ขยายระยะเวลาการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว

เรื่อง ขยายระยะเวลาการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว

และกัมพูชา ในกิจการประมงที่อยู่นอกระบบผ่อนผัน

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบยืนยันมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 ที่ให้ความเห็นชอบเรื่อง การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชาที่อยู่นอกระบบผ่อนผัน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ

2. เห็นชอบขยายระยะเวลาการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชาเฉพาะในกิจการประมง ที่ได้ประกาศไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 จากวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 โดยไม่รวมบุตรและผู้ติดตาม อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับสิ้นสุดไม่เกินวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 สำหรับขั้นตอนการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามขั้นตอนเดิม

ข้อเท็จจริง

1. คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 เห็นชอบแนวทางการดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ที่อยู่นอกระบบผ่อนผัน โดยให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับสิ้นสุดไม่เกินวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 ในกิจการต่างๆ ประกอบด้วย 1) กิจการประมง 2) กิจการเกษตรและปศุสัตว์ 3) กิจการก่อสร้าง 4) กิจการต่อเนื่องประมงทะเล 5) ผู้รับใช้ในบ้าน และ 6) กิจการอื่น ๆ ที่จังหวัดเสนอตามที่จำเป็นและคณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเห็นชอบเป็นครั้งคราว

2. เนื่องจากแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ที่อยู่นอกระบบผ่อนผันมารายงานเพื่อขอรับใบอนุญาตทำงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 โดยกระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศ ให้คนต่างด้าวไปรายงานตัวในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 และให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำงานต่อนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่อธิบดีกรมการจัดหางานประกาศกำหนด ซึ่งปรากฏว่าตั้งแต่วันที่ 1 — 26 กรกฎาคม 2552 มีแรงงานต่างด้าวมารายงานตัว จำนวน 848,328 คน และมาขอรับใบอนุญาตทำงานตั้งแต่วันที่ 1 - 23 กรกฎาคม 2552 จำนวน 79,943 คน ในกิจการต่าง ๆ ดังนี้ 1) กิจการประมง 1,064 คน 2) กิจการเกษตรและปศุสัตว์ 14,939 คน 3) กิจการก่อสร้าง 10,816 คน 4) กิจการต่อเนื่องประมงทะเล 10,862 คน 5) ผู้รับใช้ในบ้าน 8,436 คน และ 6) กิจการอื่นๆ 33,826 คน จะเห็นได้ว่ากิจการประมงมีแรงงานต่างด้าวมาขอรับใบอนุญาตทำงานน้อยที่สุด ซึ่งสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยและสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทยแจ้งว่าสาเหตุที่แรงงานในกิจการประมงมาจดทะเบียนน้อย เนื่องจากในขณะนี้เรือประมงยังคงอยู่กลางทะเลไม่สามารถกลับเข้าฝั่งเพื่อนำแรงงานต่างด้าวมารายงานตัวตามระยะเวลาที่ทางราชการกำหนดได้ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานในกิจการประมง ซึ่งไม่สามารถจัดหาแรงงานไทยเข้าทำงานแทนได้ จึงขอให้ขยายระยะเวลาการนำแรงงานต่างด้าวมารายงานตัวจากวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2552

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 กรกฎาคม 2552 --จบ--