เรื่อง การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
สำนักงบประมาณเสนอแนวทาง หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการเสนอขอเพิ่มงบประมาณ ดังนี้
1. แนวทางและหลักเกณฑ์การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เห็นควรให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น เสนอคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เฉพาะรายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล โดยมีหลักเกณฑ์ว่าควรเป็นรายการที่มีการใช้จ่ายในลักษณะดังต่อไปนี้
1.1 เป็นไปตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ดังนี้ 1) ยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นและการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ 2) ยุทธศาสตร์การรักษาความมั่นคงของรัฐ 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต 4) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้อย่างมีเสถียรภาพ 5) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 6) ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม 7) ยุทธศาสตร์การต่างประเทศ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 8) ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี 9) รายการค่าดำเนินการภาครัฐ
1.2 เป็นไปตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี
1.3 เป็นรายจ่ายลงทุนที่สำคัญก่อให้เกิดผลในการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ
1.4 เป็นรายจ่ายลงทุนหรือรายจ่ายประจำที่ต้องเร่งดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1. ไม่ทำให้เกิดภาระรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
2. ไม่ผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีในปีต่อ ๆ ไป
3. ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันทีและมีอำนาจหน้าที่
ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด
2. ขั้นตอนในการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น
(1) ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น จัดทำคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่ได้มีการตรวจสอบและรับรองข้อมูลแล้วว่า การดำเนินการนั้นไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 กฎหมายหรือระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนำเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อขอรับความเห็นชอบ และรวบรวมจัดส่งให้สำนักงบประมาณดำเนินการภายใน วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2552
(2) ในการดำเนินการตามนัยข้อ 1 ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ตรวจสอบรายละเอียดโดยไม่เสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ซ้ำซ้อนกับค่าใช้จ่ายตามโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 หรือไม่เสนอขอเพิ่มงบประมาณเพื่อนำไปสมทบกับค่าใช้จ่ายตามโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
(3) สำหรับกรณีหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 168 วรรคเก้า กำหนดว่า หากหน่วยงานดังกล่าวเห็นว่างบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรให้นั้นไม่เพียงพอ ให้สามารถเสนอคำขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิการได้โดยตรง
ดังนั้น หากหน่วยงานดังกล่าวพิจารณาแล้วเห็นว่า งบประมาณที่ได้รับจัดสรรให้นั้นไม่เพียงพอ ก็เห็นสมควรดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มาตรา 168 วรรคเก้า โดยให้ยื่นคำขอแปรญัตติต่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ภายในวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2552 เพื่อที่สำนักงบประมาณจะได้ประมวลผลและ รายงานพร้อมความเห็นให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย
(4) ให้สำนักงบประมาณพิจารณาคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และนำเสนอผลการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 4 สิงหาคม 2552 เพื่อนำเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 มิถุนายน 2552 --จบ--