คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 51,165,310 บาท เพื่อใช้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานการบริการนักลงทุน (One Start & One Stop Service Center) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
โครงการจัดตั้งศูนย์ประสานการบริการนักลงทุน (ศปน.) มีวัตถุประสงค์เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จของกระทรวงหรือหน่วยงานของรัฐที่สามารถเชื่อมโยงการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายในการให้บริการอย่างเบ็ดเสร็จและรวดเร็วแก่นักลงทุนทุกสัญชาติและทุกประเภทกิจการ ทั้งที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงนักลงทุนรายใหม่ที่ต้องการก่อตั้งธุรกิจในไทย นักลงทุนรายเก่าที่มีการลงทุนในไทยแล้ว ต้องการขยายการลงทุน และนักลงทุนที่มีปัญหาในการดำเนินธุรกิจ
ขอบข่ายการดำเนินการ การให้บริการของศูนย์ฯ จะเน้นขั้นตอนต่าง ๆ ในการเริ่มต้นธุรกิจ (Business Start-up) ดังนี้
1. ให้บริการแก่ผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุนในการรับคำขอ ประสาน เร่งรัด ติดตาม อำนวยความสะดวก ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจและการลงทุน
2. ให้คำปรึกษา แนะนำ และให้บริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการลงทุน
3. จัดให้มีทีมเจ้าหน้าที่ดูแลนักลงทุนเป็นกรณีพิเศษ AE (Account Executive) เพื่อช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนรายใหญ่ ในการจดทะเบียนและขอใบอนุญาตต่าง ๆ รวมทั้งการให้ข้อมูลและคำแนะนำอย่างใกล้ชิด
4. รับข้อคิดเห็นและข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบของราชการ โดยศูนย์ฯ จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 กรกฎาคม 2552 --จบ--