สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง ปี 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 27, 2009 14:09 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง ปี 2552 ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2552 ประกอบด้วย สถานการณ์ภัยแล้งและการช่วยเหลือ สถานการณ์ภัยธรรมชาติอื่นๆ สถานการณ์น้ำ และสถานการณ์การปลูกพืชฤดูแล้ง สรุปได้ดังนี้

สถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร

พื้นที่ประสบภัยแล้งด้านการเกษตร ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2552 รวมทั้งสิ้น 24 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พิจิตร แพร่ ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ นครราชสีมา ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ชัยนาท สระแก้ว ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร แยกเป็น ด้านพืช 21 จังหวัด ด้านปศุสัตว์ 5 จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้รับ ผลกระทบทั้ง 2 ด้าน จำนวน 2 จังหวัด คือ จังหวัดอุตรดิตถ์ และเพชรบุรี

ด้านพืช จำนวน 21 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พิจิตร แพร่ ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ นครราชสีมา หนองคาย ยโสธร ร้อยเอ็ด อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ชัยนาท สระแก้ว ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ราชบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์

เกษตรกร 83,561 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 845,560 ไร่ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ 10,357 ล้านบาท แยกเป็น ข้าว 252,980 ไร่ พืชไร่ 427,481 ไร่ และพืชสวนและอื่นๆ 165,099 ไร่

การดำเนินการให้การช่วยเหลือ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ระดมสรรพกำลังให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งและพื้นที่การเกษตร โดยการสนับสนุนเครื่อง สูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ และปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้

(1) การจัดสรรน้ำเพื่อกิจกรรมต่างๆในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2551 ถึง 30 เม.ย. 2552 วางแผนไว้ทั้งสิ้น 22,687 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ได้แก่ เพื่อการอุปโภค-บริโภค 1,945 ล้านลบ.ม. รักษาระบบนิเวศน์ 4,991 ล้านลบ.ม. เพื่อการเกษตร 15,499 ล้านลบ.ม. และเพื่ออุตสาหกรรม 252 ล้านลบ.ม. ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 จัดสรรน้ำไปแล้ว 24,160 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 106 ของแผนการ จัดสรรน้ำ(มากกว่าแผนการจัดสรรน้ำ 1,473 ล้านลูกบาศก์เมตร)

(2) สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่รวม 798 เครื่อง(จาก 1,200 เครื่อง) ในพื้นที่ 55 จังหวัด

(3) สนับสนุนรถบรรทุกน้ำ เพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร รวม 61 คัน 1,877 เที่ยว ปริมาณน้ำ 11.262 ล้านลิตร ใน พื้นที่ 15 จังหวัด

(4) การปฏิบัติการฝนหลวง

เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ถึง 21 พ.ค. 2552 จำนวน 8 ศูนย์ (9 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ลพบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี ระยอง หัวหิน สุราษฎร์ธานี และ 5 ฐานเติมสาร ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี นครสวรรค์ จันทบุรี สระแก้ว)

ขึ้นบิน จำนวน 2,737 เที่ยวบิน มีฝนตกในพื้นที่ 60 จังหวัด รวมเป็นพื้นที่เกษตรและป่าไม้ที่ได้รับประโยชน์ 146.97 ล้านไร่ ราย ละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2

จากการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น ทำให้พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 845,560 ไร่ สามารถลดพื้นที่คาดว่าจะเสียหายได้ 682,427.50 ในพื้นที่ 14 จังหวัด(เชียงราย น่าน แพร่ สุโขทัย พิจิตร อุตรดิตถ์ ร้อยเอ็ด อุดรธานี อุบลราชธานี ชัยนาท ฉะเชิงเทรา สระแก้ว เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์) คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ช่วยเหลือได้ประมาณ 8,274 ล้านบาท และมีพื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 163,132.50 ไร่ ในพื้นที่ 12 จังหวัด(เชียงราย เชียงใหม่ พิจิตร ลำปาง อุตรดิตถ์ นครราชสีมา ยโสธร หนองคาย อำนาจเจริญ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และราชบุรี ได้สำรวจและจ่ายเงินช่วยเหลือด้วยเงินทดรองราชการของจังหวัดแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบุรี วงเงิน 3.17 ล้านบาท และคาดว่าจะขอใช้เงินทดรองราชการในอำนาจปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3 จังหวัด (เชียงราย เพชรบุรี ราชบุรี) วงเงิน 39.46 ล้านบาท

ด้านปศุสัตว์ จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ เพชรบุรี และชุมพร

เกษตรกร 9,168 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 31,791 ตัว เป็น โค 29,194 ตัว กระบือ 2,304 ตัว แพะ 293 ตัว ช่วยเหลือ โดยสนับสนุนพืชอาหารสัตว์ จำนวน 98.17 ตัน และดูแลสุขภาพสัตว์ 1,818 ตัว ได้แก่ หนองบัวลำภู(8.65 ตัน/1,193 ตัว) ศรีสะเกษ (4 ตัน) อุตรดิตถ์(7.2 ตัน) เพชรบุรี(58.32 ตัน) และชุมพร(20 ตัน/625 ตัว) และได้เตรียมไว้ช่วยเหลืออีก 7,532 ตัน

จากการให้ความช่วยเหลือโดยการสนับสนุนเสบียงสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์ ทำให้ไม่มีสัตว์ตาย

ด้านประมง ไม่มีความเสียหาย

สถานการณ์ภัยธรรมชาติอื่นๆ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2552

สถานการณ์การระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง (เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2552)

พื้นที่ประสบภัย 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร เลย อุบลราชธานี ลพบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว กาญจนบุรี เกษตรกร 6,772 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 749,612 ไร่ อยู่ระหว่าง สำรวจความเสียหาย

สถานการณ์วาตภัย (เดือนมกราคม — เมษายน 2552)

พื้นที่ประสบภัย 24 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ตาก พะเยา เพชรบูรณ์ แพร่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครราชสีมา มุกดาหาร หนองคาย ลพบุรี กรุงเทพ จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง และสุราษฎร์ ธานี เกษตรกร 16,139 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 66,262 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 23,297 ไร่ พืชไร่ 16,637 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 26,328 ไร่ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย

สถานการณ์อุทกภัย (เดือนมีนาคม — เมษายน 2552)

พื้นที่ประสบภัย 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง อุทัยธานี อุตรดิตถ์ นครราชสีมา อุบลราชธานี และพัทลุง เกษตรกร 7,863 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 45,762 ไร่ แบ่งเป็น 28,193 ไร่ พืชไร่ 4,243 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 13,326 ไร่ อยู่ระหว่างสำรวจความ เสียหาย

นอกจากนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่เกี่ยว ข้อง ได้แก่ สถานการณ์น้ำและสถานการณ์การปลูกพืช ดังนี้

สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2552

1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 38,504 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 55 ของ ความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 15,148 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2551 (41,678 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60) จำนวน 3,264 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 5 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 31,045 ล้านลูกบาศก์เมตร

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และป่าสักชลสิทธิ์

หน่วย : ล้าน ลบ.ม.

อ่างเก็บน้ำ     ปริมาตรน้ำในอ่างฯ         ปริมาตรน้ำใช้การได้     ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ    ปริมาณน้ำระบาย     ปริมาณน้ำรับได้อีก
             ปริมาตร   %ความจุ     ปริมาตร      %ความจุ      วันนี้     เมื่อวานนี้    วันนี้     เมื่อวาน
                 น้ำ     อ่างฯ         น้ำ        อ่างฯ
1. ภูมิพล       5,412      40       1,612         12     22.03       22.99     8.5       8.6        8,062
2. สิริกิติ์       4,401      46       1,551         16      9.58        9.67   19.04     19.14        5,099
รวมภูมิพล+สิริกิติ์  9,813      43       3,163         14     31.61       32.66   27.54     27.74       13,161
3. ป่าสักชลสิทธิ์    348      36         345         36       9.1        7.97    3.13       3.1          617

เมื่อเปรียบเทียบปริมาตรน้ำปัจจุบันกับปี 2551 เขื่อนภูมิพล น้อยกว่า จำนวน 1,131 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ มากกว่า จำนวน 322 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มากกว่า จำนวน 59 ล้านลูกบาศก์เมตร

อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 7 อ่าง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่กวงอุดมธารา(ร้อยละ 18) กิ่วคอหมา(ร้อยละ 25 เนื่องจากเริ่มเก็บน้ำปลายฤดูฝนนี้) แควน้อย(ร้อยละ 18 เนื่องจาก เริ่มเก็บน้ำปลายฤดูฝนนี้) ห้วยหลวง(ร้อยละ30) ลำปาว (ร้อยละ 28) ทับเสลา(ร้อยละ 30) ขุนด่านปราการชล(ร้อยละ 18)

2. สภาพน้ำท่า

ภาคเหนือ แม่น้ำปิงบริเวณจังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์อยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นบริเวณจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในเกณฑ์น้อย แม่น้ำ วังบริเวณจังหวัดตากอยู่ในเกณฑ์ปกติ แม่น้ำยมบริเวณจังหวัดแพร่ สุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตรอยู่ในเกณฑ์น้อย แม่น้ำน่านบริเวณจังหวัดน่านและพิษณุโลก อยู่ในเกณฑ์น้อย ยกเว้นบริเวณจังหวัดพิจิตรและนครสวรรค์อยู่ในปกติ และแม่น้ำแควน้อยบริเวณจังหวัดพิษณุโลกอยู่ในเกณฑ์น้อย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม่น้ำชีบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ อยู่ในเกณฑ์น้อย ยกเว้นบริเวณจังหวัดกาฬสินธุ์อยู่ในเกณฑ์ ปกติ แม่น้ำมูลบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์อยู่ในเกณฑ์น้อย ยกเว้นบริเวณจังหวัดนครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ภาคกลาง แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และอุทัยธานีอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ภาคตะวันออก แม่น้ำปราจีนบุรีบริเวณจังหวัดปราจีนบุรีอยู่ในเกณฑ์ปกติ แม่น้ำพระสทึงบริเวณจังหวัดสระแก้วอยู่ในเกณฑ์น้อย แม่น้ำ คลองหินดาด บริเวณจังหวัดจันทบุรีอยู่ในเกณฑ์น้อย

ภาคใต้ แม่น้ำตาปี บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี แม่น้ำปัตตานีบริเวณจังหวัดยะลา และแม่น้ำโก-ลกบริเวณจังหวัดนราธิวาส อยู่ใน เกณฑ์น้อย

สถานการณ์การปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2551/2552

ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤษภาคม 2552 มีพื้นที่ปลูกพืชฤดูแล้งทั้งประเทศ จำนวน 21.13 ล้านไร่ แยกเป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 15.06 ล้านไร่(เกินกว่าพื้นที่คาดการณ์ จำนวน 3.45 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 29 ของพื้นที่คาดการณ์ เนื่องจากสถานการณ์ข้าว ราคาดี จึงเป็นแรงจูงใจให้ทำนาปรังเพิ่มขึ้น) พืชไร่-ผัก จำนวน 2.35 ล้านไร่ และพืชอื่นๆ จำนวน 3.72 ล้านไร่ รายละเอียดดังนี้

หน่วย:ล้านไร่

                                      คาดการณ์พื้นที่ปลูก                             พื้นที่ปลูกจริง
พื้นที่                  ข้าวนาปรัง     พืชไร่-ผัก    พืชผักอื่นๆ     รวม     ข้าวนาปรัง    พืชไร่-ผัก    พืชผักอื่นๆ     รวม
ในเขตพื้นที่ชลประทาน       8.79         0.76      3.64     13.19      11.85        0.63       3.72     16.20
                                                                (134.82)      (82.89)    (102)     (123)
นอกเขตพื้นที่ชลประทาน      2.82         2.04        -       4.86       3.21        1.72        -        4.93
                                                                (113.83)      (84.31)      -      (101.44)
รวม                   11.61         2.80      3.64     18.05      15.06        2.35       3.72     21.13

(129.71) (83.92) (102.19) (117.06) หมายเหตุ ( ) หมายถึง ร้อยละของพื้นที่คาดการณ์

ที่มา : ข้อมูลในเขตพื้นที่ชลประทาน กรมชลประทาน วันที่ 1 พ.ค. 2552 และข้อมูลนอกเขตพื้นที่ชลประทาน กรมส่งเสริมการ เกษตร วันที่ 18 พ.ค. 2552

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 พฤษภาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ