คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการขอเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้แจ้งไปยังประธานรัฐสภาขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อฟังความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ในที่ประชุมรัฐสภาในโอกาสแรกเมื่อมีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญทั่วไป
ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ตามที่ได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงการคลังและส่วนราชการในสังกัดตลอดจนหน่วยงานของรัฐในกำกับ ซึ่งกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมายและความเชื่อถือของประชาชน การขอให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการหรือผลักดันการปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่ ซึ่งมีประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรวมอยู่ด้วย การจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับต่างประเทศ การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุมเรียกร้องต่าง ๆ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ และอื่น ๆ อันเป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินในขณะนี้ นั้น นายกรัฐมนตรีได้ปรารภว่า โดยที่คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วว่าจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ดังนั้น เมื่อมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นและมีการนำไปพูดจาปราศรัยภายนอกรัฐสภาในระหว่างปิดสมัยประชุม บัดนี้ ใกล้กำหนดการเปิดประชุมรัฐสภาแล้ว การฟังความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาในที่ประชุมรัฐสภา ย่อมเป็นการใช้กลไกทางรัฐธรรมนูญหาทางแก้ไขปัญหา และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรัฐธรรมนูญเปิดทางให้รัฐบาลเป็นฝ่ายริเริ่มได้ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--
ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ตามที่ได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงการคลังและส่วนราชการในสังกัดตลอดจนหน่วยงานของรัฐในกำกับ ซึ่งกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมายและความเชื่อถือของประชาชน การขอให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการหรือผลักดันการปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่ ซึ่งมีประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรวมอยู่ด้วย การจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับต่างประเทศ การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุมเรียกร้องต่าง ๆ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ และอื่น ๆ อันเป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินในขณะนี้ นั้น นายกรัฐมนตรีได้ปรารภว่า โดยที่คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วว่าจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ดังนั้น เมื่อมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นและมีการนำไปพูดจาปราศรัยภายนอกรัฐสภาในระหว่างปิดสมัยประชุม บัดนี้ ใกล้กำหนดการเปิดประชุมรัฐสภาแล้ว การฟังความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาในที่ประชุมรัฐสภา ย่อมเป็นการใช้กลไกทางรัฐธรรมนูญหาทางแก้ไขปัญหา และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรัฐธรรมนูญเปิดทางให้รัฐบาลเป็นฝ่ายริเริ่มได้ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--