เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” เป็น “กรมเจ้าท่า” พ.ศ. ....
และร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ “กรมการขนส่งทางอากาศ” เป็น “กรมการบินพลเรือน” พ.ศ. ....
จำนวน 2 ฉบับ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” เป็น “กรมเจ้าท่า” พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ “กรมการขนส่งทางอากาศ” เป็น “กรมการบินพลเรือน” พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงคมนาคมเสนอว่า
1. ขอเปลี่ยนชื่อ “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” เป็น “กรมเจ้าท่า” ตามเดิม ด้วยเหตุผล ดังนี้
1.1 กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี มีประวัติการก่อตั้งมายาวนานถึง 149 ปี นับตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในชื่อเดิมว่า “กรมท่า” โดยมีตำแหน่งเจ้ากรมว่า “เจ้าท่า” ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามหน่วยงานว่า “กรมเจ้าท่า” สังกัดกระทรวงโยธาธิการ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังการปฏิรูประบบราชการในปี 2545 จึงได้ยุบรวม “สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี” กับ “กรมเจ้าท่า” จึงเป็น “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” โดยการปรับชื่อหน่วยงานด้านการขนส่งทั้งหมดให้เหมือนกันทั้งทางบก น้ำ และอากาศ และเพื่อให้ทราบว่ามีการรวมหน่วยงานด้านพาณิชยนาวีจึงได้ระบุชื่อเป็นพาณิชยนาวีต่อท้ายด้วย จึงมีการเปลี่ยนชื่อกรมและชื่ออธิบดีตามกฎหมาย ดังที่ปรากฏในพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 และพระราชกฤษฎีกาแก้ไขบทบัญญัติให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจ หน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 แต่ภารกิจตามกฎหมายยังคงเป็นภารกิจ “เจ้าท่า”
1.2 ตั้งแต่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ปรากฏในทางปฏิบัติในการประชุมและประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ว่าไม่สอดคล้องกับภารกิจของกรมตามกฎหมายหลาย ๆ ฉบับ อาทิเช่น พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 และพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช 2481 ซึ่งกำหนดการใช้อำนาจของอธิบดีและในการมอบหมายงานในสำนักงานสาขาในต่างจังหวัดเป็นอำนาจ “เจ้าท่า” ซึ่งเป็นคำเฉพาะที่สามารถเข้าใจได้ดีทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป ซึ่งไม่คุ้นเคยกับชื่อกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีที่เป็นชื่อใหม่ แม้ว่าจะใช้มาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม
1.3 กรมการขนส่งทางน้ำได้ทำการสอบถามข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ร้อยละ 87 เห็นด้วยที่จะให้ใช้ชื่อ “กรมเจ้าท่า” ที่เหลือเห็นควรให้เป็นชื่ออื่น (กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี มีเพียงร้อยละ 7.3 และกรมเจ้าท่าและการขนส่งทางน้ำ/กรมการขนส่งทางน้ำ/กรมเจ้าท่าและพาณิชยนาวี/กรมเจ้าท่าและการเดินเรือ/กรมพาณิชยนาวี มีเพียงร้อยละ 5.69) ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามชื่อพระราชทานเดิม และภารกิจหลักของกรมตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จึงเห็นควรเปลี่ยนชื่อ “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” เป็น “กรมเจ้าท่า” ตามชื่อที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานไว้แต่เดิม
2. ขอเปลี่ยนชื่อ “กรมการขนส่งทางอากาศ” เป็น “กรมการบินพลเรือน” ด้วยเหตุผล ดังนี้
2.1 ภารกิจงานการบิน (Aviation) จะครอบคลุมภารกิจงานทั้งด้านการขนส่งทางอากาศ (Air Transportation) และงานด้านการเดินอากาศ (Air Navigation) ฉะนั้น การใช้ชื่อกรมว่า “กรมการขนส่งทางอากาศ” ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษ คือ Department of Air Transportation ก็จะสะท้อนเฉพาะงานด้านการขนส่งทางอากาศเพียงด้านเดียวไม่ครอบคลุมถึงงานด้านการเดินอากาศที่กรมต้องรับผิดชอบกำกับดูแลด้วย
2.2 ชื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการบินของประเทศต่าง ๆ ใช้กันเป็นสากล คือ กรมการบินพลเรือน (Department of Civil Aviation) ซึ่งสอดคล้องกับอนุสัญญาและองค์กรระหว่างประเทศ (องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ : International Civil Aviation Organzation) (ICAO)
2.3 ปัจจุบันแม้ชื่อภาษาไทยของกรมเป็น “กรมการขนส่งทางอากาศ” แต่ภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า “Department of Civil Aviation” โดยไม่ใช้ชื่อ “Department of Air Transportation” ตามชื่อภาษาไทยในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในบทบาท ภารกิจของกรมที่รับผิดชอบงานทั้งด้านการขนส่งทางอากาศ และด้านการเดินอากาศแก่ประเทศต่าง ๆ และองค์กรระหว่างประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่เป็นคู่เจรจาความตกลงและความร่วมมือด้านการบินกับประเทศไทย
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
1. ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” เป็น “กรมเจ้าท่า” พ.ศ. .... ดังนี้
1.1 เปลี่ยนชื่อส่วนราชการจาก “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” เป็น “กรมเจ้าท่า” (ร่างมาตรา 3)
1.2 เปลี่ยนชื่อตำแหน่งของข้าราชการในส่วนราชการดังกล่าว คือ อธิบดี รองอธิบดี ผู้อำนวยการสำนักงาน หัวหน้าสำนักงาน (ร่างมาตรา 4)
2. ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ “กรมการขนส่งทางอากาศ” เป็น “กรมการบินพลเรือน” พ.ศ. .... ดังนี้
2.1 เปลี่ยนชื่อส่วนราชการจาก “กรมการขนส่งทางอากาศ” เป็น “กรมการบินพลเรือน” (ร่างมาตรา 3)
2.2 เปลี่ยนชื่อตำแหน่งของข้าราชการในส่วนราชการดังกล่าว คือ อธิบดี รองอธิบดี (ร่างมาตรา 4)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 มิถุนายน 2552 --จบ--