มาตรการป้องกัน โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (H1 N1)

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 10, 2009 14:33 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการป้องกัน โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (H1 N1) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้

1. มาตรการต่อแหล่งแพร่ระบาดของโรค

1.1 ปิดโรงเรียนกวดวิชาพิเศษ เป็นระยะเวลา 15 วัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค นับตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 โดยมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบดำเนินการ

1.2 ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ต และเกมส์คอมพิวเตอร์ และสถานบันเทิงให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังต่อผู้ใช้บริการอย่างเข้มงวดในการให้บริการ ดังนี้

  • ให้ทำความสะอาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ของใช้ทุกประเภทในร้าน รวมทั้งลูกบิดประตู หน้าต่าง เป็นต้น
  • เปิดประตู หน้าต่าง ให้อากาศหมุนเวียน สามารถถ่ายเทได้เป็นประจำทุกวัน รวมทั้งความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่าง

สม่ำเสมอ

  • จัดหาเจลล้างมือ หรืออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการทุกคน ล้างมือก่อนและหลังการใช้บริการในร้าน
  • ให้คำแนะนำ กรณีมีผู้ป่วย หรือมีอาการเป็นหวัดให้งดใช้บริการในร้าน Internet
  • กรณีมีพนักงานป่วยเป็นไข้หวัด ให้หยุดพักโดยไม่นับเป็นวันลาและให้รีบไปพบแพทย์
  • ปิดประกาศให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติตนเองให้ปราศจากโรค และป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

2. มาตรการความร่วมมือของทุกภาคส่วน

ให้กรมประชาสัมพันธ์ ดำเนินการประชาสัมพันธ์แก่ภาคส่วนราชการ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการระบาดของโรค การป้องกันโรค การสร้างพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลในการป้องกัน ควบคุมโรค เช่น การใช้หน้ากากอนามัย การล้างมือเป็นประจำ ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น กรณีมีอาการไอ หรือจาม ป่วยเป็นไข้หวัด ให้หยุดพักงาน หยุดพักเรียน และดูแลตนเองอยู่ที่บ้าน หรือที่พักของตนเองไม่ไปในที่ชุมชน เพื่อลดการแพร่โรค และรีบไปพบแพทย์

3. มาตรการดูแลรักษาพยาบาล

ให้มีสถานบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน เตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคนี้ ทั้งการบริการผู้ป่วยนอก การบริการผู้ป่วยใน การจัดห้องแยกโรคที่เพียงพอ การรักษาพยาบาล และการส่งต่อผู้ป่วย และให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาพยาบาล ในการให้คำปรึกษาในการรักษาพยาบาล และจัดหน่วยแพทย์สนับสนุนการรักษาพยาบาลสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า สืบเนื่องจากการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยการประกาศขององค์การอนามัยโลก ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2552 ในทวีปอเมริกาเหนือ และแพร่ระบาดทั่วโลก มีการพบผู้ป่วยโรคที่ติดเชื้อจากต่างประเทศ เกิดขึ้นในประเทศไทยรายแรก เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2552 และแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2552 พบมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการ จำนวน 2,714 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยวัยเรียน (6-18 ปี) จำนวน 1,933 ราย คิดเป็นร้อยละ 71 ผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาพยาบาลสามารถหายเป็นปกติ จำนวน 2,593 ราย คิดเป็นร้อยละ 96 มีผู้เสียชีวิตจำนวน 11 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.405 ซึ่งเป็นอัตราป่วยตายที่ใกล้เคียงกับการระบาดทั่วโลกในขณะนี้ คือ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 429 ราย จากผู้ป่วย 94,512 ราย (คิดเป็นร้อยละ 0.453) ที่ระบาดเป็น 135 ประเทศทั่วโลก

จากการติดตามเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทราบว่า

1. ในปี พ.ศ. 2552 การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีแนวโน้มสูงกว่าการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ปกติที่มีการระบาดประจำปีร้อยละ 37

2. การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจนถึงขณะนี้ ประเมินได้ว่า กลุ่มที่มีการระบาดของโรคมากที่สุด คือ กลุ่มนักเรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และกระจายสู่จังหวัดใหญ่ที่มีนักเรียนและมีประวัติการเดินทางเข้ามาเรียนพิเศษในกรุงเทพมหานคร ในสถานศึกษาที่มีกิจกรรมรับน้อง และระบาดในกลุ่มนักเรียนที่มีกิจกรรมรวมกลุ่มทัศนศึกษา รวมทั้งกิจกรรมเข้าชมมหกรรมดนตรี (คอนเสิร์ต)

3. ในกลุ่มผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 11 ราย พบว่าเป็นชาย 6 ราย หญิง 5 ราย ที่มีอายุระหว่าง 8- 58 ปี ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 18 ปี จำนวน 10 ราย โดยมีภูมิลำเนาในกรุงเทพมหานคร 5 ราย ชลบุรี 3 ราย และราชบุรี ภูเก็ต เพชรบุรี จังหวัดละ 1 ราย และมีข้อสังเกตว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งมีโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็งเม็ดเลือด เข้ารับการรักษาพยาบาลภายหลังมีอาการรุนแรงแล้ว และมีประวัติว่าคลุกคลีกับแหล่งโรค เช่น แหล่งสถานบันเทิง

กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้ว ในฐานะที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทรับผิดชอบในการป้องกัน ควบคุม และการรักษาพยาบาลของประเทศ ได้ดำเนินการปฏิบัติตามแผนแม่บทในการควบคุมการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 โดยความร่วมมือของส่วนราชการต่างๆและภาคเอกชน ได้ตระหนักถึงการแพร่ระบาดของโรคนี้ และเพื่อให้โรคสงบโดยเร็ว เห็นควรปรับมาตรการดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะมิฉะนั้นแล้ว อาจจะเกิดการระบาดใหญ่ของโรคนี้อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 กรกฎาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ