การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกัมพูชาสำหรับโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 68

คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินงบประมาณ 1,400 ล้านบาท เพื่อให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกัมพูชาสำหรับโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 68 (กลอรันห์-สำโรง-โอเสม็ด) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการคลังรายงานว่า

1. สพพ. ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 68 ดังต่อไปนี้

1.1 ผลการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการฯ ซึ่งดำเนินการโดย Asian Development Bank (ADB) เรื่อง Transpot Infrastructure Development and Maintenance Project สรุปได้ดังนี้

1.1.1 ต้นทุนสำหรับการพัฒนาถนนหมายเลข 68 มีมูลค่าประมาณ 39.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,438.56 ล้านบาท (1USD = 36 บาท) ซึ่งใกล้เคียงกับวงเงินกู้จำนวน 1,400 ล้านบาท

1.1.2 การพัฒนาถนนหมายเลข 68 มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก จากผลการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจจะได้ค่า EIRR เท่ากับร้อยละ 23.53 (Economic Cost of Capital ร้อยละ 13.56)

1.1.3 ปริมาณการจราจรที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตจะส่งผลให้ถนนหมายเลข 68 กลายเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับการขนส่งสินค้าและบริการจากภาคอีสานตอนใต้ไปยังประเทศกัมพูชาและประเทศเวียดนาม โดยมีการคาดการณ์ปริมาณจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ดังตารางต่อไปนี้

       ปี       รถ     รถบัส     รถบรรทุก      มอเตอร์ไซค์      มอเตอร์ไซค์     รถบรรทุก     จักรยาน       รวม
            กระบะ             ขนาดกลาง                      และรถลาก     ขนาดใหญ่
    2558      498       10         242          2,727              8          22      1,126     4,633
    2563      921       12         364          3,895             12          32      1,601     6,837
    2568    1,165       17         546          5,398             17          48      2,277     9,468
    2573    1,455       22         821          7,335             23          72      3,239    12,987
    2576    1,664       24       1,048          8,815             27          91      4,002    15,671

1.1.4 การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE) พบว่ามีผลกระทบเกิดขึ้นบ้างในบางด้าน แต่เป็นผลกระทบในระดับน้อยถึงระดับปานกลางเท่านั้น ทั้งนี้ การกำหนดมาตรการลดผลกระทบอย่างเหมาะสมตามที่เสนอไว้ในรายงาน IEE ของ ADB จะสามารถลดผลกระทบด้านต่างๆ ลงจนอยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้ นอกจากนี้ ADB ได้หารือกับหน่วยงานของรัฐบาลกัมพูชาที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันผลการศึกษาดังกล่าวและได้ข้อสรุปว่า รายงานผลการศึกษา IEE มีความละเอียดเพียงพอและไม่มีความจำเป็นต้องจัดทำรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพิ่มเติม

1.1.5 ในการศึกษาด้านการโยกย้ายประชากรและสิ่งปลูกสร้าง ได้มีการสำรวจภาคสนามตามข้อกำหนดของ ADB ทั้งในปี 2006 และ 2008 และได้จัดทำแผน Resettlement Action Plan ไว้แล้ว ซึ่งในแผนการนี้ได้คำนวณค่าชดเชยทรัพย์สินและค่าซื้อที่ดิน สำหรับทุกครอบครัวที่มีทรัพย์สินหรือที่ดินถูกผลกระทบหรืออยู่ในเขตทางของโครงการไว้ด้วยแล้ว ต้นทุนในการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างและเงินชดเชยให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 649,480 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ 23,381,280 บาท (1 ดอลลาร์สหรัฐ = 36 บาท)

โดยรัฐบาลกัมพูชาเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ทั้งนี้ หลักสำคัญในแผน Resettlement Action Plan คือ ประชาชนในแนวพื้นที่โครงการจะต้องได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการน้อยที่สุด และในกรณีที่ต้องมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือสูญเสียที่ดินสำหรับประกอบอาชีพ รัฐบาลกัมพูชาจะต้องจ่ายเงินชดเชยค่ารื้อถอนและจัดหาที่ดินแห่งใหม่ให้แก่ประชาชนเหล่านั้น โดยชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดังกล่าวจะต้องคงเดิมหรือมีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น

1.1.6 สำหรับการศึกษาด้านการใช้ประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ADB ได้นำเสนอว่า หลังการพัฒนาถนนดังกล่าวแล้วเสร็จจะทำให้ปริมาณการจราจรระหว่างสองประเทศเพิ่มมากขึ้นทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าและบริการจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยไปยังประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ การพัฒนาถนนดังกล่าวควรจะจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างพอเพียงเพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่จะใช้บริการถนนหมายเลข 68 มีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น

2. กระทรวงการคลังได้พิจารณาแล้วเห็นว่า โดยที่รัฐบาลกัมพูชาได้ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากประเทศไทยสำหรับโครงการดังกล่าวผ่านมาหลายรัฐบาล และ สพพ. ได้ดำเนินการมาถึงขั้นเจรจาในรายละเอียดของร่างสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแล้ว และพร้อมที่จะลงนามในสัญญาฯ ระหว่าง สพพ. กับรัฐบาลกัมพูชา โดยมีเงื่อนไขของสัญญาฯ ตามนัยที่กล่าวข้างต้น ซึ่งมีเงื่อนไขเช่นเดียวกับที่ สพพ. เคยให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกัมพูชา คือ โครงการปรับปรุงและลาดยางถนนสายตราด-เกาะกง-สะแรอัมเปิล (R48) และโครงการปรับปรุงถนนสาย 67 (อันลองเวง-เสียมราฐ) นอกจากนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในปี 2552 จำนวน 280 ล้านบาท สำหรับโครงการดังกล่าวแล้ว ดังนั้น จึงเห็นควรอนุมัติเงินงบประมาณจำนวน 1,400 ล้านบาท เป็นรายปีให้ สพพ. ดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่รัฐบาลกัมพูชาสำหรับโครงการดังกล่าวต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 กรกฎาคม 2552 --จบ--