เรื่อง ขอความเห็นชอบแนวทางการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — มาเลเซียครั้งที่ 11 และ
การประชุมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย — มาเลเซีย ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอดังนี้
1. เห็นชอบแนวทางการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — มาเลเซียครั้งที่ 11 และการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย — มาเลเซีย ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2
2. เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความเห็นของประชาชน
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า
1. รัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซียได้เห็นชอบให้จัดตั้งกลไกระดับรัฐบาลในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับมาเลเซียตามนโยบายของประเทศ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2530 รัฐบาลของทั้งสองประเทศได้ทำความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมความร่วมมือทวิภาคีไทย — มาเลเซีย (Joint Commission for Bilateral Cooperation : JC) ให้จัดตั้งกลไกเพื่อกำกับดูแลความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยและมาเลเซียในภาพรวมครอบคลุมด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา วัฒนธรรม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วม ทั้งนี้ นับตั้งแต่การจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมฯ ทั้งสองฝ่ายได้ประชุมร่วมกันแล้ว 10 ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ
2. เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2547 นายกรัฐมนตรีของไทยกับมาเลเซียได้เห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย — มาเลเซีย (Thailand — Malaysia Committee on Joint Development Strategy for border areas : JDS) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างกลไกในการพัฒนาความกินดีอยู่ดีของ ประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ (สงขลา ยะลา สตูล ปัตตานี และนราธิวาส) กับ 4 รัฐ ภาคเหนือของมาเลเซีย (ปะลิส เกดะห์ กลันตัน และเประ เฉพาะอำเภอเปิงกาลันฮูลู) มีกรอบความร่วมมือ 9 สาขา อาทิ การพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการศึกษา การท่องเที่ยวและ การเกษตร คณะกรรมการดังกล่าวมีการประชุม 3 ระดับ คือ ระดับรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่อาวุโส และคณะทำงาน
3. ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — มาเลเซีย ครั้งที่ 11 และการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย — มาเลเซีย ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ควรกำหนดระเบียบวาระการประชุมในลักษณะเดียวกันกับการประชุมครั้งที่ผ่านมา ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือรอบด้าน ได้แก่ (1) การเมืองและความมั่นคง (2) เศรษฐกิจ (3) สังคมและวัฒนธรรม เพื่อให้การประชุมดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจากแนวทางการประชุมดังกล่าวมีสาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นด้านการเมือง และความมั่นคงรวมทั้งประเด็นด้านเศรษฐกิจและสังคม หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้าการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ อาจเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงได้เสนอแนวทางการประชุมฯ มาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของเรื่อง
แนวทางการเจรจาของฝ่ายไทยในการประชุม มีดังนี้
1. เป้าหมายหลักของการประชุม เพื่อรักษาพลวัตรของความสัมพันธ์ไทย — มาเลเซียจากการเยือนมาเลเซียของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552 และใช้ประโยชน์จากสถานะความสัมพันธ์อันดีเพื่อผลักดันความ ร่วมมือระหว่างกันให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปโดย
1.1 ทบทวนและติดตามการดำเนินการตามผลการประชุมครั้งที่ผ่านมา และผลการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี
1.2 หารือแนวทางแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินความร่วมมือระหว่างกัน
1.3 สานต่อความร่วมมือในการสร้างความไว้วางใจเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
1.4 กระชับและส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้แทนหน่วยงานของทั้งสองฝ่าย
2. แนวทางการหารือคณะผู้แทนฝ่ายไทย ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะ และผู้แทนจากหน่วยงานที่รับผิดชอบความร่วมมือด้านต่างๆ จะยึดหลักการหารือตามกรอบความตกลงและแนวนโยบาย ที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซียได้เห็นชอบร่วมกันแล้ว รวมถึงผลการประชุมจากกลไกและแผนงานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและมาเลเซียเป็นสำคัญ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 กรกฎาคม 2552 --จบ--