คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติที่เห็นชอบให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อดำเนินการจัดตั้งวัด จำนวน 3 แห่ง ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (บางส่วน) เพื่อจัดตั้งวัดบ้านทุ่งนาเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
2. เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย (บางส่วน) เพื่อจัดตั้งวัดดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่
3. เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูซาง (บางส่วน) เพื่อจัดตั้งวัดพระธาตุขุนบง จังหวัดพะเยา
สาระสำคัญของเรื่อง
1. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รายงานว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดส่งรายงานการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติที่มีมติเห็นชอบให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเพื่อดำเนินการจัดตั้งวัด จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ วัดบ้านทุ่งนาเมือง จังหวัดอุบลราชธานี วัดดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ และวัดพระธาตุขุนบง จังหวัดพะเยา ให้ พศ.ดำเนินการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อ ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2532 เรื่อง แนวทางปฏิบัติการขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ สรุปสาระสำคัญของมติดังกล่าวได้ ดังนี้
1.1 คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้ประชุม ครั้งที่ 1/2539 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2539 เห็นชอบให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (บางส่วน) เนื้อที่ 15 ไร่ ท้องที่ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงจียม จังหวัดอุบลราชธานี ให้ พศ.ดำเนินการจัดตั้งวัดบ้านทุ่งนาเมือง (วัดถ้ำอมรวิสุทธาราม) โดยอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายยงยุทธ ติยะไพรัช) ได้ลงนามให้ความเห็นชอบมติที่ประชุมดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2549
1.2 คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้ประชุม ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2549 มีมติเห็นชอบ ดังนี้
1.2.1 ให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย (บางส่วน) เนื้อที่ 15 ไร่ ท้องที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ พศ.ดำเนินการจัดตั้งวัดดอยปุย
1.2.2 ให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูซาง (บางส่วน) เนื้อที่ 14 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา ท้องที่ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เพื่อให้ พศ.ดำเนินการจัดตั้งวัดพระธาตุขุนบง โดยอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ได้ลงนามให้ความเห็นชอบมติที่ประชุมดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2550
1.3 ที่พักสงฆ์ทั้ง 3 แห่ง ได้ก่อสร้างอย่างมั่นคงถาวรเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีสถานภาพเป็นวัดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 เนื่องจากสถานที่ตั้งที่พักสงฆ์อยู่ภายในเขตพื้นที่ที่ทางราชการกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นปัญหาข้อยุ่งยากที่ทำให้ยังไม่ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดินที่จะใช้ประกอบเรื่องขออนุญาตสร้างวัด ตั้งวัด ตามขั้นตอนและวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2507) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แต่ด้วยเหตุผลและความจำเป็นที่สมควรจะได้ดำเนินการให้ที่พักสงฆ์ดังกล่าวเป็นวัดโดยสมบูรณ์ในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นที่พำนักอาศัยและประกอบศาสนกิจได้ตามพระธรรมวินัยของพระภิกษุสามเณร เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลและประกอบศาสนพิธีตามขนบธรรมเนียมประเพณีของพุทธศาสนิกชนทั้งเป็นประโยชน์ในการช่วยอนุรักษ์ป้องกันการบุกรุกป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติได้เป็นอย่างดี จึงจำเป็นต้องขอเพิกถอนพื้นที่ที่ตั้งที่พักสงฆ์ออกจากเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อให้ พศ. ดำเนินการจัดตั้งวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 สิงหาคม 2552 --จบ--