สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝน ครั้งที่ 3

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 29, 2009 14:34 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝน ครั้งที่ 3 ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2552 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย ผลกระทบด้านการเกษตร การให้ความช่วยเหลือ และสถานการณ์น้ำ สรุปได้ดังนี้

สถานการณ์อุทกภัย

ตามที่ฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 21 — 23 กรกฎาคม 2552 ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม ตราด ระยอง และจันทบุรี ปัจจุบันสถานการณ์น้ำลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว

ผลกระทบด้านการเกษตร

พื้นที่ประสบอุทกภัยด้านการเกษตรช่วงภัย 1 พฤษภาคม - 18 กรกฎาคม 2552 ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2552 รวมทั้งสิ้น 35 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี เลย หนองคาย ยโสธร นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี ศรีษะเกษ กาฬสินธุ์ สิงห์บุรี กรุงเทพฯ ชัยนาท อ่างทอง ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎรธานี และสตูล แยกเป็น

ด้านพืช จำนวน 31 จังหวัด เกษตรกร 58,213 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 449,799 ไร่ แยกเป็น ข้าว 356,171 ไร่ พืชไร่ 42,022 ไร่ และพืชสวนและอื่นๆ 51,606 ไร่

ด้านปศุสัตว์ จำนวน 6 จังหวัด เกษตรกร 5,113 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 252,416 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 15,261 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 10,549 ตัว สัตว์ปีก 226,606 ตัว

ด้านประมง จำนวน 14 จังหวัด เกษตรกร 3,849 ราย พื้นที่ประสบภัย 3,978 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 2,567 ไร่ และ 479กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 5,057 ตรม.

การให้ความช่วยเหลือสถานการณ์อุทกภัย

ด้านชลประทาน ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือไปแล้ว 13 จังหวัด จำนวน 191เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 3 จังหวัด จำนวน 37 เครื่อง แยกเป็นรายภาคต่างๆ ดังนี้

ภาค              จังหวัด     เครื่องสูบน้ำ (เครื่อง)   เครื่องผลักดันน้ำ (เครื่อง)   รายชื่อจังหวัด (จำนวนเครื่องผลักดันน้ำ)
ต.อ.เฉียงเหนือ        2             1                    19             มหาสารคาม(1/-) นครราชสีมา(-/19)
กลาง                6            94                    18             นนทบุรี(4/-) พระนครศรีอยุธยา(19/-)

สมุทรสาคร(5/-) สุพรรณบุรี (38/15)

ราชบุรี (1/-) กรุงเทพ(-/3)

ใต้                  3           123                     -             *นครศรีธรรมราช (70) *พัทลุง(20)

*สงขลา(24) พังงา(6) ชุมพร(3)

รวม                 9           218                    37

สถานการณ์น้ำ

1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (27 ก.ค.52) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 42,206 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด มากกว่าปี 2551 (42,002 ล้าน ลบ.ม.) จำนวน 204 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 1 ปริมาตรน้ำใช้การได้ 18,850 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 27,221 ล้าน ลบ.ม.

อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,036 และ 4,972 ล้าน ลบ.ม. ตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 45 และ 52 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 11,008 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 11,964 ล้าน ลบ.ม.

อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 299 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯทั้งหมด สามารถรับน้ำได้อีก 661 ล้าน ลบ.ม.

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่างฯ ดังนี้

อ่างเก็บน้ำ      ปริมาตรน้ำในอ่างฯ        ปริมาตรน้ำใช้การได้     ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ      ปริมาณน้ำระบาย    ปริมาณน้ำ
              ปริมาตร   %ความจุ       ปริมาตร   %ความจุ     วันนี้       เมื่อวานนี้      วันนี้    เมื่อวาน    รับได้อีก
แม่กวง            39        15           25       10    0.25          0.25     1.12      1.05       224
แควน้อย          193        25          157       20    9.17          9.17     6.05      6.05       576
อุบลรัตน์          647        29          237       10    8.53          8.53     3.52      3.62     1,617
ทับเสลา           25        15           17       10    0.00          0.00     0.00      0.00       135

2. สภาพน้ำท่า

ภาคเหนือ

แม่น้ำปิง สภาพน้ำในลำน้ำ พบว่า ด้านเหนือเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ปริมาณน้ำในลำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยและจากท้ายเขื่อนภูมิพลลงมาปริมาณน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ

แม่น้ำวัง สภาพน้ำในลำน้ำ พบว่า ด้านเหนือเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง ปริมาณน้ำในลำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยและจากท้ายเขื่อนกิ่วลมลงมาปริมาณน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ

แม่น้ำยม สภาพน้ำในลำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น

แม่น้ำน่าน สภาพน้ำในลำน้ำ พบว่า ด้านเหนือเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ปริมาณน้ำในลำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยและจากท้ายเขื่อนสิริกิติ์ลงมาปริมาณน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ภาคกลาง

แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท อยู่ในเกณฑ์ปกติ

แม่น้ำป่าสัก สภาพน้ำในลำน้ำ พบว่า ด้านเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ปริมาณน้ำในลำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยและจากท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลงมาปริมาณน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แม่น้ำชีและแม่น้ำมูล สภาพน้ำในลำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย

ภาคตะวันออก

แม่น้ำปราจีนบุรี สภาพน้ำในลำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ภาคใต้

แม่น้ำท่าตะเภา สภาพน้ำในลำน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย

แม่น้ำปัตตานี สภาพน้ำในลำน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย

แม่น้ำตะกั่วป่า สภาพน้ำในลำน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 กรกฎาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ