คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการยุทธศาสตร์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำยุทธศาสตร์ดังกล่าวไปปฏิบัติต่อไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
กระทรวงวัฒนธรรมรายงานว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดีทัศน์เป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยส่งเสริมและสร้างภาพลักษณ์ของประเทศด้วยการถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์และศิลปวัฒนธรรมผ่านสื่อที่เป็นภาพยนตร์และวีดิทัศน์ให้เป็นที่รับรู้ต่อนานาชาติ สามารถสร้างรายได้และรองรับการจ้างงานภายในประเทศได้จำนวนมากและหลากหลายสาขา ด้วยเหตุนี้ UNCTAD (United Nations Conference on Trade and Development) จึงให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมด้านนี้ เพราะถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับประเทศไทยมีข้อมูลการศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพบว่า ในปี พ.ศ. 2549 ประเทศไทยมีรายได้จากอุตสาหกรรมภาพยนตร์รวมทั้งสิ้น 27,386 ล้านบาท จำแนกเป็นรายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ไทย จำนวน 17,800 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย จำนวน 9,506 ล้านบาท ดังนั้น คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พุทธศักราช 2551 ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรภาคธุรกิจด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์จัดทำร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างภาพลักษณ์ สร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยกำหนดเป็นกรอบทิศทางและแนวปฏิบัติในการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปปฏิบัติต่อไป โดยมีระยะเวลา 3 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2552-2544 ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. เป้าประสงค์
1.1 เป็นศูนย์กลางในการถ่ายทำ ผลิต เผยแพร่ และจำหน่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์ที่สำคัญของโลก
1.2 เป็นแหล่งผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระดับมืออาชีพ
1.3 เป็นเขตปลอดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์
1.4 มีศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์
2. พันธกิจ
2.1 พัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทย ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันการผลิต เผยแพร่ และจำหน่าย
ในระดับโลกเพิ่มมากขึ้น
2.2 พัฒนาบุคลากรรองรับการขยายตัวอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และการเป็นศูนย์กลางในการให้บริการถ่ายทำภาพยนตร์
และวีดิทัศน์ต่างประเทศในประเทศไทย รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการออกแบบและพัฒนาวีดิทัศน์ของต่างประเทศในประเทศไทย
2.3 ส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของเด็ก เยาวชน และประชาชนที่สนใจทั้งในระบบ นอกระบบ และตาม
อัธยาศัย โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่ออุตสาหกรรมวีดิทัศน์ และปรับทัศนคติให้เป็นที่ยอมรับของสังคม
2.4 พัฒนากฎหมาย ระเบียบ แนวปฏิบัติเพื่อลดปัญหาอุปสรรคในการที่ชาวต่างชาติจะเข้ามา ถ่ายทำลงทุน และใช้บริการใน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์
2.5 จัดตั้งหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพและเอกภาพ เพื่อรับผิดชอบในการสนับสนุนพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์
2.6 พัฒนาให้มีศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพื่อให้มีโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบ
กิจการในระดับนานาชาติ
2.7 กำหนดมาตรการรณรงค์ ส่งเสริม ให้มีการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์ของผู้ผลิตและสร้างสรรค์อุตสาหกรรมภาพยนตร์และ
วีดิทัศน์เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
3. ยุทธศาสตร์
3.1 ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์
3.2 เสริมสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์เพื่อเป็นรากฐานการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน
ของธุรกิจ
3.3 พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์
3.4 พัฒนาตลาดภาพยนตร์และวีดิทัศน์
3.5 เสริมสร้างให้ประเทศไทยเป็นเขตปลอดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์
3.6 เสริมสร้างค่านิยมที่ถูกต้องในการบริโภค
3.7 ส่งเสริมธุรกิจการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยและความร่วมมือในการสร้างวีดิทัศน์ระหว่างประเทศ
4. กลไกการขับเคลื่อน ให้ความสำคัญกับบทบาทของหน่วยงานภาคเอกชนควบคู่กับภาครัฐ ทั้งในเรื่องความชัดเจนของแนวนโยบาย
กรอบแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลไกการบริหารที่ชัดเจน มีความเป็นเอกภาพและประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการ
ดูแล กำกับ ตามกฎหมายที่ได้บัญญัติไว้ ซึ่งมีการกำหนดกลไกระดับชาติ ดังนี้
4.1 หน่วยงานหลัก : คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม
4.2 หน่วยงานสนับสนุนภาครัฐ
ภาครัฐ : สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
ภาคเอกชน : กลุ่มสมาคมและผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2552 --จบ--