ขออนุมัติใช้งบประมาณเป็นค่าชดเชยในการรื้อย้าย การชดเชยกรรมสิทธิ์และสิ่งก่อสร้างในที่ดินชุมชนตระกูลดิษฐ์

เรื่อง ขออนุมัติใช้งบประมาณเป็นค่าชดเชยในการรื้อย้าย การชดเชยกรรมสิทธิ์และสิ่งก่อสร้างในที่ดินชุมชนตระกูลดิษฐ์

โรงเรียนโยธินบูรณะ และชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า

คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรใช้จ่ายงบประมาณเป็นค่าชดเชยในการรื้อย้าย การชดเชยกรรมสิทธิ์และสิ่งก่อสร้างในที่ดินชุมชนตระกูลดิษฐ์ โรงเรียนโยธินบูรณะ และชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า ตามโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เขตดุสิต วงเงินรวม 1,266 ล้านบาท โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (สผ.) รายงานว่า

1. ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 สผ.ได้มีการจัดทำประชาพิจารณ์กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ คือ ชุมชนตระกูลดิษฐ์ โรงเรียนโยธินบูรณะ และชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้าแล้ว จำนวน 4 ครั้ง มีผลสรุปได้ดังนี้

1.1 ชุมชนตระกูลดิษฐ์ เป็นชุมชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีจำนวนประชากร 40 ครอบครัว และได้อาศัยอยู่ในที่ดินของเอกชน (นายสุชิต ล่ำซำ) โดยได้มีการฟ้องร้องขับไล่ให้ออกจากพื้นที่ ได้มีการทำประชาพิจารณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2551 ซึ่งชาวชุมชนตระกูลดิษฐ์ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่คิดเป็นร้อยละ 97.50

การแก้ไขและเยียวยา รัฐสภาจะสร้างที่พักอาศัยให้ ตามบันทึกข้อตกลงโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ระหว่างรัฐสภากับสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กรมราชองครักษ์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) และกรมธนารักษ์ โดยขอความอนุเคราะห์กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการออกแบบบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น และจะก่อสร้างในพื้นที่ราชพัสดุ บริเวณแผนกซ่อมบำรุงเรือ กองร้อยขนส่งเรือ (ฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณี) เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของแผนกซ่อมบำรุงเรือ กองร้อยขนส่งเรือ

1.2 โรงเรียนโยธินบูรณะ เป็นโรงเรียนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีเนื้อที่ 8 ไร่ มีครู 164 คน นักเรียน 3,630 คน ได้ทำประชาพิจารณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2552 กลุ่มที่ทำประชาพิจารณ์เป็นผู้ปกครอง ครู นักเรียน และเจ้าหน้าที่โรงเรียนโยธินบูรณะ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ คิดเป็นร้อยละ 70

การแก้ไขและเยียวยา รัฐสภาจะจ่ายค่ารื้อย้ายและก่อสร้างอาคารเรียน อาคารประกอบการ สิ่งก่อสร้างอื่นๆ ค่าวัสดุ ครุภัณฑ์ และค่าก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของโรงเรียนโยธินบูรณะ จำนวน 1,000 ล้านบาท ในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งเดิมบริเวณวัดสร้อยทอง จำนวน 16 ไร่ พร้อมปรับปรุงการจราจรทางบกและทางน้ำสู่โรงเรียน และย้ายปั๊มแก๊สของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ออก โดยรัฐสภาจ่ายค่าชดเชยให้จำนวน 20 ล้านบาท สำหรับการออกแบบอาคารโรงเรียนโยธินบูรณะแห่งใหม่ สพฐ. จะได้มอบให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกแบบต่อไป

1.3 ชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า เป็นชุมชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีจำนวนประชากร 93 ครอบครัว ได้มีการทำประชาพิจารณ์ จำนวน 3 ครั้ง (เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 27 เมษายน และ 6 มิถุนายน 2552) และชุมชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

การแก้ไขและเยียวยา รัฐสภาได้ขอความอนุเคราะห์กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการออกแบบบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ซึ่งจะปลูกสร้างในพื้นที่แผนกซ่อมบำรุงเรือ กองร้อยขนส่งเรือ (ฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณี) โดยจะแบ่งพื้นที่ให้ครอบครัวละ 12 ตารางวา และได้ขอความอนุเคราะห์กรมธนารักษ์เรื่องกรรมสิทธิ์ในตัวอาคารปลูกสร้างให้เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวชุมชนด้วย ซึ่งชุมชนส่วนใหญ่พอใจกับการช่วยเหลือจากทางรัฐสภา ทั้งนี้ สผ.ได้รายงานผลการทำประชาพิจารณ์ดังกล่าวให้ประธานรัฐสภาทราบแล้ว

2. สผ.ขออนุมัติใช้จ่ายงบประมาณเป็นค่าชดเชยในการรื้อย้าย การชดเชยกรรมสิทธิ์และสิ่งก่อสร้างในที่ดินชุมชนตระกูลดิษฐ์ โรงเรียนโยธินบูรณะ และชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า วงเงินรวม 1,266 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

• โรงเรียนโยธินบูรณะ ค่าชดเชยทั้งสิ้น 1,000,000,000 บาท แยกเป็นค่าใช้จ่ายดังนี้ (1) ค่าออกแบบ ประมาณ 15,000,000 บาท (2) ค่าก่อสร้างอาคารโรงเรียนโยธินบูรณะ พร้อมอาคารประกอบและค่าควบคุมงาน ประมาณ 985,000,000 บาท
• ชุมชนตระกูลดิษฐ์และชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า ค่าชดเชยทั้งสิ้น 266,000,000 บาท แยกเป็นค่าใช้จ่ายดังนี้ (1) ค่าจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างที่พักให้ชุมชน 128,000,000 บาท (2) ค่าก่อสร้างที่พักและค่าชดเชยให้แก่ชุมชน 138,000,000 บาท ได้รับการจัดสรรงบประมาณครบถ้วนแล้ว จำนวน 266,000,000 บาท ในปีงบประมาณ 2552

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 มิถุนายน 2552 --จบ--