ของบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 255

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 27, 2009 09:50 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 62,625,712 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2551 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ตาก อุบลราชธานี ระยอง ชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวม 6 จังหวัด จำแนกเป็น

1. กรมส่งเสริมการเกษตร (ด้านพืช) วงเงินช่วยเหลือ จำนวน 61,825,712 บาท

2. กรมประมง (ด้านประมง) วงเงินช่วยเหลือ จำนวน 800,000 บาท

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า

1. ในระหว่างเดือนสิงหาคม 2551-พฤศจิกายน 2551 ได้เกิดภัยธรรมชาติ ได้แก่ ฝนทิ้งช่วง ศัตรูพืชระบาด พายุและคลื่นลมแรง ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ ตาก อุบลราชธานี ระยอง ชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ จำนวน 31,698 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 135,884.50 ไร่ เรือจมและไม่สามารถซ่อมแซมได้ 4 ลำ เห็นสมควรให้ความช่วยเหลือ 62,625,712 บาท

2. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมงได้นำเรื่องดังกล่าวขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อนำไปช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) ได้มีมติให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าวเป็นเงินสด โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานตามขั้นตอนต่าง ๆ และได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเรียบร้อยแล้ว

3. สำนักงบประมาณได้ตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่จะนำไปช่วยเหลือดังกล่าวแล้วปรากฏว่า การให้ความช่วยเหลือด้านพืชไม่สามารถดำเนินการเบิกจ่ายจากเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ได้ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความซ้ำซ้อนในการให้ความช่วยเหลือ จึงต้องใช้ระยะเวลาในการสำรวจข้อมูลและตรวจสอบความเสียหายเกินกว่าระยะเวลาที่ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการฯ กำหนดไว้ (3 เดือน) และสำหรับกรณีการให้ความช่วยเหลือด้านประมง รายการค่าชดเชยเรือจม นั้น เป็นการให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์และระเบียบกรมประมงว่าด้วยการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรือชาวประมงที่ประสบภัยธรรมชาติ พ.ศ. 2541 ซึ่งกรมประมงแจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการเจียดจ่ายหรือปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพื่อนำมาให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรดังกล่าวได้

ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ประสบภัยธรรมชาติ แม้ว่าสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือจะล่วงเลยระยะเวลาเร่งด่วนเฉพาะหน้าแล้วก็ตาม แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยดังกล่าวตามแนวทางเดิมที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เคยปฏิบัติมาแล้ว จึงเห็นควรสนับสนุนงบประมาณตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอทำความตกลงมา ในวงเงินรวมจำนวน 62,625,712 บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ รวม 6 จังหวัดดังกล่าว โดยจ่ายผ่าน ธ.ก.ส. โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ทั้งนี้ ในกรณีเกิดภับพิบัติครั้งต่อไป ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการดำเนินการสำรวจความเสียหายและขั้นการดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณอย่างเร่งด่วนและไม่ควรปล่อยให้เกินระยะเวลา 3 เดือน เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 พฤษภาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ