ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้

เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้

(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาค ใต้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งร่างระเบียบในเรื่องนี้ให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไป ได้

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอว่า

1. คณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ก.บ.จ.ต.) พิจารณาเห็นว่า ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2550 ที่ใช้บังคับในปัจจุบันทำให้ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมิได้เกิดจากสาเหตุส่วนตัวหรือความ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าหน้าที่ผู้นั้นและมิเคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาก่อน ไม่มีโอกาสได้รับพระราชทานเครื่องราช อิสริยาภรณ์ถึงชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย หรือเบญจมดิเรกคุณาภรณ์แล้วแต่กรณี ทำให้ผู้เสียชีวิตไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับพระราชทานเพลิงศพ

2. สมควรปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานฯ มีโอกาสได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ถึงชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทยหรือเบญจมดิเรกคุณาภรณ์และให้ผู้เสียชีวิตมีโอกาสได้รับพระราชทานเพลิงศพ จึงได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ

สาระสำคัญของร่างระเบียบ

ให้ยกเลิกความในข้อ 17 (3) แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชาย แดนภาคใต้ พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความใหม่แทน ดังนี้

           ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี                           ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
      ว่าด้วยบำเหน็จความชอบฯ พ.ศ. 2550                       ว่าด้วยบำเหน็จความชอบฯ พ.ศ. ....
      ข้อ 17 ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้รับการพิจารณา                ข้อ 3  ให้ยกเลิกความในข้อ 17 (3)  แห่งระเบียบ
      เสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์                     สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับ
      เป็นกรณีพิเศษ ดังนี้                                      เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้
      (3) กรณีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเสียชีวิตหรือ                     พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
      ทุพพลภาพอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ                  “(3) กรณีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเสียชีวิตหรือ
      ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมิได้เกิดจากสาเหตุ                ทุพพลภาพอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
      ส่วนตัวหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของ               ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมิได้เกิดจากสาเหตุ
      เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนั้นเอง ให้พิจารณาเสนอขอ                 ส่วนตัวหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของ
      พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่ง               เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนั้นเอง ให้พิจารณาเสนอขอ
      ช้างเผือก  เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่ง               พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่ง
      มงกุฎไทย หรือเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่                   ช้างเผือก  เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่ง
      สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ แล้วแต่กรณี  แก่                    มงกุฎไทย หรือเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญ
      เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานผู้นั้นสูงขึ้นเป็นกรณีพิเศษ                    ยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ แล้วแต่กรณี  แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ
      ได้ไม่เกินสองชั้น                                        งานผู้นั้นเป็นกรณีพิเศษได้ไม่เกินสองชั้น เว้นแต่ในกรณี

ดังต่อไปนี้

(ก) การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก หรือ เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ที่ไม่เคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าว

ให้เสนอขอพระราชทานชั้นเริ่มต้นตามตำแหน่ง ระดับ

หรือชั้นยศ หรือชั้นสูงขึ้นจากชั้นเริ่มต้นไม่เกินสองชั้น โดย

พิจารณาตามพฤติการณ์ และผลการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ต้อง

ไม่ต่ำกว่าชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

(ข) การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้

ปฏิบัติงานที่ ไม่เคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

ดังกล่าว ให้เสนอขอพระราชทานได้ไม่เกินชั้นเบญจมดิเรกคุณาภรณ์

โดยพิจารณาตามพฤติการณ์และผลการปฏิบัติงาน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 พฤษภาคม 2552 --จบ--