ขอความเห็นชอบแนวทางการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — กัมพูชา ครั้งที่ 6

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 29, 2009 14:50 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอดังนี้

1. เห็นชอบแนวทางการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — กัมพูชา ครั้งที่ 6

2. เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความเห็นของประชาชน

กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า

1. รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้เห็นชอบให้มีการจัดตั้งกลไกระดับรัฐบาลเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทย — กัมพูชาในด้านต่างๆ ซึ่งต่อมา รัฐบาลของสองประเทศได้จัดทำความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — กัมพูชา (Joint Commission for Bilateral Cooperation : JC) เพื่อเป็นกลไกกำกับดูแลความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีไทย — กัมพูชาในภาพรวม ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม ภายหลังการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายได้จัดประชุมแล้ว 5 ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ

2. ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — กัมพูชา ครั้งที่ 6 ควรกำหนดระเบียบวาระการประชุมในลักษณะเดียวกันกับการประชุมครั้งที่ผ่านมา ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือรอบด้าน ได้แก่ (1) การเมืองและความมั่นคง (2) เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว (3) การศึกษา สังคม วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ สิ่งแวดล้อม รวม 30 ประเด็น เพื่อให้การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย — กัมพูชา ครั้งที่ 6 ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจากแนวทางการประชุมดังกล่าวมีสาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นด้านการเมือง และความมั่นคง รวมทั้งประเด็นด้านเศรษฐกิจและสังคม หรือมีผลกระทบต่อความ มั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ อาจเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงได้เสนอแนวทางการประชุมฯ ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ

สาระสำคัญของเรื่อง

แนวทางการเจรจาของฝ่ายไทยในการประชุม มีดังนี้

1. เป้าหมายหลักการของการประชุม เพื่อทบทวนและรักษาพลังขับเคลื่อนของความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีไทย - กัมพูชาให้ประสบความก้าวหน้า เนื่องจากความสัมพันธ์ไทย — กัมพูชาในปัจจุบัน ได้รับผลกระทบจากกรณีการเสนอขอขึ้นค้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา และสถานการณ์ชายแดนไทย — กัมพูชาบริเวณเข้าพระวิหาร รวมทั้งผลักดันความร่วมมือไทย- กัมพูชาในสาขาอื่น ให้ปรากฏความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองฝ่าย โดย

1.1 ทบทวนและติดตามความร่วมมือจากผลการประชุม JC ครั้งที่ 5 และผลการเยือนของผู้นำไทย - กัมพูชาในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

1.2 เจรจาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างและอุปสรรคในการดำเนินความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีต่อกัน

1.3 กระชับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานคู่เจรจาของทั้งสองฝ่าย

2. แนวทางการหารือ คณะผู้แทนฝ่ายไทย ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะ และผู้แทนจากหน่วยงานที่รับผิดชอบในการส่งเสริมความร่วมมือตามระเบียบการประชุม จะยึดหลักแนวทางการหารือตามกรอบความตกลง แนวนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา และแนวทางความร่วมมือที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาเห็นชอบร่วมกันแล้ว ตลอดจนผลการประชุมของกลไกความร่วมมือและแผนงานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและกัมพูชาเป็นสำคัญ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 กรกฎาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ