รายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประกอบธุรกิจ

ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง)

คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตราการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (20 มกราคม 2552 และ 21 เมษายน 2552) สรุปได้ดังนี้

1. ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยว 3 เดือน

1.1 กระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้ออกประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวแก่คนต่างด้าวเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2552 โดยให้มีผลเมื่อพ้นกำหนดสามวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนพิเศษ 87 ง ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 เพื่อให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2552- 4 มีนาคม 2553)

1.2 สำนักงบประมาณ (สงป.) แจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง (กค.) พิจารณาผ่อนพันเรื่องการนำส่งรายได้คืนคลังแทนการจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยรายได้ดังกล่าว

1.3 กต. ได้แจ้งให้สถานเอกอัครราชทูตสถานกงสุลใหญ่ และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ทั่วโลกเพื่อประสานกับสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ และดำเนินการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2552 — 4 มิถุนายน 2552 โดยมีความเห็นและปัญหา ดังนี้

1.3.1 ผู้ขอวีซ่าโดยมีวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น เดินทางผ่านและทำธุรกิจ ใช้ประโยชน์จากมาตรการนี้เพื่อหลีกเลี่ยงจ่ายค่าธรรมเนียมฯ

1.3.2 ส่วนหนึ่งขอไว้ไม่เสียค่าธรรมเนียมฯ แต่ไม่ได้เดินทาง อาทิ นักท่องเที่ยวชาวจีนอาจขอวีซ่าไทยเพื่อไปฮ่องกง มาเก๊า เพราะตามระเบียบคนชาติจีนที่จะไปฮ่องกง มาเก๊า ต้องขอหนังสืออนุญาตซึ่งใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ แต่ถ้ามีวีซ่าไปประเทศที่ 3 สามารถไปได้ทันที

1.3.3 จีน รัสเซีย ส่วนใหญ่ใช้บริการบริษัทท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผู้ได้ประโยชน์จากการยกเว้นค่าธรรมเนียมฯ

1.3.4 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เห็นว่าค่าธรรมเนียมฯ ของไทยไม่สูงและยินดีชำระ ปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว คือ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้น สถานการณ์การเมืองของไทยจึงเป็นตัวแปรสำคัญ

1.3.5 การยกเว้นค่าธรรมเนียมฯ เป็นการสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวระดับล่าง (Cheap tourist) เดินทางไปท่องเที่ยวไทยมากขึ้น

1.3.6 การลดค่าธรรมเนียมฯ อาจไม่เป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เท่ากับการลดค่าตั๋วเครื่องบินและค่าโรงแรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสายการบินควรจะจัดแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบ Package

2. ยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจโรงแรมปี 2553 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2552 อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจโรงแรมทุกประเภท พ.ศ. .... ตามที่ มท. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้

3. ลดหย่อนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยลดหย่อนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ปรับลดอัตราค่าประกันการใช้ไฟฟ้าเหลือ 1.25 เท่า ของเดือนสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีประวัติการชำระดี โดยคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน ดังนี้

3.1 กฟน. ได้ดำเนินการปรับลดค่าประกันการใช้ไฟฟ้าแล้วรวม 10 ราย เป็นเงิน 6,298,200 บาท

3.2 กฟภ. ได้ดำเนินการกำหนดเรื่องการเรียกเก็บเงินประกันการใช้ไฟฟ้า โดยผ่อนผันให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ทุกประเภทกิจการ ครั้งที่ 1 ประจำเดือน กรกฎาคม 2552 (16 มิถุนายน — 1 กรกฎาคม 2552) ดังนี้

1) กิจการโรงแรม ได้รับการผ่อนผัน 1 ราย วงเงินค้ำประกันลดลงรวม 529,000 บาท

2) จการอื่น ได้รับการผ่อนผัน 5 ราย วงเงินค้ำประกันลดลงรวม 4,514,000 บาท

4. ลดหย่อนค่าธรรมเนียม Landing & Parking Fee

4.1 กรมทางขนส่งทางอากาศ ได้ออกประกาศกรมการขนส่งทางอากาศ เรื่อง ขยายระยะเวลาการลดค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยานและค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยานและสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมการขนส่งทางอากาศ ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2552 โดยลดอัตราค่าธรรมเนียมลงร้อยละ 50 และขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนพิเศษ 87 ง ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552)

4.2 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือระยะยาวแก่สายการบินและผู้ประกอบการร้านค้าและบริการต่างๆ ณ ท่าอากาศยานภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

4.3 ให้กระทรวงการคลัง (กค.) พิจารณาผ่อนปรนเป้าหมายด้านรายได้ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ได้กำหนดเป็นตัวชี้วัด ระดับความสำเร็จ (KPI) ซึ่งขณะนี้ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างพิจารณาปรับตัวเลขเป้าหมายด้านรายได้เพื่อที่จะกำหนดเป็นตัวชี้วัด

5. ลดค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานแห่งชาติเป็นเวลา 3 เดือน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 ต่ออายุประกาศฉบับเดิมออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2552 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนพิเศษ 87 ง ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552)

6. การปรับแผนการฝึกอบรม จัดประชุมสัมมนา และการดูงาน

6.1 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แจ้งให้ส่วนราชการปรับงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2552 มาใช้ในการประชุม อบรม สัมมนา โดยเน้นจัดในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น โดยมอบหมายให้ส่วนราชการปรับปรุงแผนการจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศมากขึ้น แทนการฝึกอบรมดูงานในต่างประเทศ

6.2 กระทรวงการคลังแจ้งว่า ขณะนี้ได้มีพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฏากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฏากร (ฉบับที่ 482) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนที่ 31 ก ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2552 โดยในมาตรา 3 กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เป็นร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าห้องสัมมนาและค่าห้องพักในการอรมสัมมนาภายในประเทศที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง เป็นเวลาหนึ่งรอบระยะเวลาบัญชีสำหรับ รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังลงวันที่ 1 มกราคม 2552

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 กรกฎาคม 2552 --จบ--