คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนโรคปากและเท้าเปื่อย ปี 2553-2555 (รวม 3 ปี) ในกรอบวงเงิน 1,218,371,280 บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ปัจจุบันเกษตรกรขาดแคลนวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยสำหรับสัตว์ (โคเนื้อ โคนม กระบือ และสุกร) จำนวน 15 ล้านโด๊สต่อปี เนื่องจากความต้องการวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยมีจำนวน 46 ล้านโด๊สต่อปี แต่โรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยของกรมปศุสัตว์มีความสามารถเต็มที่ผลิตวัคซีนได้จำนวน 31 ล้านโด๊สต่อปี จึงไม่สามารถผลิตวัคซีนได้เพียงพอกับความต้องการเพราะจำนวนสัตว์มีมากขึ้น กรมปศุสัตว์จึงได้ดำเนินโครงการเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนโรคปากและเท้าเปื่อยเพื่อให้เพียงพอ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. วัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนโรคปากและเท้าเปื่อยให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรภายในประเทศ
2. เป้าหมาย
2.1 ดำเนินการก่อสร้างอาคารและจัดหาครุภัณฑ์เครื่องมืออุปกรณ์สำหรับการผลิตแอนติเจนโรคปากและเท้าเปื่อย (line การผลิตแอนติเจน) โดยให้กระบวนการผลิตแอนติเจนที่จะทำการขยายเพิ่มเติมนี้ให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP
2.2 นำแอนติเจนที่ผลิตได้ไปผลิตเป็นวัคซีนโรคปากและเท้าเปื่อย ชนิดรวม 3 ไทป์ จำนวน 15 ล้านโด๊สต่อปี
3. ระยะเวลาดำเนินการ เริ่มต้นโครงการในปี 2553 สิ้นสุดโครงการในปี 2555 รวมระยะเวลา 3 ปี
4. ผลประโยชน์ที่ได้รับ
4.1 ช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกร
4.2 ลดความเสียหายในด้านเศรษฐกิจของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ โคนม กระบือ สุกร และในภาพรวมของภาคการเกษตรของประเทศ
4.3 เพิ่มขีดความสามารถในศักยภาพการผลิตและการตลาดสินค้าปศุสัตว์ของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 กรกฎาคม 2552 --จบ--