่วมโครงการจากประเทศไทยและออสเตรเลียจากกำหนดเดิมปีละ 100 คน เป็นปีละ 200 คน โดยการแก้ไขดังกล่าวได้กระทำผ่านการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูต (Diplomatic note) รวม 2 ครั้ง (ในช่วงปี พ.ศ. 2549-2550)

3. โควตาที่ปรับเพิ่มเป็นปีละ 200 คน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของเยาวชนไทย กระทรวงการต่างประเทศจึงขอให้ฝ่ายออสเตรเลียเพิ่มโควตาให้แก่เยาวชนไทยอีก ซึ่งฝ่ายออสเตรเลียโดยนาย Stephen Smith รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียได้แจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายนพดล ปัทมะ) ทราบในระหว่างการเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2551 ว่าออสเตรเลียจะเพิ่มโควตาให้แก่เยาวชนไทยจาก 200 คน เป็น 500 คนต่อปี และขอให้ฝ่ายไทยเพิ่มโควตาในลักษณะประติบัติต่างตอบแทนเช่นกัน

4. การเพิ่มโควตาจากปีละ100 คน เป็นปีละ 200 คน ฝ่ายออสเตรเลียและฝ่ายไทยได้มีหนังสือถึงกันในลักษณะหนังสือติดต่อกันในทางการทูตซึ่งรูปแบบและสาระมิได้มีลักษณะเป็นหนังสือแลกเปลี่ยนที่เป็นความตกลงระหว่างประเทศ และมิได้ระบุว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตอบจะประกอบกันเป็นความตกลง ดังนั้น ในการเพิ่มโควตาจากปีละ 200 คน เป็นปีละ 500 คน จึงต้องดำเนินการเช่นเดียวกันและเป็นข้อพิจารณาด้านนโยบาย เนื่องจากการเพิ่มโควตาแก่เยาวชนที่ เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะมีส่วนส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนต่อประชาชน ทั้งนี้ หากได้รับความเห็นชอบฝ่ายไทยจะต้องแจ้งให้ฝ่ายออสเตรเลียทราบก่อนมิถุนายน 2552 มิฉะนั้น ออสเตรเลียจะส่งโควตาที่จะให้กับไทยดังกล่าวคืนส่วนกลางเพื่อนำไปจัดสรรให้ประเทศอื่นต่อไป

5. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงแรงงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ ได้พิจารณาแล้ว ไม่มีข้อขัดข้องและเห็นว่าการที่ออสเตรเลียพิจารณาเพิ่มโควตาดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไทย

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 พฤษภาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ