ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. ....

เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

1. ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. ....

1.1 หมวด 1 สัญญาหลักประกันทางธุรกิจ กำหนดความหมายของสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ กำหนดประเภทของผู้ให้หลักประกันและผู้รับหลักประกัน กำหนดชนิดของหลักประกัน กำหนดให้สัญญาหลักประกันทางธุรกิจต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานทะเบียน

1.2 หมวด 2 การจดทะเบียน กำหนดให้จัดตั้งสำนักงานทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจขึ้นในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำหนดหน้าที่ของสำนักงานฯ กำหนดให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นเจ้าพนักงาน และกำหนดหน้าที่ของเจ้าพนักงานกำหนดวิธีการจดทะเบียน กำหนดรายการที่ต้องมีในการจดทะเบียน

1.3 หมวด 3 สิทธิและหน้าที่ของผู้ให้หลักประกันและผู้รับหลักประกัน กำหนดให้ผู้ให้หลักประกันมีสิทธิครอบครอง ใช้สอย แลกเปลี่ยน จำหน่าย จ่ายโอน และจำนองทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน รวมทั้งใช้เป็นหลักประกัน ใช้ในการผลิตนำไปรวมเข้ากับทรัพย์สินอื่น ใช้ไปสิ้นไปในกรณีที่ครอบครองเพื่อการใช้สิ้นเปลือง และได้ดอกผลของทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน กำหนดให้ผู้ให้หลักประกันต้องจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันต้องยอมให้ผู้รับหลักประกันหรือตัวแทนเข้าตรวจดูทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันและบัญชีทรัพย์สิน

1.4 หมวด 4 สิทธิและหน้าที่ระหว่างผู้ให้หลักประกันและผู้รับหลักประกันกับบุคคลภายนอก กำหนดให้ผู้รับหลักประกันมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันก่อนเจ้าหนี้สามัญ มีสิทธิเหนือทรัพย์สินที่รวมเข้ากันตามส่วนของค่าแห่งทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันของตนในเวลาที่ทรัพย์สินรวมเข้ากัน กำหนดหลักเกณฑ์การเรียงลำดับผู้รับหลักประกันและลำดับบุริมสิทธิ

1.5 หมวด 5 การบังคับหลักประกันที่เป็นทรัพย์สิน กำหนดวิธีการบังคับหลักประกัน กำหนดเหตุที่ห้ามมิให้ผู้รับประกันบังคับหลักประกัน กำหนดวิธีปฏิบัติในการจำหน่ายทรัพย์สิน

1.6 หมวด 6 การบังคับหลักประกันที่เป็นกิจการ กำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้บังคับหลักประกัน กำหนดอายุใบอนุญาตเป็นผู้บังคับหลักประกันและวิธีการขอต่อใบอนุญาต กำหนดกระบวนการบังคับหลักประกันที่เป็นกิจการ กำหนดกระบวนการคัดค้านผู้บังคับหลักประกัน

1.7 หมวด 7 ความระงับสิ้นไปแห่งสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ กำหนดหลักเกณฑ์ความระงับสิ้นไปของสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ

1.8 หมวด 8 บทกำหนดโทษ กำหนดโทษสำหรับผู้ให้หลักประกันและผู้รับหลักประกันที่กระทำผิด

1.9 บทเฉพาะกาล กำหนดให้ในกรณีมีการออกกฎกระทรวงตามมาตรา 8 (5) ยกเลิกการใช้ทรัพย์สินใดเป็นหลักประกันการชำระหนี้ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้บรรดาสัญญาหลักประกันทางธุรกิจที่ใช้ทรัพย์สินนั้นเป็นประกันการชำระหนี้และจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานทะเบียนก่อนวันที่กฎกระทรวงนั้น มีผลใช้บังคับ ยังคงมีผลผูกพันคู่สัญญาต่อไปจนกว่าสัญญานั้นจะระงับสิ้นไป

2. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

2.1 กำหนดให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินของลูกหนี้จนสิ้นเชิง (ร่างมาตรา 4 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 214)

2.2 กำหนดให้หลักประกันทางธุรกิจเหนือสิทธิเรียกร้องตกเป็นของผู้รับโอนเมื่อมีการโอนสิทธิเรียกร้องนั้นไปเช่นเดียวกับกรณีของสิทธิจำนอง จำนำ หรือค้ำประกัน (ร่างมาตรา 5 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 305 วรรคหนึ่ง)

2.3 กำหนดให้ผู้จำนองหลุดพ้นจากการชำระหนี้ตามสัญญาจำนอง หากเจ้าหนี้บังคับจำนองแล้วได้ไม่ครบตามจำนวนหนี้ที่มีการนำทรัพย์สินไปจำนองเป็นประกัน (ร่างมาตรา 6 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 733)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 กรกฎาคม 2552 --จบ--